สารบัญ
Heikin-Ashi คือ
Heikin-Ashi เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากรูปแบบปกติขึ้นมา จุดเด่นคือจะสามารถลด Noise การแกว่งตัวของราคาออก เพื่อที่จะทำให้มองแนวโน้มได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
Heikin (平均) ในภาษาญี่ปุ่นหมายความว่า “ค่าเฉลี่ย” ส่วน Ashi (足) หมายความว่า “เท้า” เมื่อรวมกันก็จะสามารถสื่อความหมายถึง “การเคลื่อนไหวค่าเฉลี่ยของราคา”
บางที่จะสะกดว่า Heikin-Ashi และบางที่จะสะกดว่า Heiken-Ashi ซึ่งเหมือนกัน
สูตรการคำนวณ
Heikin-Ashi Candlesticks จะใช้ค่า open-close ของวันก่อนหน้า กับค่า open-high-low-close ของวันปัจจุบัน มาสร้างรูปแบบแท่งเทียนนี้
โดยจะมีพื้นฐานการคำนวณอยู่ 3 ส่วน คือ
- open-high-low-close ของราคาปัจจุบัน
- ค่า Heikin-Ashi ปัจจุบัน
- ค่า Heikin-Ashi ก่อนหน้า
การคำนวณ ( 0 = แท่งปัจจุบัน , -1 = แท่งก่อนหน้า และ HA = Heikin-Ashi )
ปกติ 1 แท่งเทียนทั่วไปจะประกอบด้วย 4 ค่า คือ open-high-low-close ซึ่ง Heikin-Ashi ก็เช่นเดียวกันจะประกอบด้วย 4 ค่า ดังต่อไปนี้
1. Heikin-Ashi Close คือ ค่าเฉลี่ยของ open-high-low-close ของแท่งปัจจุบัน
HA-Close = (Open(0) + High(0) + Low(0) + Close(0)) / 4
2. Heikin-Ashi Open คือ ค่าเฉลี่ยของ ราคาเปิดของ Heikin-Ashi ในแท่งก่อนหน้า และ ราคาปิดของ Heikin-Ashi ในแท่งก่อนหน้า
HA-Open = (HA-Open(-1) + HA-Close(-1)) / 2
3. Heikin-Ashi High คือ ค่าสูงสุดของ 3 ค่าต่อไปนี้
- ราคา High ปัจจุบัน
- ราคาเปิดของ Heikin-Ashi ปัจจุบัน
- ราคาปิดของ Heikin-Ashi ปัจจุบัน
HA-High = Maximum of the High(0), HA-Open(0) or HA-Close(0)
4. Heikin-Ashi Low คือ ค่าต่ำสุดของ 3 ค่านี้
- ราคา Low ปัจจุบัน
- ราคาเปิดของ Heikin-Ashi ปัจจุบัน
- ราคาปิดของ Heikin-Ashi ปัจจุบัน
HA-Low = Minimum of the Low(0), HA-Open(0) or HA-Close(0)
สังเกตได้ว่า การคำนวณ Heikin-Ashi จะใช้แท่ง Heikin-Ashi ก่อนหน้าด้วย ซึ่งในการคำนวณ Heiken-Ashi แท่งแรกสุดเพื่อเริ่มการคำนวณ จะใช้ค่า Close เท่ากับ (O+H+L+C)/4 ส่วนค่า Open จะใช้ (O+C)/2 (ซึ่งจะเห็นได้ว่าการคำนวณแท่งแรกสุดของ Heikin-Ashi นั้นต่างแตกจากปกติ แต่ผลกระทบนี้จะค่อยๆหายไปเมื่อเกิดแท่ง Heikin-Ashi ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยปกติประมาณ 7-10 แท่ง)
ตัวอย่างการคำนวณ
จากกราฟข้างต้น เป็นตัวอย่างการเปรียบเทียบระหว่างกราฟแท่งเทียนทั่วไป กับ กราฟ Heikin-Ashi
การตีความหมาย
Heikin-Ashi มีส่วนที่คล้ายกับ แท่งเทียนทั่วไป และมีบางส่วนที่แตกต่าง
ส่วนที่คล้ายกับ แท่งเทียนทั่วไป คือ Heikin-Ashi เป็นสี ขาว/เขียว เมื่อราคาปิด สูงกว่า ราคาเปิด และ Heikin-Ashi เป็นสี ดำ/แดง เมื่อ ราคาปิด ต่ำกว่า ราคาเปิด … ซึ่งเหมือนกับแท่งเทียนปกติทั่วไป
แต่ในส่วนที่แตกต่างนั้น คือ Heikin-Ashi จะแตกต่างจากแท่งเทียนปกติทั่วไป ในช่วงที่แท่งเทียน Heikin-Ashi มีลักษณะสีขาว/เขียว ยาวๆ ก็จะชี้ให้เห็นถึงแรงซื้อที่หนาแน่นในช่วง 2 วันก่อนหน้า และการยก Low ที่สูงขึ้นเรื่อยๆของแท่งเทียน Heikin-Ashi ก็แสดงถึงความแข็งแกร่งของแรงซื้อเช่นเดียวกัน ในทางตรงกันข้าม หาก Heikin-Ashi เกิดลักษณะสีแดง/ดำ ก็จะชี้ให้เห็นถึงแรงขายที่หนาแน่นในช่วง 2 วันก่อนหน้า และการทำ High ที่ต่ำลงเรื่อยๆของแท่งเทียน Heikin-Ashi ก็แสดงถึงความแข็งแกร่งของแรงขายเช่นเดียวกัน
