How to Live Like Your Cat

สรุปหนังสือ How to Live Like Your Cat

เมื่อแมวที่บ้านคุณผันตัวมาเป็นไลฟ์โค้ช

หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนคือ Stephane Garnier เป็นทั้งนักเขียนนิยาย นักเขียนข่าว นักแต่งเพลง และกวี รวมถึงอาชีพอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาเคยทำ ก่อนจะมาเขียนหนังสือขายดีที่โด่งดังไปทั่วโลกเล่มนี้ เขาได้ศึกษาและทำการสังเกตแมวของเขาอย่างใกล้ชิดมานานกว่า 15 ปี นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง How to Live Like the Little Prince : A Grown-Up’s Guide to Rediscovering Imagination, Adventure and Awe ด้วย ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในเรือบ้านกับแมวของเขาที่ชื่อว่าชิกกี้ในเมืองลียงประเทศฝรั่งเศส

ในบางวันคงมีความรู้สึกว่าไม่อยากทำงาน ไม่สนใจอะไร และไม่อยากเก็บเรื่องเลวร้ายมาใส่ใจ หรือแม้แต่ห่วงใยอนาคตของตัวเอง ผู้เขียนมีแมวตัวหนึ่งชื่อชิกกี้มันจะชอบมาเล่นด้วยในขณะทำงาน ประหนึ่งจะบอกว่าไม่อยากหยุดงานสักวันหรือ บางทีความลับที่แมวอยากบอกอาจจะเป็น หากปล่อยวางแล้วจดจ่ออยู่กับสิ่งสำคัญ คำนึงถึงความสุขกายสบายใจบ้าง และหากทำตัวเหมือนแมว มาถอดรหัสเรียนรู้จากแมวกัน ทั้งในเรื่องชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ลองจินตนาการถึงชีวิต มองชีวิตแบบใหม่ ด้วยการใช้ชีวิตอย่างแมวกันเถอะ

แมวเพื่อนของคุณเอง

ความสามารถตามธรรมชาติของแมว ในการใช้ชีวิตอย่างเยือกเย็น และมีความสุขนั้นเหมือนมีเวทย์มนต์ แมวใช้ชีวิตตามปรัชญาชีวิตที่สามารถสรุปได้ในไม่กี่คำนั่นคือ กิน เล่น นอน มองหาความสบาย และทำเฉพาะสิ่งที่อยากทำ แมวมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ทำให้มันอยู่ได้โดยไร้ความเครียด สิ่งเดียวที่แมวให้ความสำคัญก็คือความสุขกายสบายใจของตัวเอง เมื่อเราได้เห็นวิธีการใช้ชีวิตของมันมากขึ้น เราก็จะสามารถเปิดมุมมองใหม่ และมองโลกต่างไปจากเดิม ในขณะเดียวกัน เราก็จะเข้าใจตัวเองได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในแบบที่ต่างออกไปจากเดิม

แมวมีอิสระ

อิสระ จงรักและทะนุถนอมการมีอิสระ อิสระในการไปไหนมาไหน อิสระในการทำเฉพาะสิ่งที่พึงพอใจ อิสระในการกระทำ อิสระในการทำตามความต้องการ และสิ่งที่ใจปรารถนา รวมไปถึงอิสระทางความคิดและร่างกายของตัวเอง สิ่งที่ดูย้อนแย้งก็คือมนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะจำกัดอิสระของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล่ามโซ่ตัวเองเข้ากับเงินกู้จากธนาคาร ที่บังคับให้ต้องทำงานหนักขึ้น ข้าวของไร้ประโยชน์ที่ดูมีค่ามากเหลือเกินในสายตา นิสัยที่ทำตามความคุ้นชิน จนกลายเป็นข้อบังคับไปโดยไม่รู้ตัว หรือผู้คนที่เป็นพิษที่เราฝืนทนใช้เวลาด้วย บางทีอาจถึงเวลาที่ควรปลดปล่อยตัวเองออกจากโซ่ตรวนเหล่านี้ ลองพยายามรักษาไว้แต่สิ่งที่รัก ทะนุถนอมความสัมพันธ์ที่ทำให้มีความสุข ทำเฉพาะกิจกรรมที่ชื่นชอบ และทำแค่งานที่เติมเต็มชีวิต จงสนใจแค่คำแนะนำของตัวเอง และไล่ตามความปรารถนาที่แท้จริง การมีอิสระคือสิ่งที่ฝังลึก และเป็นยิ่งกว่านิสัยติดตัว ทั้งยังเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตสำหรับแมว

แมวมีเสน่ห์

เสน่ห์โดยธรรมชาติของแมว เป็นสิ่งที่รับประกันว่าทุกคนจะสังเกตเห็นมัน ถ้าอยากมีเสน่ห์และเป็นอย่างแมวมากขึ้น มีวิธีง่าย ๆ ก็คือ แค่เป็นตัวของตัวเอง จงอย่าปิดบัง โกหกตัวเอง สวมบทบาทที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือพยายามสร้างความประทับใจให้คนอื่น จงแผ่รังสีความเป็นเองออกมา ให้เหมือนหลอดไฟหรือเครื่องส่งสัญญาณ ขณะพูดคุยกับผู้อื่นก็อย่าพูดเรื่อยเปื่อย อย่าผูกขาดการสนทนาโดยเอาแต่โม้อวดตัวเอง ผู้ฟังมีแต่จะเบื่อหน่าย คนที่มีเสน่ห์มากที่สุด ไม่ใช่คนที่ดูหรูหราที่สุด คนเหล่านี้มีแรงดึงดูด แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุมเสมอ จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อยอมรับในสิ่งที่เป็น โดยไม่หันไปสวมบทบาทที่ไม่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริง จงแผ่เสน่ห์และดึงดูดออกมา โดยเป็นตัวเองที่จริงใจ สุขุม ไม่เติมแต่ง และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง

แมวสงบ (เป็นส่วนใหญ่)

ความเครียดเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบัน จะต่อสู้กับความเครียดและควบคุมมันได้อย่างไร เมื่อรู้สึกกดดันและเคร่งเครียดอยู่เสมอ นำไปสู่ความกังวลและอาการนอนไม่หลับ สุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ความดันโลหิตสูงและภาวะหมดไฟในการทำงาน ต้องใช้ชีวิตที่เลวร้ายขนาดนี้จริง ๆ หรือ แมวเปี่ยมไปด้วยความสงบและความสุขุม มันนั่งอย่างเงียบเชียบ กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ไม่มีท่าทีกระวนกระวาย และสายตาของมันก็ไร้ซึ่งความตึงเครียด สิ่งที่บางครั้งเราเรียกว่าความเครียดในแมวนั้น แท้จริงแล้วคือความระแวดระวังที่เพิ่มขึ้น ความตื่นตัวต่อภัยอันตรายที่ใกล้เข้ามา แมวดูจะปล่อยวางสิ่งที่เข้ามารบกวนได้อย่างรวดเร็ว และไม่แสดงร่องรอยของความเครียดให้เห็น ราวกับเหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้น แมวเครียดถ้ามีผู้บุกรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขต แมวก็จะขับไล่ออกไปอย่างรวดเร็ว หลายครั้งแมวจะแสดงออกอย่างเปิดเผย ถ้าไม่สามารถเติมเต็มความรักให้มัน และให้ความเอาใจใส่ได้มากเท่าที่มันต้องการ เพื่อรักษาความสุขสงบภายในจิตใจ ต้องหาที่มาของความเครียด จัดการมันให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปล่อยวางอย่างถาวร อย่าเก็บมาคิดหรือเป็นกังวลอีก แล้วความสงบจะกลับมา เมื่อบรรยากาศในบ้านเริ่มเลวร้ายเหลือทน จนบั่นทอนความสุขกายสบายใจของมัน มันก็อาจจะหนีออกจากบ้านไป

