ถ้าพูดถึงไก่ทอดในไทยแล้ว หลายๆคนอาจนึกถึง ไก่ทอดหาดใหญ่, Bonchon, Texas chicken, BHC chicken และหนึ่งในดวงใจของคนไทยหลายคนคงไม่พ้น “KFC” แล้ว KFC ในไทยใครเป็นเจ้าของ ประวัติความเป็นมาเป็นอย่างไร บทความนี้จะเล่าให้ฟัง
กำเนิด KFC
KFC หรือ Kentucky Fried Chicken กำเนิดขึ้นเมื่อปี 1939 โดย “ฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส” หรือ “ผู้พันแซนเดอร์ส” เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปี 1890 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐ Indiana เมือง Henryville ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของเขาค่อนข้างลำบากและยากจน หลังจากที่เขาได้ทำงานในหลากหลายอาชีพ ทั้งกรรมกรก่อสร้างถนน, ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเข้าทหารเกณฑ์, คนขายประกัน, ขับเรือกลไฟ, เปิดบริษัทผลิตตะเกียง (แต่หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลมีโครงการขยายไฟฟ้าสู่ชุมชน ตะเกียงของเขาจึงกลายเป็นสินค้าที่ตกยุคไปในทันที) ฯลฯ
ต่อมาเมื่อเขาอายุประมาณ 40 ปี เขาได้เปิดปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ที่เมืองคอร์บิน(Corbin) รัฐเคนทักกี (Kentucky) พร้อมกับทำอาหารขายโดยร้านที่มีโต๊ะนั่งเพียง 6 ที่นั่ง ซึ่งก็พบว่าอาหารอร่อยจนทำให้เริ่มมีคนแวะเข้ามาสั่งอาหารที่ปั๊มน้ำมันเขามากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงย้ายไปเปิดร้านอาหารที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามซึ่งมีพื้นที่รองรับลูกค้ากว่า 100 ที่นั่ง และเป็นที่รู้จักในชื่อ “Kentucky Fried Chicken of Harland Sanders”
ในปี 1930 นักวิจารณ์อาหารชื่อดังอย่าง Duncan Hines ยกให้ร้านของเขาเป็น Adventure in Good Eating ทำให้ร้านอาหารของเขาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จนกระทั่งในปี 1935 ผู้ว่ารัฐเคนทักกีที่ชื่อ Ruby Laffoon ก็ได้แต่งตั้งให้แซนเดอร์สเป็น “Kentucky Colonel” หรือ “ผู้พันแห่งเคนทักกี” ซึ่งตำแหน่งนี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งทางการทหาร แต่ให้เพื่อสดุดีสำหรับคนที่สร้างคุณงามความดีและทำประโยชน์ให้กับรัฐเคนทักกี
ในปี 1950 ตอนที่เขาอายุได้ 60 ปี ก็ได้รับตำแหน่งผู้พันอีกครั้งจากรองผู้ว่าการรัฐเคนทักกีที่ชื่อ Lawrence Weatherby และในคราวนี้ ผู้พันเคนทักกี ก็ได้เริ่มต้นสร้าง Personal Branding ด้วยการแทนตัวเองว่าผู้พัน และแต่งชุดสูทสีขาวและผูกไทร์สีดำ ไว้หนวดเคราสีขาว พร้อมกับถือไม้เท้า โดยกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
แต่โชคร้ายที่ในปี 1956 มีการสร้างถนนตัดใหม่ ทำให้ลูกค้าไม่ค่อยใช้ถนนเส้นที่ร้านของเขาตั้งอยู่ ทำให้ยอดขายเริ่มลดลงและเริ่มเป็นหนี้ ถึงกับต้องขายร้านเพื่อปลดหนี้สิน ทำให้เขาในวัย 65 ปี กลายเป็นบุคคลแทบล้มละลาย และเขาต้องอาศัยเงินช่วยเหลือจากสวัสดิการสังคมที่จ่ายให้เพียงเดือนละ 105 ดอลล่าร์เท่านั้น เวลานั้นเขารู้สึกว่าตัวเองประสบความล้มเหลวในชีวิต เนื่องจากไม่ว่าจะทำงานอะไร อาชีพใดก็ไม่ประสบความสำเร็จ ยังต้องเป็นภาระพึ่งพารัฐบาลในวัยเกษียณ และในขณะที่กำลังจะเขียนคำสั่งเสียลงบนกระดาษ ก็นึกถึงสิ่งที่เค้าทำได้ดีที่สุดในชีวิตนั่นก็คือการทำอาหารและไก่ทอด
เขาจึงเริ่มขายสูตรไก่ทอด โดยคิดค่าแฟรนไชส์ 5 cent ในไก่ทอดทุกๆชิ้นที่ใช้เครื่องปรุงสูตรพิเศษของเขา ซึ่งก็ถูกปฏิเสธในการขาย ถึง 1,009 ครั้ง และสุดท้ายประสบความสำเร็จในครั้งที่ 1,010 นั่นเอง
