Point and figure คือ

กราฟรูปแบบ Point and figure ที่พิจารณาเฉพาะการเคลื่อนไหวของราคาเท่านั้น โดยไม่สนการเปลี่ยนแปลงของเวลา ทำให้จุดเด่นของ P&F นี้คือการกรอง Noise ออกได้ และดูแนวโน้มได้เป็นอย่างดี

Point and figure จะค่อนข้างแตกต่างจากกราฟทั่วไป โดยจะปรากฏอักษร X และ O บนกราฟที่แสดงถึงทิศทางการขึ้นลงของราคา สามารถดูพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อหาจุดเข้าและจุดออกได้เป็นอย่างดี

Point and figure

ที่มา

ตัวอักษร X บนกราฟ P&F แสดงถึงการปรับตัวขึ้นของราคา และตัวอักษร O แสดงถึงการปรับตัวลงของราคา ในแต่ละตัวอักษรจะเท่ากับ 1 box โดยเราสามารถกำหนดขนาด box (box size) ได้จากความกว้างการแกว่งตัวของราคานั่นเอง 

เช่น กราฟ box size = 5 นั่นหมายความว่า ในหนึ่ง box ของ X และ O ช่วงการแกว่งตัวคือ 5 หน่วย

box size

กราฟตัวอย่าง SET ที่มี Box size = 5 

อย่างเช่น X ในช่วงราคา 1560 ก็จะแสดงการขึ้นของราคาช่วง 1560-1564.99

ส่วนแถว X ล่าสุด (ขวาสุด) แสดงถึง X ถึง 5 ช่อง ก็แสดงถึงการขึ้นของราคาช่วง 1560 -1584.99

ถ้าราคาปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ เราก็จะบันทึกค่า X สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนถ้าราคาปรับตัวลงเรื่อยๆ เราก็จะบันทึกค่า O ลงต่ำลงเรื่อยๆ

ส่วนในการเริ่มต้นแถวใหม่ จากแถว X เป็น O หรือจากแถว O เป็น X) เราจะพิจารณาจาก “Reversal Amount” ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่า หากราคาเกิดทิศทางตรงกันข้ามเทียบเท่าจำนวนกี่ box ถึงจะขึ้นแถวใหม่ (Reversal distance)

โดย Reversal distance = box size * reversal amount 

เช่น box size = 5 และ reversal amount = 3
ปัจจุบัน Plot อยู่แกน X ก็แปลว่า ราคาต้องวิ่งตรงกันข้าม (วิ่งลง) จำนวน 15 หน่วย ถึงจะเริ่ม Plot แถวใหม่เป็นตัว O 

box size reversal

อีกตัวอย่างนึงของการเริ่มแถวใหม่บนกราฟ P&F

P&F-reversal

Box size = 1 , Reversal amount = 3 ดังนั้น Reversal distance = 1*3 = 3

จากตัวอย่าง ราคาปรับตัวขึ้นมาจาก 21 ถึง 25 เราได้ Plot ตัว X ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามช่วงการขึ้นของราคา โดยการที่จะเริ่ม Plot ตัว O ในแถวใหม่ได้ก็ต่อเมื่อ ราคาลงมาที่ระดับ 22 (Reversal distance = 3 , 25-3 = 22) ถ้าราคาไม่ลงมาถึงระดับ 22 จะไม่เกิดการ Plot ตัว O ในแถวใหม่ (กรณีราคาไม่ไปไหน ก็จะไม่ถูก Plot ใดๆเพิ่มเติม จนกว่าราคาจะขยับ)

P&F ไม่สนเวลา

หลักการเบื้องต้นของ P&F

  • แถว X แสดงถึงการขึ้นของราคา
  • แถว O แสดงถึงการลงของราคา
  • X และ O จะอยู่แถวเดียวกันไม่ได้
  • แถว X และ O จะสลับกันไปเรื่อยๆ
  • ในการเปลี่ยนแถว ราคาต้องปรับตัวเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามของแถวนั้นตามที่กำหนดน (reversal distance)

ขนาด Box

ปกติทั่วไปในการกำหนดขนาด Box จะแบ่งตามช่วงของราคา (ตามหนังสือของ Tom Dorsey “Point & Figure Charting”)

ช่วงราคาBox Size
Under 0.250.0625
0.25 to 1.000.125
1.00 to 5.000.25
5.00 to 20.000.50
20.00 to 1001.00
100 to 2002.00
200 to 5004.00
500 to 1,0005.00
1,000 to 25,00050.00
25,000 and up500.00

แต่สามารถปรับตัวขนาด Box size ได้วิธีอื่นๆ เช่น %, ATR หรือ กำหนดเองเลย เป็นต้น

การวิเคราะห์ P&F

แนวรับ : บริเวณที่พยุงราคาไม่ให้หลุดลงไป โดยจะเป็นแนวของแถว O ที่เรียงต่อกัน

Support P&F

แนวต้าน : บริเวณที่กดดันราคาไม่ให้ทะลุขึ้นไป โดยจะเป็นแนวของแถว X ที่เรียงต่อกัน

resistance P&F

เส้น Trend line : ในการเรียงตัว 45 องศาของกราฟ สามารถตีเส้น Trend line บนกราฟ P&F ได้เช่นเดียวกัน

P&F-Uptrend-line
P&F Downtrend line

Pattern : P&S สามารถดูรูปแบบของราคา เพื่อจับจังหวะการซื้อขายได้ด้วย

P&F-pattern

ประโยชน์

  • กรอง Noise หรือ ลบการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่มีนัยสำคัญออกไป
  • โฟกัสเฉพาะการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ
  • ไม่นำมุมมองในด้าน “เวลา” มาการวิเคราะห์
  • ง่ายต่อการหา แนวรับ/แนวต้าน

สรุป

ในสมัยก่อนที่กราฟ Point and figure เป็นที่นิยมใช้ก็เพราะยังไม่มีคอมพิวเตอร์ การ Plot ค่อนข้างง่ายสะดวกกว่าการ Plot กราฟทั่วไป แถมยังวิเคราะห์แนวโน้มของราคาได้อีก แต่เนื่องด้วยความมีประสิทธิภาพของมันที่สามารถกรองการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่จำเป็นออกไปได้ สามารถหาจังหวะการซื้อขายที่ดี สิ่งนี้ทำให้ยังมีเทรดเดอร์หลายคนใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

แหล่งที่มา