แมวรู้ว่าจะแสดงจุดยืนอย่างไร

สำหรับหลาย ๆ คน การแสดงจุดยืนต่อหน้าคนอื่นเป็นเรื่องยาก ถ้าไม่ใช่เพราะความขี้อายก็เพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง เลยถอยหลังออกมา พูดน้อย และทำราวกับว่าคนอื่นมีสติปัญญาที่เหนือกว่า หรืออย่างน้อยก็มั่นใจว่า พวกเขาเหนือกว่าด้วยรูปลักษณ์ และความรู้ที่มี ทั้งหมดล้วนเป็นคนอื่นสำหรับใครบางคน หากคนอื่นได้พื้นที่มากไปกว่าก็เป็นเพราะเรายอมให้พื้นที่นั้นกลับพวกเขา เคยพบไหมว่าคนอื่นลุกล้ำพื้นที่ บางครั้งอาจถึงขั้นเหยียบเท้า ก่อนจะเดินย่ำบนตัวเลยด้วยซ้ำ นึกถึงแมวลองเหยียบอุ้งเท้าของมันดู แล้วรอดูปฏิกิริยา จะได้ยินเสียงร้องโวยวาย หรืออาจได้สัมผัสกับกรงเล็บที่ฝังลงบนน่อง อย่ายอมให้ใครปฏิบัติตัวไม่ดีกับเรา เพราะคนอื่นไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้น ควรให้พื้นที่คนอื่นแค่พอประมาณ และอดทนแค่พอดี ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่หยุดขยี้เท้าคุณ ดีไม่ดีเขาอาจเหยียบจนจมดิน แล้วฝังลงไปลึก ๆ ด้วย แมวครองอาณาเขตของมันโดยไม่เบียดเบียนเพื่อนบ้าน แต่มันจะไม่ทน ถ้ามีใครลุกลามเข้ามา มันแสดงจุดยืนอย่างเงียบ ๆ จงรู้วิธีที่จะแสดงจุดยืนอย่างสงบ และปกป้องพื้นที่ทันทีที่ถูกรุกล้ำ ไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำได้

แมวปราดเปรื่อง

แมวมีความใส่ใจเหมือนอาจารย์สอนพุทธศาสนาและนักปราชญ์ผู้เฒ่า มันรับฟังราวกับเป็นนักจิตวิทยาผู้สุขุม ทว่านี่อาจไม่ได้เป็นแค่การสร้างภาพลักษณ์ อาจเรียนรู้จากวิถีของแมวที่ไม่พยายามทำอะไรมากเกินควร มันจะนั่งลงแล้วพินิจพิเคราะห์โลกใบนี้อย่างสงบ ขณะที่เวลาล่วงเลยไปพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ก็จะค่อย ๆ สั่งสมปัญญา รวมถึงมุมมองที่มีต่อโลก ชีวิตและสิ่งที่เป็นสัจธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ การนั่งนิ่ง ๆ ด้วยความสงบ และไล่สายตาไปตามเส้นขอบฟ้า พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นเรื่องยากสำหรับเรา แต่แมวรู้วิธีทำสิ่งนี้มาตั้งแต่เกิด ข้อความที่เหมาะกับทุกความรู้สึก และสถานการณ์ที่คนคนหนึ่งประสบพบเจอในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม ข้อความที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่โบราณนั้นก็คือ แล้วมันจะผ่านไป บางครั้งก็จมอยู่กับความตื่นตระหนกอยู่นาน จนมองข้ามแก่นสำคัญของการมีชีวิต ปัญญาไม่ใช่วิชาที่สามารถเรียนรู้หรือสอนกันได้ แต่เป็นภาวะหรือมุมมองที่ต้องอาศัยการถอยออกจากความวุ่นวายในชีวิต เพื่อจะทำความเข้าใจให้แจ่มชัดยิ่งขึ้นว่า มันเป็นแค่สิ่งธรรมดาที่พบได้ทั่วไป

แมวคิดถึงตัวเองเป็นอันดับแรก

แมวทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตให้กับความสุขกายสบายใจของมันเอง ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ บางครั้งก็ต้องเห็นแก่ตัวและคิดถึงแต่ตัวเองบ้าง ไม่สามารถมอบสิ่งใดให้ใครได้ หากไม่รู้จักมอบสิ่งนั้นให้ตัวเองก่อน จงดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนี่คือกุญแจไปสู่ความสุข เมื่อมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิต ก็จะสามารถมอบและแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ให้กับคนอื่นได้มากขึ้น ดังนั้นคงต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง ด้วยการสร้างเขตแดนส่วนตัว พื้นที่แห่งความสบายใจ และวิธีที่จะทำให้พึงพอใจกับชีวิตให้ได้อย่างแมว

แมวยอมรับในสิ่งที่มันเป็นและรักตัวเอง

ถ้าไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ก็มีแต่จะเจ็บปวดและผิดหวังในตัวเอง มนุษย์แตกต่างจากแมว มีแนวโน้มที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ตัวเองเป็น และหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่อยากเป็น ส่งผลให้รู้สึกทุกข์ใจอย่างแน่นอน แมวรักในสิ่งที่มันเป็น มันจึงมีความสุข การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเกินกว่าจะทำได้ เมื่อมีทัศนคติแบบแมว ซึ่งคิดว่าการเป็นตัวของตัวเองนั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ลองทำแบบนี้ดู ยืนหน้ากระจกในตอนเช้า แล้วพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วยว่า เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันรักเธอ

แมววางมาดอย่างมั่นใจและทนงในตัวเอง

มนุษย์มักสับสนระหว่างความภูมิใจในตัวเอง กับความมั่นใจในตัวเอง แม้ 2 สิ่งนี้จะคาบเกี่ยวและส่งเสริมกัน ถ้าว่าการมีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่มีความภูมิใจในตัวเองต่ำ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ หรืออาจเป็นไปในทางตรงกันข้าม ภาพลักษณ์ที่มองตัวเองทั้งในแง่ของสิ่งที่เป็น และสิ่งที่ทำนั้นมีความสำคัญมากพอ ๆ กับความมั่นใจในตัวเอง ถ้าใช้ชีวิตสอดคล้องกับความปรารถนา ความต้องการ และความฝันความภูมิใจในตัวเอง ความมั่นใจในตัวเองก็จะหลอมรวม และส่งเสริมกัน ผลก็คือจะรู้สึกพึงพอใจในชีวิต และมีความสุขอย่างที่สุด ความภูมิใจในตัวเอง และความหยิ่งทะนงที่แมวมีติดตัวมาแต่กำเนิด สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ แมวภูมิใจที่เป็นแมว และมันก็ได้ประโยชน์จากความภูมิใจนั้น

แมวเป็นจุดสนใจ

แม้บรรยากาศรอบตัวแมวจะสงบ และสรุปได้ด้วยคำว่าอย่ามายุ่งกับฉัน แต่แมวก็ยังต้องการเป็นจุดสนใจ ตราบใดที่มนุษย์รอบ ๆ ตัวเป็นคนที่มันชื่นชอบ มันจะย่างเท้าจากตักของคนหนึ่งไปยังตักของอีกคน และอาจถึงขั้นถูตัวเองเข้ากับขาของคนที่ไม่ชอบแมวเลยสักนิด ราวกับมันกำลังท้าทาย ไม่มีใครหนีจากแรงดึงดูดของแมวได้ แม้แต่แมวตัวที่ดูสงวนท่าทีก็ตาม มนุษย์เราล้วนเสาะหาบางสิ่ง ซึ่งยากที่จะเข้าใจจากแมว ด้วยการยื่นมือเข้าไปหามันโดยสัญชาตญาณ บางทีสิ่งนั้นอาจเป็นความสงบ และเยือกเย็นเพียงเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วแมวทำอะไรกันแน่เพื่อที่จะเป็นจุดสนใจ สิ่งที่แมวทำก็คือการเป็นผู้ให้ก่อน มันเสนอตัวเองให้ในฐานะของขวัญปลอบประโลมใจ ที่สามารถสัมผัสได้

