นำเสนอ สัญญาณเทรดหุ้นไทย ที่ชื่อว่า B-signal ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละอยู่ที่ 14.69% โดยเป็นกลยุทธ์ลักษณะ Mean reversion (ซื้อเมื่ออ่อนตัว ขายเมื่อเด้งกลับ)

สถิติของ B-Signal ในการเทรดหุ้นไทย

  • ตั้งแต่วันที่ 01 Jan 2017 ถึง 31 Dec 2023

ทำไมต้องช่วงนี้ ??? เพราะว่า ช่วงดังกล่าว SET Index มีทั้งขาขึ้น ขาลง และ Sideway เพื่อพิสูจน์ว่า กลยุทธ์นี้สามารถทนต่อทุกสภาวะตลาด

เรามาดูรายละเอียดแต่ละอันกัน

  • Initial Capital เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท
  • Ending Capital เงินลงทุนสุดท้ายที่ 2,604,110.70 บาท
  • Net Profit % อยู่ที่ 160.41%
  • คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Annual Return%) ที่ 14.69%
  • หักค่าคอมมิชชั่นไปแล้ว ที่ระดับ 0.16%
  • เทรดทั้งหมด 1,868 ไม้ (เฉลี่ย ปีละ 266 ไม้ ต่อปี)
  • ถือครองเฉลี่ย (Avg. Bars Held) ที่ 9.10 วัน
  • Win rate อยู่ที่ 64.03%
  • Max. System % drawdown อยู่ที่ 11.22%

ซึ่งกลยุทธ์นี้อย่างที่บอกเป็น Mean reversion ทำให้ Win rate ค่อนข้างสูง อยู่ที่ราว 64% และที่สำคัญ Max.DD ค่อนข้างต่ำ เพียง 11.22% นั่นหมายความว่า การเทรดทั้งหมดที่ผ่านมา 7 ปี พอร์ตติดลบสูงสุดที่ประมาณ 274,000 บาท เท่านั้นเอง ขณะที่ระยะเวลาการถือครองก็ไม่นานอยู่ที่ประมาณ 9 วัน (โดยปกติ ไม้ที่ชนะ จะถือครองไม่นาน แต่ไม้ที่แพ้ จะถือนาน)

Portfolio Equity – กราฟมูลค่าพอร์ต

  • กราฟของมูลค่าพอร์ต ที่ผ่านมาเป็นลักษณะ “เฉียงขึ้น”
  • แสดงถึงการเติบโตที่สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง
  • จะแตกต่างกับกลยุทธ์พวก Trend following ที่จะกราฟผันผวน ไม่เสถียร เพราะ จะทำกำไรได้ต่อเมื่อตลาดเป็นเทรน แต่ขณะที่ B-signal เติบโตเรื่อยๆ แม้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม

Underwater Equity – กราฟ Drawdown

  • Max. system drawdown อยู่ที่ 11.22%

Profit Table – ตารางผลตอบแทนแต่เดือน และแต่ละปี

  • ผลตอบแทนในทุกปี เป็นบวกทั้งสิ้น
  • เฉลี่ยผลตอบแทนต่อปีอยู่ราว 0.2-2.0%
  • เดือนที่ บวก สูงสุด คือ Sep 2017 อยู่ที่ 8.4%
  • เดือนที่ ลบ สูงสุด คือ Feb 2020 อยู่ที่ -5.9%

Profit distribution – การกระจายตัวของผลตอบแทนในแต่ละไม้

  • ส่วนใหญ่จะไม้ที่เทรดจะอยู่ในช่วง 0 ถึง 5%
  • รองลงมาคือ -5 ถึง 0%
  • ส่วนบวกมากสุดที่ +60%
  • และ ลบสูงสุดที่ -100% รองลงมาที่ -65%

หลักการเทรดของ B-signal

  • กลยุทธ์ Mean reversion
  • เข้าที่ ATO ออกที่ ATO (ATO คือ ระดับราคาเปิดของหุ้นในแต่ละวัน)
  • Position size แบ่ง 10 ไม้ ไม้ละเท่าๆ กัน
  • Stop loss ใช้ Signal Stop

ตัวอย่างการเข้า ออก ที่ ATO

  • ซื้อ และ ขาย ที่ระดับ ATO

  • Signal Stop คือ การตัดขาดทุน ตามสัญญาณ ไม่ใช่ตามระดับราคา
  • โดยปกติ จะตัดขาดทุน จนกว่าราคาจะเกิดการเด้งกลับ
  • หุ้นส่วนใหญ่ที่ขาดทุน มักจะถือครองค่อนข้างนาน

ตัวอย่าง หุ้นที่ชนะสูงสุด 58.97%

  • หุ้นที่ชนะ มักจะถือครองไม่นาน (ตัวอย่าง แค่ 3 วัน เท่านั้น)
  • เฉลี่ยอยู่ที่ 6.04 วัน

ตัวอย่าง หุ้นที่แพ้สูงสุด 63.01%

  • ไม้ที่แพ้ จะถือครองค่อนข้างนาน (ตัวอย่าง ถือทั้งสิ้น 22 วัน เกือบเดือน!)
  • เฉลี่ยอยู่ที่ 14.55 วัน

วิธีการใช้งาน B-Signal

  • มูลค่าพอร์ตแนะนำ 500,000 – 1,000,000 บาท (แนะนำไม่เกิน 5,000,000 บาท)
  • แบ่งไม้เป็น 10 ไม้
    • สมมุติ พอร์ต 1,000,000 บาท แบ่ง 10 ไม้ ได้ไม้ละ 100,000 บาท
  • ซื้อตามสัญญาณที่ ATO (ตั้งก่อนตลาดเปิด 10 โมงเช้า)
  • ขายตามสัญญาณที่ ATO (ตั้งก่อนตลาดเปิด 10 โมงเช่าเช่นเดียวกัน

ผลตอบแทนที่คาดหวัง

  • 7% – 9% ต่อปี (ให้หวังน้อยกว่า ผล Backtest เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยหากได้มากกว่านี้ ถือว่าเป็นโบนัส)
    • หากพอร์ตมูลค่า 1,000,000 บาท คาดหวังผลตอบแทนที่ 7% ต่อปี จะเท่ากับ 70,000 บาท (จะอยู่ที่ 5,833 บาท ต่อเดือน)

ข้อควรระวัง การใช้งาน B-Signal

  • ไม่ควรเล่นนอกสัญญาณ
  • ให้ทำตามระบบอย่างเคร่งครัด
  • ต้องเข้าใจช่วง Drawdown
  • อย่างคาดหวังสูงเกินจริง
  • ไม่ควรเล่นไม้ที่ใหญ่เกิน Bid Offer รองรับ
  • ให้ตรวจสอบสภาพคล่องของหุ้นที่จะเทรดด้วย

“มีสรุปผลการเทรดจริงทุกเดือน”

หากสนใจ

  • ทักมาสอบถามทาง Line ที่ @een5211e
  • หรือ Scan QR  ตามรูปด้านล่างนี้
  • เปิดรับเพียง 10 คน แรกเท่านั้น