จากกราฟข้างต้น หุ้น QQQ ในกราฟ Heikin-Ashi และกราฟแท่งเทียนทั่วไป
ลูกศรสีน้ำเงิน แสดงถึงช่วงที่ Heikin-Ashi สะท้อนถึงแรงซื้อและแรงขายที่ต่อสู้กัน (ยังไม่รู้ว่าใครชนะ) ในขณะที่แท่งเทียนปกติทั่วไปเป็นลักษณะ สีขาวและดำ 2 แท่ง ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณในการกลับตัวของราคา
ลูกศรสีแดง เป็นช่วงที่แท่งเทียน Heikin-Ashi ปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยสังเกตจากการทำ High ที่ต่ำลงต่อเนื่องของแท่งเทียน (ไม่มีไส้เทียนด้านบนเลย) แสดงถึงแนวโน้มขาลง
ลูกศรสีเขียว แสดงถึงช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แท่งเทียน Heikin-Ashi ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ยก Low สูงขึ้นต่อเนื่อง (ไม่มีไส้เทียนด้านล่าง) แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น
Doji และ Spinning Tops ใน Heikin-Ashi
รูปแบบแท่งเทียนใน Heikin-Ashi มีไม่เยอะเท่า รูปแบบแท่งเทียนปกติทั่วไป โดยจะมีเพียง 2 รูปแบบเท่านั้น ก็สามารถหาสัญญาณการกลับตัวของราคา คือ
- Doji
- Spinning Tops
คล้ายกับรูปแบบแท่งเทียนปกติที่ 2 รูปแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึง การต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายที่ยังไม่รู้ว่าใครชนะ ซึ่งมักจะเป็นจุดกลับตัวของรอบการแกว่งตัวนั่นเอง
เมื่อใช้กราฟ Heikin-Ashi เมื่อเกิด Doji หรือ Spinning Tops ยังไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าแนวโน้มต้องเปลี่ยน จะต้องถูกยืนยันการ Breakout ผ่านแนวรับหรือแนวต้านก่อน ถึงจะยืนยันรอบการกลับตัวนั้น
ตัวอย่างกราฟด้านบน หุ้น CAT
- เกิดแท่งเทียนรูปแบบ Spinning Top ในช่วงขาลง จากนั้นทะลุแนวต้านขึ้นมาก็จริง แต่สุดท้ายเป็นแค่ Failed Break (ไม่มีสัญญาณใดที่สมบูรณ์แบบ)
- เกิด Doji ก่อนในรอบขาลง แล้วจากนั้นทะลุแนวต้านขึ้นมาได้ จากนั้นเข้าสู่รอบการขึ้นเต็มตัว
- เกิด Doji ในช่วงปลายของขาขึ้น จากนั้นหลุดแนวรับลงมา เป็นการยืนยันรอบการลง
- เกิด Spinning Top ในรอบของขาลง แต่ไม่มีการ Breakout ผ่านแนวต้านขึ้นมา ทำให้การกลับตัวในถูกยืนยัน มีแนวโน้มที่จะลงต่อ
การยืนยันการกลับตัวของราคาเป็นสิ่งสำคัญในการเทรดแท่งเทียน Heiken-Ashi
การตี Trend line ใน Heiken-Ashi
การดูกราฟ Heiken-Ashi ก็สามารถใช้การลากเส้น Trend line ในการหาแนวโน้มของราคาได้เช่นเดียวกัน
ตัวอย่างกราฟหุ้น MON
ราคาฟอร์มตัวในกรอบ Downtrend channel จากนั้นเกิดการ Breakout ผ่านกรอบดังกล่าวขึ้นมา ก็สามารถใช้เป็นสัญญาณการยืนยันการขึ้นรอบใหม่ (จบรอบการพักตัว)
สรุป
Heikin-Ashi ประโยชน์หลักของการใช้งานคือช่วยกรอง Noise ของราคาออกไป และ สามารถบ่งชี้ถึงสัญญาณการกลับตัว ซึ่งนักเทคนิคสามารถใช้เครื่องมืออื่นมาเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดจากรูปแบบแท่งเทียนนี้ได้อีกด้วย เช่นการดู Volume, ใช้ Indicator ประกอบ ก็จะยิ่งช่วยให้การเทรดของเราแม่นยำมากยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง