หากเราสังเกตดูเทรดเดอร์มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จ จะพบว่ามีสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันเกือบทุกคน นั่นคือ “ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงอย่างยอดเยี่ยม”

แม้ว่าเราจะมีกลยุทธ์การเทรดที่ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ความสำเร็จในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับ วิธีที่เราจัดการกับความเสี่ยงพร้อมกับกลยุทธ์นั้น ต่างหาก

บทความนี้ได้รวบรวม 19 เคล็ดลับ การบริหารความเสี่ยงที่สำคัญ ที่เทรดเดอร์ควรมีไว้เป็นแนวทาง หากนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้อย่างจริงจังและสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดและประสบความสำเร็จในตลาดได้ ไม่ว่าจะเจอสภาวะตลาดแบบไหนก็ตาม

1. กำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ก่อนเริ่มเทรด เราต้องเข้าใจว่าตัวเองสามารถรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน นี่คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

2. เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย

เริ่มเทรดด้วยพอร์ตเล็ก ๆ เพื่อทดสอบกลยุทธ์เพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับการเทรด วิธีนี้จะช่วยลดความสูญเสียในช่วงเริ่มต้นได้มาก

3. กระจายพอร์ตการลงทุน

อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว การกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ หรือหลายตลาดจะช่วยลดความเสี่ยงได้

4. ใช้ Stop loss

จัดการความเสี่ยงด้วยการตั้ง Stop loss กำหนดจุดหยุดขาดทุนเมื่อราคาลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

5. ควบคุมอารมณ์ให้ดี

การเทรดด้วยอารมณ์อาจทำให้คุณหลุดจากแผนการบริหารความเสี่ยงที่วางไว้ จงยึดมั่นในกฎและกลยุทธ์ที่เราได้กำหนดไว้เสมอ

6. ใช้ Risk-Reward Ratio

ก่อนเข้าเทรด ควรประเมินว่าเราจะขาดทุนเท่าไหร่เมื่อเทียบกับกำไรที่จะได้รับ การเทรดที่ดีควรเลือกเปิดสถานะในจุดที่ RRR ดี

7. เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ควรปรับตัวและเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

8. ทดสอบกลยุทธ์ย้อนหลัง (Backtest)

ก่อนนำกลยุทธ์ใหม่มาใช้ ควรทดสอบกับข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์นั้นก่อน

9. ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง

แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มโอกาสในการขาดทุนเช่นกัน ควรใช้เท่าที่จำเป็นและต้องเข้าใจความเสี่ยงที่มาพร้อมกับมัน

10. ติดตามสถานะการเทรดที่เปิดอยู่

ตรวจสอบสถานะการเทรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ และปรับกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

11. จดบันทึกการเทรด (Trading Journal)

การจดบันทึกการเทรดช่วยให้เห็นภาพรวมของการเทรดอย่างชัดเจน ทั้งจุดเข้าออก เหตุผล และผลลัพธ์ ช่วยวิเคราะห์ข้อผิดพลาด ปรับปรุงกลยุทธ์ เสริมวินัย และติดตามพัฒนาการในระยะยาว ทำให้เข้าใจพฤติกรรมตัวเองและหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำได้ดีขึ้น

12. อย่าเทรดมากเกินไป (Overtrade)

การเทรดบ่อยไม่ได้แปลว่าจะได้กำไรมากขึ้นเสมอไป การเทรดมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงและต้นทุนในการทำธุรกรรม ทำให้กำไรลดลงได้ในระยะยาว

13. ประเมินสภาพตลาด

การรับรู้ว่าตลาดอยู่ในช่วงมีแนวโน้มหรือเคลื่อนไหวในกรอบ (Sideway) จะช่วยให้เราเลือกใช้เทคนิคการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

14. เรียนรู้ที่จะการขาดทุน

เทรดเดอร์ทุกคนต้องเจอกับการขาดทุน ต้องยอมรับมันว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด และเรียนรู้การขาดทุนนั้น

15. ระวัง FOMO (กลัวพลาดโอกาส)

ความกลัวว่าจะพลาดโอกาสอาจทำให้ตัดสินใจอย่างเร่งรีบและไร้เหตุผล จงมีวินัยและยึดมั่นในแผนการเทรดเสมอ

16. วิเคราะห์การเทรดที่ล้มเหลว

ศึกษาการเทรดที่ไม่สำเร็จอย่างจริงจัง ให้พอ ๆ กับการศึกษาการเทรดที่ได้กำไร เพื่อหาจุดที่เราทำพลาดและปรับปรุงให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป

17. ใช้การวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน

การผสานการวิเคราะห์ทั้งสองแบบจะช่วยให้เรามองตลาดได้รอบด้านมากขึ้น และจะทำให้การตัดสินใจในการเทรดแม่นยำยิ่งขึ้น

18. กำหนดขีดจำกัดการขาดทุนรายสัปดาห์ หรือ รายเดือน

ตั้งขีดจำกัดการขาดทุนในแต่ละสัปดาห์หรือเดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ช่วงที่ขาดทุนต่อเนื่องส่งผลกระทบรุนแรงต่อพอร์ตของเรา

19. ปรับกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา

ทบทวนและปรับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของเราอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังจากเกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ หรือเมื่อสภาพตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

หลังจากทราบ 19 เคล็ดลับการบริหารความเสี่ยงไปแล้ว ขั้นต่อไปคือการลงมือปฏิบัติจริง ทบทวนแผนการเทรด ปรับปรุงจุดอ่อน เสริมจุดแข็ง ทำการจดบันทึกผลลัพธ์ทุกครั้งเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ย้อนหลัง หมั่นประเมินสถานะพอร์ตและสถานการณ์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญที่สุดคือมีวินัย และไม่ปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบงำ ทุกการเทรดควรมีเหตุผลและแผนรองรับเสมอ เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในตลาดได้อย่างยั่งยืน