ในภายหลังเมื่อกิจการได้รับความนิยม ผู้พันแซนเดอร์สจึงขายกิจการให้กับกลุ่มนักลงทุน John Y. Brown Jr. และ Jack Massey ที่เป็นนักธุรกิจในเคนทักกี ในปี 1964 ด้วยมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายหลังแบรนด์KFC ถูกซื้อกิจการโดยกลุ่มบริษัทเป๊ปซี่โค ซึ่งได้แยกธุรกิจเกี่ยวกับอาหารออกมาเป็นบริษัทไทรคอน ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Yum! Brands, Inc ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของพิซซ่าฮัท และทาโก้ เบลล์ด้วย
KFC ในประเทศไทย
ในประเทศไทย เคเอฟซีเคยเปิดในช่วงปี 1970 บริเวณถนนสีลม และปากซอยวัฒนา แต่ปิดตัวหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง ต่อมาปี 1984 เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ถือเป็นเจ้าแรกที่ได้สิทธิ์แฟรนไชส์ซี(Franchisee) ของแบรนด์ KFC ในประเทศไทย โดยตั้งสาขาแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ภายใต้การบริหารของบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทในเครือของ Yum! Brands, Inc)
ปี 2016 บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด หรือ RD เข้ามาเป็นแฟรนไชส์ซี (Franchisee)KFC
ปี 2017 บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟเอเชีย จำกัด (QSA) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยเบฟเวอเรจ ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้เข้ามาเป็นแฟรนไชส์ซี(Franchisee)KFC อีกราย
ปี 2024 Devyani International DMCC บริษัทในเครือ Devyani International Limited (DIL) ซึ่งเป็นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจอาหารจานด่วน Quick Service Restaurant (QSR) ทั้งในอินเดีย เนปาล ในจีเรีย โดยเซ็นสัญญาลงทุนในบริษัท RD เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ QSR ในประเทศไทย หลังจากที่ RD เกิดสภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี (ตั้งแต่ปี 2018-2022 ขาดทุนรวมกว่า 7ร้อยล้านบาท)
สรุปว่าในไทยมีเจ้าของสิทธิ์ในการบริหารร้าน KFC หรือที่เรียกว่าแฟรนไชส์ซี(Franchisee) ทั้งหมด 3 ราย คือ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (CRG), เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ (RD) และ เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟเอเชีย (QSA) โดยมีผู้ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ KFC ในไทย ก็คือบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Yum! ประเทศไทย
สำหรับร้านอาหารประเภทจานด่วน(QSR) ในแง่เบอร์ 1 ของโลกคือแบรนด์ McDonalds ที่มีจำนวนสาขากว่า 36,000 สาขาทั่วโลก ขณะที่ KFC มีเกือบ 32,000 สาขาทั่วโลก แต่ในประเทศไทยนั้น KFC มีจำนวนสาขาสูงถึง 1,080 สาขา ขณะที่สาขา McDonalds ในไทย มีเพียง 233 สาขา จะเห็นได้ว่า KFC มีสาขาในไทยมากกว่า McDonalds ถึง 4 เท่าตัว แม้ KFC จะมีประเทศต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา แต่กลับได้รับความนิยมอย่างมากในไทย แสดงให้เห็นว่าคนไทยน่าจะถูกใจในรสชาติไก่ทอดจริงๆ
สรุป
แม้ว่าก่อนที่ผู้พันแซนเดอร์สจะประสบความสำเร็จนั้น ได้พบกับความยากลำบาก ล้มเหลว และถูกปฏิเสธธุรกิจมาถึง 1,009 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จและเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะความพยายามและไม่ย่อท้อของเขา แล้วคุณล่ะ..”วันนี้คุณล้มเหลวมามากพอหรือยัง” “และพร้อมจะสู้ต่อไปหรือไม่” ..ว่าแต่ “เย็นนี้รับไก่ทอดKFCสักชิ้นไหม”..