ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก สามารถจำแนกได้ตามลักษณะหลักๆ 7 ลักษณะ ดังนี้
- ประเภทของผู้ออก
- คุณภาพเครดิต
- อายุตราสาร
- โครงสร้างดอกเบี้ย
- ภูมิภาค
- การอิงดัชนี
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ประเภทของผู้ออก
ผู้ออกตราสารหนี้สามารถแบ่งได้เป็นครัวเรือน บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน รัฐบาล และสถาบันการเงิน ในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ผู้ออกรายใหญ่ที่สุดคือสถาบันการเงินและรัฐบาล ส่วนในตลาดเกิดใหม่ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินเป็นผู้ออกรายใหญ่ที่สุด
คุณภาพเครดิต
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ Standard & Poor’s (S&P), Moody’s และ Fitch ให้คะแนนเครดิตแก่ตราสารหนี้ โดย S&P และ Fitch ใช้คะแนนสูงสุดคือ AAA, AA, A และ BBB ซึ่งถือเป็นตราสารหนี้ระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ส่วน Moody’s ใช้คะแนน Aaa ถึง Baa3 เป็นคะแนนน่าลงทุน ตราสารที่ได้คะแนนต่ำกว่า BB+ หรือ Ba1 จัดเป็นตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง (High-yield) หรือ “Junk Bonds” สถาบันบางแห่งถูกห้ามลงทุนในตราสารหนี้ที่ต่ำกว่าระดับน่าลงทุน
อายุตราสาร
ตราสารที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี จัดเป็นตราสารตลาดเงิน (Money Market Securities) เช่น ตั๋วเงินคลังสหรัฐ ตั๋วเงินระยะสั้น และใบรับฝากเงิน ส่วนตราสารที่มีอายุมากกว่า 1 ปี จัดเป็นตราสารตลาดทุน (Capital Market Securities)
โครงสร้างดอกเบี้ย
ตราสารหนี้แบ่งเป็นประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating-rate) และอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed-rate) โดยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวจะอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาด ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับสถาบันการเงินที่มีแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยผันแปร เช่น ธนาคาร เพราะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยต่องบดุล ในขณะที่ตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยคงที่จะมีมูลค่าผันผวนมากกว่าเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเปลี่ยนแปลง
ภูมิภาค
ตราสารหนี้สามารถจำแนกตามตลาดที่ออก ได้แก่ ตลาดในประเทศ ตลาดต่างประเทศ และตลาดยูโรบอนด์ นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Markets) และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) โดยตลาดเกิดใหม่มักมีโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่พัฒนาน้อยกว่า ทำให้ตราสารหนี้มีความเสี่ยงและผลตอบแทนสูงกว่า
การอิงดัชนี
ตราสารหนี้บางประเภทมีกระแสเงินสดที่อ้างอิงกับดัชนี เรียกว่า Index-linked Bonds โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่อ้างอิงกับอัตราเงินเฟ้อ (Inflation-indexed หรือ Inflation-linked Bonds) ซึ่งส่วนใหญ่ออกโดยรัฐบาลและบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูง
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ในบางประเทศ ผู้ออกบางรายสามารถออกตราสารหนี้ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ เช่น ในสหรัฐอเมริกา รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น (Municipal Bonds หรือ Munis) ซึ่งรายได้ดอกเบี้ยได้รับการยกเว้นภาษี
สรุป
ในภาพรวม การจำแนกประเภทของตลาดตราสารหนี้ระดับโลกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนและความหลากหลายของตลาดการเงินโลก ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ออกและนักลงทุน ตลอดจนสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบตราสารหนี้ได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยในการจัดสรรการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนสถาบันที่มีข้อจำกัดในการลงทุนตามกฎระเบียบหรือนโยบายภายใน