เราอาจจะได้ยินชื่อมหาวิทยาลัย MIT จากภาพยนตร์ต่างประเทศหลายๆเรื่อง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจักรวาลMarvel) แต่รู้ไหมว่า MIT เป็นสถาบันที่มีตัวตนจริงๆ แถมยังเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย และบทความนี้จะมาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนี้กัน
ประวัติ MIT
MIT เคยมีชื่อไม่เป็นทางการว่า “บอสตันเทค” (Boston Tech) ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Massachusetts Institute of Technology หรือ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงด้านการเรียนการสอนและงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อตั้งเมื่อ 10 เมษายน ค.ศ. 1861 ผู้ก่อตั้งคือ วิลเลียม บาร์ตัน โรเจอร์ส (William Barton Rogers) โดยเขาต้องการปฏิรูปการศึกษารูปแบบใหม่ โดยรวมเอาทั้งสติปัญญา จิตใจ ภาคทฤษฎีและการปฏิบัติเข้าไว้ด้วยกัน คือไม่ได้เน้นเรียนแค่ทฤษฎีเท่านั้น แต่เน้นสัมมนาและปฏิบัติจริงในห้องแล็บด้วย
ปัจจุบันมีผู้เกี่ยวข้องกับสถาบัน ทั้งเป็นอาจารย์ ศิษย์เก่า หรือนักวิจัย ได้รับรางวัลโนเบลมากกว่า 100 คน ซึ่งสาขาที่ได้รับรางวัลมากสุดคือ ฟิสิกส์ เคมี เศรษฐศาสตร์
MIT แบ่งออกเป็น 32 ภาควิชา ใน 5 คณะ ได้แก่
- คณะวิศวกรรมศาสตร์
ใหญ่ที่สุดของMIT เช่น วิศวกรรมคอมพิวเตอร์, ไฟฟ้า, เครื่องกล, เคมี, อากาศยาน ฯลฯ
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการวางแผน
สถาปัตยกรรม, การวางผังเมือง, สื่อและเทคโนโลยีการออกแบบ ฯลฯ
- คณะมนุษยศาสตร์ ศิลปะศาสตร์และสังคมศาสตร์
เศรษฐศาสตร์, ปรัชญา, ภาษาศาสตร์, การเมือง ฯลฯ
- คณะการจัดการ
ธุรกิจ, การจัดการ, MBA, การเงิน ฯลฯ
- คณะวิทยาศาสตร์
ฟิสิกส์, เคมี, คณิตศาสตร์, ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์และอวกาศ ฯลฯ
กับอีก 1 วิทยาลัยเฉพาะทาง : MIT Schwarzman College of Computing เน้นAI วิทยาการคอมพิวเตอร์ การประมวลผลข้อมูลขั้นสูง
เรื่องราวที่น่าสนใจของ MIT
- ปรัชญาของ MIT คือเชื่อว่าการศึกษาที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อนักเรียนมีแรงบันดาลใจในตนเองและมีส่วนร่วมในชุมชน
- เปิดกว้างยอมรับนักศึกษาต่างชาติ รวมถึงนักศึกษา LGBTQ+ โดยไม่มีการแบ่งแยก
- มีทุนการศึกษาให้จากการบริจาคของศิษย์เก่าและผู้สนับสนุนต่างๆ โดยที่น่าสนใจคือตั้งแต่ปีการศึกษา 2025–2026 เป็นต้นไป นักศึกษาที่มีรายได้ครอบครัวต่ำกว่า 200,000 ดอลลาร์ต่อปี (สินทรัพย์ทั่วไป) จะเข้าเรียนที่ MIT ได้โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน และยังมีทุนช่วยเหลือนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่มีรายได้น้อยเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงปรับตัวเข้ามหาวิทยาลัย เช่น ค่าผ้าปูที่นอนและผ้าขนหนูหรือเสื้อกันหนาว และนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีทุนอื่นๆที่คอยช่วยเหลือนักศึกษาอีก
- Quacquarelli Symonds (QS) สถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ เผยแพร่รายงานการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 ซึ่งการจัดอันดับในปีนี้มีมหาวิทยาลัยมากกว่า 1,500 แห่ง พบว่าสถาบัน MIT ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน และยังครองอันดับหนึ่งใน 11 สาขาวิชาอีกด้วย
- สถาบันระดับท็อปขนาดนี้ แน่นอนว่าค่าเล่าเรียนก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน คือมีค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนอยู่ที่ปีละกว่า 2 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าหอ ค่ากินอยู่ ค่าหนังสือเรียน ฯลฯ) แต่หลังจบการศึกษา ค่าเฉลี่ยของเงินเดือนอยู่ที่ปีละประมาณ 3 ล้านบาทขึ้นไป
สมัครเข้ายากแค่ไหน
- ผู้สมัครระดับปริญญาตรี ปี 2024 ประมาณ 26,914 คน ได้รับการตอบรับประมาณ 1,275 คน หรือคิดเป็น 7% เท่านั้น
- ควรมีคะแนน SAT ประมาณ 1500 ขึ้นไป (คะแนนเต็ม1600) หรือคะแนน ACT 34 ขึ้นไป (คะแนนเต็ม36) จะได้เปรียบกว่า และสำหรับผู้ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นเจ้าของภาษาก็อาจต้องมีคะแนน IELTS, TOEFL ประกอบด้วย
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีรายละเอียดสำหรับการสมัครอีกมากทั้งการสอบสัมภาษณ์ การสร้างportfolios และการตอบคำถามสั้นๆเกี่ยวกับชีวิต ทัศนคติ และเป้าหมาย ซึ่งกว่าจะเข้าได้นั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ
มาดูศิษย์เก่า MIT กันบ้าง
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี : ทรงเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าของ MITเช่นกัน โดยทรงสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวเคมี
คุณ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ : อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่ากรุงเทพมหานครคนที่ 17 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง
คุณ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ : อดีตนายกสภาวิศวกร และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านนโยบายและเทคโนโลยี และปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม
Kofi Annan: ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและอดีตเลขาธิการสหประชาชาติ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาการจัดการจาก Sloan School of Management
Buzz Aldrin: นักบินอวกาศและบุคคลที่สองต่อจาก นีล อาร์มสตรอง ที่เดินบนดวงจันทร์ระหว่างภารกิจอะพอลโล 11 เขาได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตสาขาอวกาศจาก
Salman Khan: ผู้ก่อตั้ง Khan Academy ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ Khan สำเร็จการศึกษาหลายปริญญาจาก MIT รวมถึงปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์และปริญญาโทสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์
Andrea Ghez: นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์และผู้ได้รับรางวัลโนเบลผู้ค้นพบหลุมดำมวลมหาศาลที่ใจกลางกาแลคซีของเรา เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์
สาระเพิ่มเติม
เคยมีความพยายามที่จะรวม MIT เข้ากับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ลอว์เร็นซ์ (Lawrence Scientific School) ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากคณะอาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่า สุดท้ายในปี ค.ศ. 1917 การตัดสินของศาลสูงสุดของรัฐแมสซาชูเซตส์ ก็ได้ยุติแผนการที่จะรวมสถาบันทั้งสองเข้าด้วยกัน
บทสรุป
แน่นอนว่าการสำเร็จการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นบันไดแห่งการยอมรับในหลายๆด้าน ทั้งการงาน การเงินและความน่าเชื่อถือ แต่การเรียนรู้ที่ดีอาจไม่ได้มาจากแค่ชื่อเสียงของสถาบันที่เรียนเท่านั้น แต่ต้องรวมไปถึงการเรียนรู้อื่นๆประกอบกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาความคิดและการแก้ปัญหาต่างๆ และที่สำคัญหากสามารถนำความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ทางสังคมได้ด้วยแล้ว คงจะน่าชื่นชมไม่น้อย
ขอขอบคุณข้อมูล :
- https://news.mit.edu/2024/qs-ranks-mit-worlds-no-1-university-0604 ,
- https://mitadmissions.org/ , Undergraduate students | MIT Student Financial Services
- https://th.wikipedia.org , https://www.springnews.co.th/infographic/822942 ,
- FB : Massachusetts Institute of Technology (MIT)