แมวไม่ใส่ใจเมื่อถูกคนอื่นตัดสิน

แมวไม่ใส่ใจเลยสักนิดว่าจะมีใครเห็นคุณค่าของมันไหม ไม่ว่าจะจากมนุษย์หรือแมวด้วยกันก็ตาม โดยธรรมชาติแล้วแมวค่อนข้างมีความสุข และไม่สนใจว่าผู้คนจะคิดอย่างไรกับมัน ในขณะที่มนุษย์ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป แมวไม่ได้มีความต้องการที่จะได้รับความรัก การเห็นคุณค่า การชื่นชม และการยอมรับจากคนอื่น แมวแค่เป็นตัวของตัวเอง มุมมองที่มันมีต่อตัวเองคือ สิ่งที่สำคัญที่สุด เพื่อให้คนอื่นยอมรับ และยังเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดที่ทำกับตัวเอง ด้วยการที่ต้องดูดี อ่อนเยาว์ ร่ำรวย ฉลาด อดทน สงบ และใจกว้าง ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่คือแบบแผนที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการส่งเสริมจากแฟชั่น รายการเรียลลิตี้  และสื่อสังคมออนไลน์ บ่อยครั้งที่ยอมจำนนต่อความคาดหวังทางสังคม ที่บอกว่ามีภาพลักษณ์อย่างไร ในขณะที่ระดับความใส่ใจที่แมวมี ต่อความคาดหวังทางสังคมนั้นน้อยนิดพอ ๆ กับความใส่ใจที่มันมีต่อหนูตัวแรกที่จับได้  จงแน่วแน่และซื่อสัตย์กับตัวเองให้ได้อย่างแมว เพียงเพื่อที่จะค้นพบความปรารถนาของอีกครั้ง หรือเพียงเพื่อที่จะทำให้มีความสุขมากขึ้น จากการฟังเสียงเล็ก ๆ ที่พร่ำบอก ว่าจงปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความคิดเห็นของคนอื่น และจงเป็นตัวของตัวเอง

แมวขี้สงสัยโดยธรรมชาติ

แมวมีความขี้สงสัยติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ตรวจสอบแต่ละสิ่งด้วยความตั้งอกตั้งใจ และสำรวจทุกพื้นที่ที่ยังไม่รู้จัก แมวไม่ได้ผลีผลามกระโจนเข้าหาสิ่งแปลกใหม่เหมือนสุนัข แมวมีความขี้สงสัยอย่างล้นเหลือ มันจึงคอยสำรวจโลกอยู่ตลอด ทุกวันของแมวคือโอกาสในการค้นพบสิ่งใหม่ ซึ่งอาจเป็นสิ่งพิเศษเล็ก ๆ ที่ถูกค้นพบ ด้วยความที่สงสัยอันไร้ขอบเขตนี้ คนบางคนก็ช่างสังเกต และมุ่งมั่นที่จะค้นพบสิ่งใหม่อยู่เสมอ สิ่งแปลกใหม่นั้นสำคัญต่อความสุขกายสบายใจ มันเป็นเหมือนออกซิเจนสำหรับความคิด และก็ต้องการมันเหมือนกับอากาศที่ใช้หายใจ บ่มเพาะความขี้สงสัย ที่ช่วยให้จิตใจเบิกบาน เพียงแค่ทำตามนี้ เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน ไม่ต้องนึกถึงความสำคัญ ความจำเป็น หรือคุณค่าของสิ่งใหม่ แต่ควรเรียนรู้ทุกวัน แม้จะเป็นแค่คำศัพท์คำเดียวก็ตาม แล้วจดจำสิ่งนั้นไปตลอดชีวิต สิ่งสำคัญก็คือควรหมั่นทำเช่นนี้ให้เป็นนิสัย แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันยังส่งผลต่อความสุขด้วย

แมวพึ่งพาตัวเอง

การพึ่งพาตัวเองเป็นหนึ่งในนิสัยเฉพาะตัวของแมว แมวไม่ตกอยู่ใต้อำนาจใคร ไม่ต้องมีสังคมหรืออยู่กันเป็นฝูงเหมือนสัตว์ชนิดอื่น ๆ การพึ่งพาคนอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือการทำงานนั้น ทำให้เราตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดซึ่งอาจไม่ได้สอดคล้องกับความต้องการ มนุษย์ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองโดยได้โดยสมบูรณ์เหมือนแมว เนื่องจากมนุษย์มักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ควรประเมินระดับการพึ่งพาคนอื่น และการพึ่งพาตัวเองในชีวิตอยู่เสมอ ด้วยการถามคำถามเหล่านี้ คือ

1.มีอิสระทางการเงินมากแค่ไหน

2.สามารถครองตัวเป็นโสดสัก 2-3 เดือน โดยไม่โหยหาความรัก และอยากเป็นที่ปรารถนาอยู่ตลอดได้ไหม

3.ตัดสินใจเลือกเส้นทางในชีวิตด้วยตัวเอง หรือถูกกำหนดด้วยความต้องการของคนรัก พ่อแม่ หรือลูก ๆ

4.พึ่งพาตัวเองในเรื่องการทำงานหาเงินได้แค่ไหน

5.ต้องพึ่งพาคนรักมากถึงขั้นที่ต้องยอมรับ อดทนกับทุกอย่าง หรือแม้กระทั่งต้องทนทุกข์ใจอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่ได้รับความเคารพจากอีกฝ่ายหรือไม่

6.เพื่อนฝูงและครอบครัว มีความสำคัญมากเสียจนไม่กล้าคิด หรือทำในสิ่งที่อาจสร้างความขัดแย้ง เพราะกลัวว่าพวกเขาจะโกรธ หรืออาจทำให้สูญเสียพวกเขาไปหรือไม่

7.ต้องทนรองรับอารมณ์ของเจ้านาย เพื่อรักษาตำแหน่งงานเอาไว้ แม้ว่าที่อื่นจะมีตำแหน่งงานที่ดีกว่ารออยู่หรือเปล่า

8.เสพติดอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ แอลกอฮอล์ ยาเสพติด อาหาร หรือกีฬา แล้วคำถามที่ตามมาคือสิ่งเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อการกระทำ และความปรารถนามากแค่ไหน

9.ติดอยู่กับการพึ่งพาคนอื่นมากแค่ไหน

10.คนอื่นบงการชีวิตมากแค่ไหน

11.ยังคงควบคุมชีวิตของตัวเองได้มากแค่ไหน

แน่นอนว่าเราทุกคนล้วนพึ่งพาคนอื่น ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องตั้งคำถามและประเมินว่า มันมีบทบาทมากน้อยแค่ไหนในชีวิต สุดท้ายแล้วมีความสำคัญกับชีวิตมากแค่ไหน สิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้สุขกายสบายใจคืออะไร พยายามพึ่งพาตัวเองบ้างในทุก ๆ ด้านของชีวิต แล้วจะมีชีวิตที่อิสระ

แมวเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง

ความมั่นใจในตัวเองเป็นหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่แมวมีมาแต่กำเนิด ความมั่นใจในตัวเองขึ้นอยู่กับการยอมรับในตัวตนที่แท้จริง และการภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งเทียบเท่ากับพรสวรรค์ หรือระบบการให้คุณค่า ผู้คนมากมายขาดความมั่นใจในตัวเอง แต่ขณะเดียวกัน คนอีกกลุ่มกลับมั่นใจในตัวเองอย่างล้นเหลือ ซึ่งบางครั้งก็ดูไม่มีเหตุผลเลยด้วยซ้ำ จึงต้องรักตัวเองก่อนถึงจะมีความมั่นใจในตัวเอง ต้องรู้จักพึ่งพาตัวเอง เด็ดเดี่ยว และเป็นอิสระจากการสงสัยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรเสียก่อน คนที่มีความมั่นใจในตัวเอง มักจะเป็นจุดสนใจ มีอิสระ และมีเสน่ห์ พวกเขาค่อนข้างมีความสุขทีเดียว แต่กว่าจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้ที่จะบ่มเพาะคุณสมบัติทั้งหมด ที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความมั่นใจในตัวเองขึ้นมากมาได้

แมวรู้จักมอบหมายงาน

การรู้วิธีทำให้ผู้คนรับใช้ได้เหมือนตอนที่รับใช้แมว สามารถช่วยลดภาระในแต่ละวันได้จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบทัศนคติที่สูงส่ง และอำนาจนี้ให้ได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรตกเป็นเบี้ยล่างของทุกคน หรือคอยทำสิ่งต่าง ๆ ให้ครอบครัวอยู่เสมอ จะทำให้ไม่ได้อยู่อย่างสงบสุข หากต้องคอยทำตามความคาดหวัง ความต้องการ และความปรารถนาทุกอย่างของลูก ๆ กับคนรัก จงเรียนรู้ที่จะใช้คนให้เป็นเหมือนกับแมว เริ่มจากการมอบหมายงานประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนอื่น แต่จะทำให้พวกเขาพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น จะมีเวลามากขึ้น ทั้งยังเหนื่อยและเครียดน้อยลง การมอบหมายงานให้คนอื่นเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งนี้ได้ผลในที่ทำงานเช่นกัน นอกจากนี้การเรียนรู้ที่จะมอบหมายงานให้คนอื่น ยังทำให้มีเวลาทำสิ่งที่ชอบ แทนที่จะเป็นทาสรับใช้ ที่คอยตอบสนองความต้องการของครอบครัว และเพื่อนฝูงอยู่ทุกวัน

แมวให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิต

การไม่ทำอะไรเลย และการให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตนั้น แตกต่างกันอย่างชัดเจน ในสังคมปัจจุบันการไม่ทำอะไรเลย การใช้เวลาพูดคุยกัน พักหายใจ การสังเกต และการให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิต มักถูกมองว่าเป็นเรื่องผิด มักถูกพร่ำบอกว่า ต้องไม่หยุดนิ่งต้องตักตวงประโยชน์ และทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา การให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิต ไม่ได้หมายความว่าต้องทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้ทำทุกสิ่งและเห็นทุกอย่าง ก่อนที่ความตายอันหลีกเลี่ยงไม่ได้จะมาถึง ในทางกลับกัน การให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตคือ การตระหนักรู้ถึงทุกช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามา พิจารณาช่วงเวลาเหล่านั้น และใช้มันอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้เพลิดเพลินไปกับแต่ละเสี้ยววินาที นี่คือสิ่งที่แมวทำ แมวไม่เข้าใจเรื่องเวลา และยังไม่เข้าใจเรื่องความตายอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนกว่าความตายนั้นจะเกิดขึ้นกับมัน การให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตคือ การรู้ว่าจะตักตวงประโยชน์จากชีวิตให้เต็มที่ได้อย่างไร ไม่ใช่การพยายามทำทุกสิ่ง เห็นทุกอย่างหรือไปทุกที่อย่างที่ทำ ควรหยุดพักผ่อนคลาย และสังเกตโลกรอบตัว เมื่อเลียนแบบแมวก็จะรู้สึกว่าความสงบเล็ก ๆ ได้กลับคืนมาในชีวิตอีกครั้ง

แมวกลับตัวเข้ากับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

ชิกกี้ผู้เหลือแค่ 3 อุ้งเท้า มันสูญเสียอุ้งเท้าหน้าข้างขวาไป หลังจากถูกมอเตอร์ไซค์ทับ ตอนอายุไม่ถึง 1 ขวบ แลมันกลับมาทำพฤติกรรมเดิม ๆ เหมือนตอนยังมี 4 อุ้งเท้าได้ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากเอาผ้าพันแผลออก แมวเหนือกว่าเราในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงความสามารถในการปรับตัว และการเข้าใจผู้อื่น ความพิการของชิกกี้ไม่สามารถหยุดมันจากการใช้ชีวิตอย่างที่เคยได้ ไม่มีบันไดหรือต้นไม้ต้นไหนที่ชิกกี้กับอุ้งเท้าที่หายไปจะปีนไม่ได้ แมวเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับตัวทางร่างกาย และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ถึงแม้ว่าแมวจะเกลียดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต แต่มันก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ ในการสร้างพื้นที่แห่งความสุขกายสบายใจ ในที่ต่าง ๆ โดยรวมพฤติกรรมเก่าเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ เพื่อให้อยู่ได้อย่างมีความสุข ความสามารถในการปรับตัวของแมวเป็นสัญลักษณ์แห่งสติปัญญาอย่างแท้จริง

แมวรักสงบ

ลองใช้เวลาสักครู่หนึ่งในแต่ละวัน เพื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบโดยสมบูรณ์ แล้วฟังแค่เสียงของตัวเอง เสียงภายในใจ และเสียงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ ถ้าเพิ่มความสงบภายในด้วยวิธีนี้ บ่มเพาะและทะนุถนอมมันไว้ทุก ๆ วัน ก็จะได้พบกับความสงบภายนอกอีกครั้ง พูดง่าย ๆ ก็คือจะได้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ทำอย่างแมวแสวงหาความสงบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส สามารถทนอยู่กับเสียงรบกวนทั้งหมดในโลกได้ ก็ต่อเมื่อเสียงเหล่านั้นไม่ได้กวนใจ เพิ่มความเครียด และลุกล้ำความสงบภายในของเรา โดยปกติแล้ว การสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความสงบ จะนำมาซึ่งความสุขการสบายใจ ทั้งยังเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในการหลีกเลี่ยงความกังวลด้วย

แมวเลือกเพื่อนเอง

สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ แมวจะไม่ทนอยู่ในความสัมพันธ์กับแมวตัวอื่น หรือมนุษย์ที่ไม่เข้ากับตัวเอง พวกมันเลือกเพื่อนทีละตัวหรือทีละคน และรักอีกฝ่ายมาก ๆ แล้วทำไมมนุษย์อย่างเราถึงต้องเสียเวลาชีวิต เพื่อทนอยู่กับคนแย่ ๆ ที่มีค่านิยมต่างจากเราโดยสิ้นเชิง จงเลือกเหมือนอย่างแมว นี่เป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด เลือกคนที่อยากคบหา คนที่รัก และคนที่ปรารถนาจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แมวเลือกโดยทดสอบความรัก ลักษณะนิสัย และความซื่อสัตย์เป็นอันดับแรก หากแมวรู้สึกได้ว่ามีความสำคัญกับชีวิตของมัน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตมันก็เลือกที่จะรัก และซื่อสัตย์เสมอ เลิกทนอยู่กับคนนิสัยแย่ ๆ จงรู้จักเลือกเพื่อนพ้องและมิตรสหายของตัวเอง

แมวรู้จักพักผ่อนมันรักการนอนหลับ

เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายให้ได้อย่างแมว ปล่อยให้ตัวเองงีบหลับเมื่อมีโอกาส รู้อยู่แล้วว่ามันดีต่อสุขภาพทางร่างกายและจิตใจ แมวที่กำลังนอนกระพริบตาเบา ๆ อยู่ตรงนั้นก็รู้มาตลอดเช่นกัน แมวซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพักผ่อน ไม่ได้สะสมเวลานอนให้ได้มาก ๆ แต่มันสะสมความเพลิดเพลินของการนอนหลับ เอาไว้มากกว่าการนอนหลับ เป็นหนึ่งในความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับแมว ตั้งแต่การงีบหลับไปจนถึงการหลับลึก ที่อาจเห็นมันตะกุยขาเหมือนกำลังวิ่งอยู่ในความฝัน การนอนหลับอย่างมีความสุข ไม่มีทางขัดขวางจากการเพลิดเพลินกับชีวิต ถึงแม้มักจะเข้าใจคำนี้ได้ไม่ดีพอก็ตาม

แมวรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรปฏิเสธ (และทำเช่นนั้นโดยไม่ลังเล)

แมวเกลียดการถูกสั่งด้วยความดื้อรั้นตั้งแต่หัวจรดปลายอุ้งเท้า ทำให้แมวแทบไม่เคยทำตามคำสั่ง แล้วมนุษย์เราชอบทำตามคำสั่งไหมแน่นอนว่าไม่ แต่เราก็ยังทนทำตามคำสั่งตลอดวันทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ยังไม่รวมคำสั่งอ้อม ๆ จากบรรทัดฐานทางสังคม ที่เราต้องปฏิบัติตามด้วย จงเรียนรู้ที่จะปฏิเสธให้ได้เหมือนอย่างแมว เลิกทนทำตามความต้องการของคนอื่น และคำสั่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธคือการปกป้องเวลา ความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ และชีวิต ทั้งยังช่วยให้ได้รับความเคารพจากครอบครัว เพื่อนฝูง รวมไปถึงเพื่อนร่วมงาน ที่บางครั้งก็เอาเปรียบเพราะปฏิเสธใครไม่เป็น

แมวหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง(ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)

แมวไม่ชอบความขัดแย้ง ยิ่งแมวมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งใช้กลอุบาย ที่ทำให้ศัตรูหนีไป เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งมากขึ้นเท่านั้น ชิกกี้ใช้กลอุบายที่ไม่มีใครเอาชนะได้ ทุกครั้งที่มีแมวหนุ่มตัวใหญ่ลุกล้ำอาณาเขตในตอนกลางคืน มันซ่อนตัวอยู่ในเงามืดหลังเถาไม้ที่ขอบหน้าต่างด้านนอก แล้วส่งเสียงคำรามออกมา แม้จะมีเพียง 3 อุ้งเท้าแต่อาวุธที่ชิกกี้ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในยามค่ำคืน ก็คือความเจ้าเล่ห์กลยุทธ์และการหลอกให้กลัว แมวมีวิธีที่น่าสนใจในการจัดการกับความขัดแย้ง ขณะที่มนุษย์เรายังนิยมใช้วิธีที่โบราณ และไร้ประโยชน์อย่างการทะเลาะกันอยู่ ในความขัดแย้งแต่ละครั้ง จะมีผู้แพ้ 2 คนเสมอ แมวรู้เรื่องนี้มานานแล้ว

แมวรักบ้านของมันและกำหนดอาณาเขตของตัวเอง

แมวรักบ้านของมันไม่ว่าจะหลังเล็กหรือใหญ่ แต่สิ่งที่น่าสนใจในที่นี้ก็คือ ความรักความใส่ใจ และการปกป้องของแมวที่มีให้กับบ้าน ซึ่งเป็นอาณาเขตของมันพูดได้ว่า แมวผูกพันกับบ้านของมันมาก ต่อให้เป็นเพียงอพาร์ทเม้นท์ขนาดหนึ่งห้องนอนก็ตาม เพราะบ้านถือเป็นหัวใจในโลกแห่งความสบายของแมว และยังเป็นพื้นที่แห่งความสุขกายสบายใจด้วย ไม่จำเป็นต้องทำสัญลักษณ์เพื่อประกาศอาณาเขตเหมือนกับแมวบ้าน เป็นศูนย์กลางความสุข ซึ่งแถวบ้านมีทั้งเพื่อนบ้าน ร้านค้า ธุรกิจชุมชนที่อยากรู้จัก และสวนสาธารณะเล็ก ๆ ตรงหัวมุมถนนที่สามารถนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ ในช่วงฤดูร้อน สามารถขยายอาณาเขตพื้นที่แห่งความสบายใจ และขอบเขตความปลอดภัยได้อย่างที่แมวทำ บ้านควรเป็นรางวัลอันแสนอบอุ่น ที่สามารถกลับไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการผ่อนคลาย ดูแลตัวเองฟื้นฟูจิตใจ และอยู่ร่วมกับคนที่รัก

แมวเชื่อใจคุณ

เมื่อแมวตัวหนึ่งเลือกคุณเป็นเพื่อนแท้ มันจะเชื่อใจคุณอย่างเต็มที่ สมบูรณ์และแทบไร้ข้อกังขาใด ๆ แมวแสดงความเชื่อใจอย่างลึกซึ้งออกมาในหลายรูปแบบ แต่ก็มีบางพฤติกรรมที่เป็นตัวบ่งชี้อย่างชัดเจน แล้วเราเชื่อใจคนอื่นมากแค่ไหน บ่อยครั้งหลังจากผิดหวังในความรักหรือมิตรภาพ จะพบว่าการกลับมาเชื่อใจคนอื่นอีกครั้งเป็นเรื่องยาก แม้จะอยากเชื่อใจแต่กลับคอยละแวงระวังและจับผิดท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอีกฝ่าย ซึ่งเราไม่ตีความผิดอยู่บ่อย ๆ ว่าพวกเขาทำผิดหรือกำลังโกหกอยู่ ความหวาดระแวงเช่นนี้อันตรายต่อชีวิตอย่างมาก ทางเดียวที่จะค้นพบความสงบสุข และรสชาติแห่งความรักได้อีกครั้งก็คือ จงเรียนรู้ที่จะเชื่อใจแบบไร้ข้อกังขาให้ได้เหมือนอย่างแมว เปิดประตูหัวใจปล่อยให้ตัวเองได้เป็นอิสระ และรู้จักเชื่อใจคนอื่นเพราะคุณไม่มีทางเลือก หรือวิธีอื่นที่สามารถทำได้อีกแล้ว ถ้าอยากคว้าโอกาสที่จะใช้ชีวิต ในแบบที่มีความสุขที่สุด

แมวเกิดมาเพื่อเป็นเจ้านาย

แมวเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม และเป็นเจ้านายที่สมบูรณ์แบบ หัวใจสำคัญของการทำอย่างแมวในที่ทำงานก็คือ การรู้จักมอบหมายงานให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเพื่อให้บริหารงานและธุรกิจได้อย่างเหมาะสม หรือเพื่อยอมรับและให้อิสระในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน การมอบหมายงานก็ยังทำให้อยู่ตรงนั้น เพื่อเฝ้ามองจับตามองดูสิ่งต่าง ๆ เห็นทุกอย่างโดยที่ไม่มีใครเห็น และเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือไม่ก็ตาม ทัศนคติแบบแมว ๆ ก็เหมาะกับการทำงานเป็นอย่างมาก ลองทำตามตัวอย่างต่อไปนี้

1.อย่าใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น จัดสรรงานและระยะเวลาที่ควรใช้ โดยคำนึงถึงความสำคัญของงานเป็นหลัก

