สารบัญ
เป็นเครื่องมือที่ไม่ได้พิจารณาในแง่ของ “ราคา” อย่างเดียว แต่จะพิจารณาในแง่มิติของ “เวลา” ด้วย (Time/Price system) โดยชื่อ Parabolic มาจากรูปร่างหน้าตาของเครื่องมือนี้ที่เป็นทรงโค้ง ส่วนคำว่า SAR มาจาก Stop and reverse ซึ่งเป็นหลักการในการใช้งานของเครื่องมือนี้
Parabolic SAR เป็น Trend-following Indicator
หลักการดูทั่วไปของ Parabolic SAR คือ
- จุดไข่ปลา อยู่ใต้ราคา (Rising SAR) แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น
- จุดไข่ปลา อยู่เหนือราคา (Falling SAR) แสดงถึงแนวโน้มขาลง
- และเมื่อ ราคาทะลุฝั่งใดฝั่งหนึ่งของ จุดไข่ปลา จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแนวโน้มของราคา
การคำนวณ
สูตรการคำนวณ SAR ค่อนข้างซับซ้อน … ใครที่จะไม่ลงรายละเอียดสามารถข้ามในส่วนนี้ได้ … แล้วไปดูในส่วนของกลยุทธ์การเทรดได้เลย
เนื่องด้วย Indicator ทั่วไป จะคำนวณในรูปแบบสูตรทางคณิตศาสตร์ (Mathematical) แบบ 100% แต่ Parabolic SAR จะใช้การทั้ง Mathematical และ Logical ด้วย (ถ้า ขึ้น จะคำนวณแบบนี้ , ถ้า ลง จะคำนวณอีกแบบนึง) ทำให้การคำนวณนั้นค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง
ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจะแบ่งการคำนวณออกเป็น 2 แบบ คือ
- Rising SAR
- Falling SAR
Rising SAR (จุดใต้ราคา)
Prior SAR: ค่า SAR ก่อนหน้า
Extreme Point (EP): ค่า High สูงสุดในช่วงขาขึ้น
Acceleration Factor (AF): เริ่มต้นการคำนวณที่ 0.02 และจะบวกเพิ่มทีละ 0.02 เมื่อ EP ทำ New high โดย AF จะมีค่าสูงสุดที่ 0.20 (ถ้า Uptrend ขึ้นต่อเนื่อง ก็ยังคง Limit ไว้ที่ 0.20)
Current SAR = Prior SAR + Prior AF(Prior EP – Prior SAR)
ตัวอย่างการคำนวณ Rising SAR
วันที่ 13-Apr-10
SAR = 48.28 = 48.13 + 0.14(49.20 – 48.13)
Failling SAR
Prior SAR: ค่า SAR ก่อนหน้า
Extreme Point (EP): ค่า Low ต่ำสุดในช่วงขาลง
Acceleration Factor (AF): เริ่มต้นการคำนวณที่ 0.02 และจะบวกเพิ่มทีละ 0.02 เมื่อ EP ทำ New Low โดย AF จะมีค่าสูงสุดที่ 0.20
Current SAR = Prior SAR – Prior AF(Prior SAR – Prior EP)
ตัวอย่างการคำนวณ Falling SAR
วันที่ 9-Feb-10
SAR = 43.55 = 43.83 – 0.16(43.83 – 42.07)
แล้วเทรนจะเปลี่ยนเมื่อไร
- ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น : ถ้าราคาลงมาต่ำกว่าค่า SAR จะเป็นการบ่งชี้ว่า ขาลงของ Parabolic SAR ได้เริ่มขึ้น
- ในช่วงแนวโน้มขาลง : ถ้าราคาขึ้นสูงกว่าค่า SAR จะเป็นการบ่งชี้ว่า ขาขึ้นของ Parabolic SAR ได้เริ่มขึ้น
กรณีปรับค่า Acceleration Factor (AF)
การตอบสนองของ Parabolic SAR สามารถถูกปรับลดลงด้วยจาก ปรับลดค่า AF … วิธีการนี้ทำเพื่อให้ลด Whipsaws
ในทางตรงกันข้ามหาก เพิ่มค่า AF จะทำให้การตอบสนองของ Parabolic SAR กับ ราคา จะสูง ทำให้เกิด Whipsaws มากขึ้น
ตัวอย่าง
ปรับค่าสูงสุดของ AF
เช่นเดียวกัน กรณีปรับค่าสูงสุดของ AF ก็จะทำให้การตอบสนองของ Parabolic SAR กับ ราคา แตกต่างกันออกไป
- ถ้า ค่าสูงสุดของ AF มากขึ้น : จะทำให้การตอบสนองสูงขึ้น Whipsaw มากขึ้น
- ถ้า ค่าสูงสุดของ AD ต่ำลง : ทำให้การตอบสนองช้าลง Whipsaw น้อยลง
ตัวอย่าง
กลยุทธ์การเทรด Parabolic SAR
Parabolic time/price system
เป็นพื้นฐานการเทรด Indicator อันนี้เลย
- Buy เมื่อ เกิดจุดด้านล่าง และตั้ง Trailing stop เมื่อราคาหลุดจุดดังกล่าว (เกิดจุดบน)
- Sell เมื่อ เกิดจุดด้านบน และตั้ง Trailing stop เมื่อราคาทะลุจุดดังกล่าว (เกิดจุดล่าง)
สรุป
ถ้าใครลองเทรดหรือลองดูกราฟย้อนหลังแล้วจะเห็นได้ว่า Parabolic SAR จะไม่เหมาะกับตลาดที่เป็น Sideway ดังนั้น Wilder จึงแนะนำให้ใช้ Directional Movement Index (DMI) และ Commodity Selection Index (CCI) ในการเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเทรด
อีกทั้งเรายังสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือโดยนำไปสร้าง Trade setup ของเราเองได้อีกด้วย ทั้งการปรับค่า การดูประกอบแนวโน้ม หรือใช้กับเครื่องมืออื่นอย่างที่ Wilder บอกก็ได้
กลยุทธ์ Dual Parabolic SAR
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Parabolic SAR
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- https://school.stockcharts.com/doku.php?id=technical_indicators:parabolic_sar
- หนังสือ New Concepts In Technical Trading Systems โดย J.Welles Wilder JR.