2.อย่าวิ่งวุ่นทำสิ่งต่างๆเพียงเพื่อที่จะสร้างภาพว่ามีงานล้นมือ

3.มีประสิทธิภาพในยามจำเป็นและจัดการปัญหาต่างๆในทันที

4.แอบเฝ้ามองและติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัทอยู่เสมอ

5.ตอบสนองอย่างรวดเร็วหากจำเป็น และทุ่มเทให้มากขึ้นในบางครั้ง

6.หัดดื่มกาแฟกับเพื่อนร่วมงานเป็นประจำ เพื่อติดตามเรื่องซุบซิบในออฟฟิศ และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม

7.อย่าสร้างว่ากำลังทำงานอยู่คนอื่นมักจะดูออกเสมอ

8.อย่าแสร้งว่ารับมือไม่ได้ เพราะมันเป็นสัญญาณของความไร้ประสิทธิภาพ

หากเป็นเจ้านายจงเอาอย่างแมว มีทัศนคติที่แข็งแกร่ง แต่มีเมตตาอยู่เสมอ ให้กำลังใจผ่านการเฝ้ามอง และคอยดูอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายหรือไม่ เวลาทำงานก็จงทำให้ดีที่สุดเสมอ โดยไม่พูดจาเหลวไหลให้มากความ

แมวไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

แมวอดทนรอได้ทั้งวันโดยที่มันไม่เบื่อหรือยอมแพ้ และนี่คือบทเรียนสำคัญของชีวิต แมวไม่ละความพยายามจนกว่าภารกิจจับหนูของมันจะสำเร็จ ความมุมานะนี้ช่างน่ายกย่อง แมวไม่คิดคำนวณเวลาที่ผ่านไป และไม่ใส่ใจกับความเหนื่อยล้าที่สะสม ในขณะที่มนุษย์มักยอมแพ้อยู่บ่อย ๆ แม้จะเห็นเป้าหมายอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตาม แมวอดทนและไม่ยอมแพ้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่มันต้องการ มนุษย์ทำได้เพียงชื่นชม และพยายามทำให้ได้เช่นนั้น จงอดทนและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ กับทุกสิ่งที่ทำ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด

แมวระแวดระวังอยู่เสมอ

แมวไม่หุนหันพลันแล่น มันเรียนรู้จากความผิดพลาดเสมอ แมวจะไม่เดินดุ่มเข้าหาสถานที่ รถ หรือสิ่งใหม่เป็นอันขาด ถ้ายังไม่ได้ใช้เวลาจับตาดูสิ่งนั้น และละแวดระวังให้ดีเสียก่อน การระแวดระวังมักช่วยให้เราหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งและอุบัติเหตุได้ แต่มนุษย์นั้นขาดสัญชาตญาณ จึงสั่งสมความรู้และประสบการณ์ผ่านการหยิบถ่านที่ยังคุกรุ่นด้วยสองมือ เพื่อที่จะได้รู้ว่าถ่านยังไหม้อยู่ หากลองคิดดู นี่ช่างเป็นวิธีที่แสนประหลาด ในการทำสิ่งต่าง ๆ มนุษย์ดูจะไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะได้เรียนรู้ ลองนับดูว่ามีมนุษย์กี่คนที่ป่วยเพราะกินอาหารบูดเข้าไปโดยไม่รู้ตัว แมวมีโอกาสน้อยมากที่จะกินอาหารที่เป็นพิษเข้าไปเอง เพราะมันใช้ประสาทสัมผัส และความละแวดระวังกับทุกเรื่อง รวมไปถึงอาหารของมันด้วย

มนุษย์มักจะกล้าหาญโดยธรรมชาติ จึงตามมาด้วยความประมาท เหมือนกับเด็กน้อยที่ต้องให้ผู้ใหญ่คอยตักเตือนสั่งสอน และปกป้องจากอันตรายต่าง ๆ สัญชาตญาณไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งยังชี้นำให้ระแวดระวังอยู่เสมอ เพื่อความสุขกายสบายใจ ความประทับใจแรกไม่เคยโกหก เพื่อที่จะได้ละแวดระวังมากขึ้นในอนาคต จงพยายามเชื่อมโยงกับสัญชาตญาณอีกครั้ง รับฟังเสียงที่ดังอยู่ภายใน และเชื่อใจตัวเอง แล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เมื่อรู้สึกกังขา ก็จงอย่าได้กังขา จงเชื่อในสัญชาตญาณ

แมวต้องการความรักอย่างมาก

เราทุกคนล้วนอยากได้อ้อมกอด การจูบ และการสัมผัสด้วยความรัก และการแสดงความรักแบบอื่น ๆ ในขณะที่หลายคนพบว่าตัวเองขาดความรักในบางครั้ง แต่แมวกลับไม่เคยลังเลที่จะเข้ามาขอความรัก ความอ่อนโยนจากคนในยามที่มันต้องการเลย บางครั้งแมวก็ต้องการความรู้สึกใกล้ชิดทางใจกับมนุษย์ เหมือนที่บางครั้งเราก็ต้องการความสุข อยู่ในอ้อมกอดของคนที่เรารัก และโอบกอดพวกเขาไว้แน่น ๆ เราต้องการความรักบ่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความรักที่เรามีให้ตัวเอง บางคนชอบการกอดมาก แต่บางคนก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น เพราะเราอาจไม่ได้ต้องการปริมาณความรักเท่ากันทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเราทุกคน ก็ยังต้องการความอ่อนโยน อ้อมกอด และความอบอุ่นทางใจ ในปริมาณหนึ่งอย่างแน่นอน เราเองก็เหมือนกับแมว เราต่างโหยหา คาดหวัง และเฝ้ารอความรักอันแสนสำคัญนี้ ที่เราทุกคนล้วนต้องการ เมื่อขาดความรักเราจะเหี่ยวเฉาลงทุกวัน ๆ ทีละน้อย เช่นเดียวกับแมวหรือดอกไม้ เพราะหัวใจของมนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ หากปราศจากแรงผลักดันที่เรียกว่าความรัก

แมวสงบนิ่งโดยธรรมชาติ

หลาย ๆ คนเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทั้งยังทำนู่นทำนี่ไม่หยุด ราวกับอยู่นิ่งไม่ได้สักนาที ติดอยู่กับจังหวะชีวิตในเมืองใหญ่ ที่เคลื่อนไปอย่างไม่หยุดยั้ง และความเครียดมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา แล้วก็แบกความเครียดนั้นกลับมาที่บ้านด้วย แมวมองคุณที่วิ่งวุ่นไปมาระหว่างห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน สงสัยใช่ไหมว่าทำไมมันถึงมอง แต่ในขณะเดียวกันมันก็กำลังวิเคราะห์ด้วยว่า มนุษย์เกิดอาการโง่เขลาขั้นรุนแรงอย่างฉับพลันอยู่หรือเปล่า สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหายใจออกช้า ๆ จะรู้สึกถึงความสงบภายในอย่างลึกซึ้ง ราวกับพึ่งวางความรู้สึกอันหนักอึ้งที่แบกไปลงบนพื้น แล้วคลี่ยิ้มออกมาอย่างสดใส ด้วยการทำเช่นนี้ และละสายตาของแมวที่จับจ้องอยู่ จะเริ่มตระหนักว่าสิ่งที่กำลังวิ่งวุ่นทำอยู่คือ การเปลี่ยนจากวันทำงานอันแสนวุ่นวาย มาเป็นวันทำงานอันแสนวุ่นวายที่ไร้ประโยชน์ในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะอยู่นิ่งไม่ได้ และเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แต่ต้องทำอย่างไม่เครียดและสนุกมากขึ้น

แมวรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และร้องขออย่างตรงไปตรงมา

แมวไม่อ้อมค้อม เมื่อมันต้องการบางสิ่ง และจะตื้อจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ แมวรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และมันจะไม่มีทางเปลี่ยนใจ การหลีกเลี่ยงที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูดตรง ๆ หรือหลีกเลี่ยงที่จะร้องขอสิ่งที่ต้องการอย่างชัดเจน เป็นความไร้สติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับเราทุกคน ไม่ว่ามากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม และมันก็เป็นพฤติกรรมที่น่าเหนื่อยหน่ายเป็นอย่างมาก จงตรงไปตรงมา อย่ากลัวที่จะพูดความจริง แม้มันจะไม่น่าฟัง จัดการกับประเด็นปัญหาอย่างไม่อ้อมค้อม พูดตามความเป็นจริง และระบุสิ่งที่ปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง เมื่อตรงไปตรงมาจะประหยัดทั้งเวลาและพลังงาน ท้ายที่สุดแล้วแม้แมวจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แต่นอกจากการเรียกร้องผ่านท่าทางและพฤติกรรมแล้ว แมวยังลงมือทำด้วย การพูดและร้องขออย่างตรงไปตรงมา จงหัดพูดให้ติดปากว่า ฉันต้องการ ฉันทำได้ ฉันอยากทำ ให้เหมือนกับหนวดที่ติดอยู่บนหน้าของแมว

แมวกล้าที่จะร้องขอทุกครั้ง

เมื่อระบุกำหนดและแสดงความปรารถนาอย่างชัดเจน บางครั้งเราก็ต้องการเครื่องมือ สิ่งกระตุ้นและความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ บ่อยครั้งเพราะไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือ ในเรื่องงานหรือปัญหาส่วนตัว อาจเป็นเพราะละอาย กลัวถูกปฏิเสธ กังวลที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา หรือรู้สึกแย่ที่ต้องอ้อนวอนคนอื่น แล้วความละอายก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่อเป็นปัญหาการเงิน ไม่ร้องขอความช่วยเหลือ เพราะหยิ่งยโส แถมยังทะนงตนแบบผิด ๆ แต่แมวร้องขอสิ่งต่าง ๆ นั้นจะเรียกร้องเมื่อมันหิว อยากออกไปเดินเล่น หรืออยากกอด แม้แต่ในตอนที่คุณนอนหลับอยู่ แมวก็จะเข้ามาปลุกอย่างไม่ละอาย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะทำตามความต้องการของมัน ในขณะนั้นมนุษย์เองก็จะให้ได้ประโยชน์ จากการร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบตัวในยามจำเป็นเช่นกัน และสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ ถ้าเอ่ยปากขอก็มีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือเสมอ บางคนยินดีที่จะช่วย เพราะรู้สึกว่าเห็นคุณค่าของพวกเขา

แมวซื่อสัตย์เสมอ

ทุกคนล้วนเคยโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางครั้ง และคนแรกที่โกหกก็คือตัวเอง คำโกหกนั้นไม่ได้ทำให้มีความสุขสักเท่าไหร่ แต่ทำให้อับอายและไม่ค่อยภูมิใจในตัวเอง แมวไม่เคยซ่อนความไม่สบายใจ ความรู้สึกและความปรารถนาของตัวเอง มันทั้งเปิดเผยและมั่นคงต่อทัศนคติกับความคิดของตัวเอง ถ้าซื่อสัตย์ก็ไม่ต้องหลอกใคร ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องจดจำคำโกหก แล้วกลืนน้ำลายตัวเองในภายหลัง การโกหกนั้นเป็นเรื่องที่น่าเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องคอยปกปิดทุกคำโกหกของตัวเอง แต่สามารถหยุดนิสัยชอบโกหกเล็ก ๆ น้อย ๆ และเสพติดการโกหกได้ด้วยการขี้เกียจโกหก และหันมาพูดแต่ความจริง จงซื่อสัตย์และเปิดเผยเหมือนกับแมว จงซื่อสัตย์เพื่อที่คนอื่นจะได้เชื่อใจ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี ความสงบภายในจิตใจ และความภูมิใจในตัวเอง

แมวนิ่งเงียบและช่างสังเกต

ส่วนใหญ่แล้วแมวจะหยุดร้อง และกลับไปสนใจความคิดในหัว สิ่งที่มันสนใจอยู่และความสุขกายสบายใจของตัวเอง ไม่มีประโยชน์ที่มันจะพูดกับแมวตัวอื่น หรือมนุษย์ที่ดูจะไม่เข้าใจอะไรเลย แมวนั้นแตกต่างจากมนุษย์ มันโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวอย่างรวดเร็ว จึงเรียนรู้ที่จะควบคุมคำพูดของตัวเองได้เร็วกว่ามนุษย์มาก แมวเฝ้าดูทุกสิ่งที่ทำ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมอย่างเงียบ ๆ อยู่เสมอ แต่แมวแทบไม่ออกความคิดเห็นใด ๆ เลย การเรียนรู้ที่จะควบคุมคำพูดของตัวเองหมายถึง การที่รู้จักยับยั้งชั่งใจ หลีกเลี่ยงการพูดเรื่องไร้สาระ ไตร่ตรอง และประเมินความคิดของตัวเองก่อนพูด รวมถึงรู้จักรับฟังคนอื่น การเรียนรู้ที่จะควบคุมคำพูดของตัวเอง ยังช่วยให้รักษาระยะห่างกับคนอื่นได้เล็กน้อย และเก็บความลับเล็ก ๆ ในชีวิตเอาไว้ จงเรียนรู้ที่จะควบคุมคำพูดของตัวเอง และเลิกพูดโดยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา จงรับฟังเพื่อเรียนรู้และรู้ว่าควรเงียบตอนไหน แล้วคำพูดจะมีพลังมากขึ้นเมื่อเอ่ยปากพูด

แมวเป็นเพื่อนที่จริงใจ

ถ้าแมวยอมรับคุณเข้าสู่โลกของมัน มันก็จะกลายเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ และมั่นคงของคุณไปตลอด แต่มนุษย์คอยอยู่เคียงข้างและใส่ใจเพื่อนได้เท่าที่แมวทำไหม ความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของชีวิต มักทำให้เราต้องถอยห่างจากคนใกล้ชิด และคนที่รักไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันก็คือ เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตของตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง ก็อาจละเลยคนที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอมาตลอดหลายปี แล้วหันไปทุ่มเทให้กับความรักที่เพิ่งก่อตัวขึ้นแทน นี่คือความเห็นแก่ตัวที่ชัดเจนมากเสียจนสามารถทำให้เพื่อนของเรารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง หรือกระทั่งรู้สึกว่าถูกหักหลังได้เลย เราสามารถเรียนรู้ความซื่อสัตย์ในมิตรภาพได้จากแมว ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างเสมอตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย โดยปราศจากเล่ห์เหลี่ยมหรือการหลอกลวงใด ๆ แมวอาจมีมนุษยธรรมมากกว่ามนุษย์เสียอีก เพราะบางครั้งก็อยากหันกลับมาจดจ่อกับชีวิตของตัวเอง โดยลืมเลือนสิ่งที่เคยให้ หรือเคยพูดไว้กับคนอื่นจนหมดสิ้น มิตรภาพนั้นทรงพลังมากพอ ๆ กับความรักหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะมิตรภาพมักคงอยู่ได้นานกว่ามาก การสละมิตรภาพแล้วกระโจนเข้าหาความรัก โดยอ้างบรรทัดฐานทางสังคมที่ว่า เราควรลงหลักปักฐานเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่ง เพราะเป็นเพียงการคิดคำนวณรูปแบบหนึ่ง ที่ยอมแลกสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่ง และเป็นความพยายามที่ทำให้ดูเหมือนว่า กำลังทำสิ่งที่เหมาะสม ในทางกลับกันมันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการทำให้แน่ใจว่า จะไม่เหลือเพื่อนที่คอยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ ในตอนที่เลิกรากับคนรัก

แมวจดจ่อกับสิ่งที่สำคัญ

แมวนั้นจะดูแลเอาใจใส่ความสะอาด และรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองมากเพียงใด แต่มันก็ยังคุ้ยถังขยะสุดสกปรกด้วยความรื่นเริง มันรักสภาพแวดล้อมทั้งสองแบบ และไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองจะดูเหมือนผ้าขี้ริ้วสกปรก ทุกคนสามารถเรียนรู้ที่จะแยกตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมและวัตถุสิ่งของได้ แม้จะเพียงเล็กน้อย และพยายามอย่าให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้นมากเกินไป แมวไม่ได้ยึดถือแนวคิดวัตถุนิยม หรือฐานะทางสังคม สิ่งสำคัญสำหรับมันมีเพียงแค่ความสุข และความปรารถนาของตัวเองเท่านั้น และอย่างที่เรารู้กันว่า แมวไม่ใส่ใจว่าคนอื่นจะคิด มีความเห็นและตัดสินมันอย่างไร จงทำสิ่งที่ชอบเมื่ออยากทำ และไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นให้มากเกินไป

แมวคงความเป็นตัวเองเสมอ

แมวไม่เคยหลอกหรือแสร้งทำกริยาใดเมื่อเข้าหามนุษย์ มันไม่ล่อลวง สวมบทบาท หรือลอกเลียนแบบใคร ไม่ว่าจะเรียกร้อง หรือต้องการอะไร มันจะทำในแบบของมันเอง เมื่อโกหกเพราะกลัวว่าจะเก่งไม่เท่าคนอื่น ก็จะกลัวว่าจะถูกจับได้ ซึ่งนั่นจะทำลายเสน่ห์ดึงดูดของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เป็นอย่างแท้จริงนั้น ไม่มีสิ่งใดปลอมปน มันเป็นปัจจัยและแสดงทุกสิ่งที่เป็นออกมา ทำให้งดงามมีเสน่ห์มากเชื่อถือในรายการในสายตาของคนอื่น การเป็นตัวของตัวเองคือ การให้คำมั่นสัญญาในสิ่งที่เราเป็น โดยไม่มีการตบตาหรือกลอุบาย การเรียนรู้ที่จะคงความเป็นตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่เราเป็นคือ วิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่เพื่อให้คนอื่นเห็นคุณค่า แต่เพื่อที่จะสร้างความประทับใจได้อย่างแท้จริง ฉะนั้นอย่าประเมินตัวเองต่ำเกินไป จงคงความเป็นตัวเองเอาไว้ในทุกสถานการณ์

แมวถ่อมตัวและใจดีกับตัวเอง

ทุกคนล้วนมีแนวโน้มที่จะตั้งมาตรฐานสูงเกินไปสักหน่อย ในบางครั้งเข้มงวดกับตัวเอง และถึงขั้นตำหนิตัวเองในเรื่องต่าง ๆ แน่นอนว่าควรทะเยอทะยาน และเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องรู้จักใจดีกับตัวเอง ในยามที่เผชิญกับอุปสรรคด้วย ควรทุ่มเทให้กับงานหรือโครงการที่ทำอย่างเต็มที่ก็จริง แต่คนอื่นไม่สามารถคาดหวังให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีเลิศตลอดเวลาจนถึงขั้นทำให้ล้มหมอนนอนเสื่อ แมวเป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับสิงโต แต่แมวไม่ได้พยายามจนเหน็ดเหนื่อย เพื่อที่จะแข็งแกร่งและรวดเร็วให้ได้อย่างสิงโตอยู่ตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่ราชาแห่งพงไพรและไม่มีวันเป็นด้วย บางทีอาจไม่ได้เป็นจ่าฝูงของแมวในละแวกบ้านด้วยซ้ำ แต่แล้วไง นั่นขัดขวางแมวให้ใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ และมีความสุขอย่างนั้นหรือ ความถ่อมตัวและการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นเพียงเล็กน้อย จะไม่ขัดขวางจากการภูมิใจในตัวเอง และสิ่งที่ทำอย่างแน่นอน จงทำให้ดีที่สุดด้วยสิ่งที่เป็นและพัฒนาต่อไป แม้แมวจะรู้ว่ามันไม่มีวันเป็นสิงโต เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้มันเลิกกระโดด วิ่ง ออกล่า และเป็นราชาแห่งโซฟาได้ แม้มันจะไม่สามารถเป็นราชาแห่งพงไพร แต่ไม่ว่าจะทำอะไรจงทำให้เต็มที่

แมวรู้จักหาความสนุกจากทุกสิ่ง

บางครั้งเราก็สงสัยว่าชีวิตที่ต้องลำบาก เพื่อจะได้เรียนรู้นั้นโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า ดังนั้นการรู้จักหาความสนุกให้ตัวเองจริง ๆ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตมืดมนน้อยลง หรือเป็นทางเลือกในการจัดการกับสถานการณ์หนึ่งในมุมมองที่ต่างออกไป การรู้จักหาความสนุก เป็นเงื่อนไขสำคัญที่นำไปสู่ความสุข คนที่จริงจังมากเกินไป มักติดอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอยู่ตลอด และบางครั้งอาจลงเอยด้วยการไม่รู้วิธีเล่น หาความสนุก หรือหัวเราะ การเล่นเป็นหนึ่งในงานหลักของแมว และการล่าก็เป็นส่วนหนึ่งของงานนั้น แมวมีวิธีเล่นสนุกของมันแบบนี้ เช่นเดียวกับมนุษย์ที่คิดค้นวิธีหาความสนุก และสร้างเสียงหัวเราะเอาไว้นับไม่ถ้วน จงเรียนรู้ที่จะหัวเราะ จงเรียนรู้ที่จะไม่จริงจังกับตัวเองมากจนเกินไป และลืมสถานะทางสังคมของตัวเองไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ การเสแสร้งที่ทำ หรือนิสัยแบบมนุษย์ที่ยับยั้งไม่ให้สนุกและหัวเราะ จงลืมสิ่งเหล่านี้ไปให้หมด

แมวงดงามและมันก็รู้ตัวดี

เรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจก็คือ แมวทุกตัวล้วนงดงามตั้งแต่เกิดจนตาย โดยธรรมชาติแถมยังไม่ดูโทรมลงตามกาลเวลาสักเท่าไหร่ เรื่องที่แมวงดงามนั้นยังไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือความมั่นใจของแมวที่ฉายชัดอยู่ตลอด อาจเกิดมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า แมวนั้นงดงามและมันก็รู้ตัวดี สำหรับมนุษย์ความงดงามเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสุข ความมั่นใจในตัวเอง และไม่อาจทำใจให้คิดง่าย ๆ ว่า ความงดงามภายในจิตใจต่างหากที่สำคัญ เพราะรู้ว่านั่นไม่จริงเลย เป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนงดงามไม่เท่ากัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมกับความงดงามที่ธรรมชาติมอบให้ แต่เพียงเพราะไม่ได้มีความงดงามตามปกติก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นภาพแทนของความอัปลักษณ์ สองสิ่งนี้ยังมีช่องว่างที่แตกต่างกันอยู่มาก เมื่อไหร่ที่มองตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกจากใจจริงว่า ตัวเองนั้นงดงาม ความมีเสน่ห์ ความเปล่งประกาย และแรงดึงดูดจะเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่า การรู้สึกถึงความงดงามของตัวเอง แม้จะไม่ใช่สิ่งจำเป็นแต่ก็มีความสำคัญ งดงามเพราะสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้ ไม่ใช่เพราะสิ่งที่คนอื่นแสดงหรือกำหนดไว้ การรู้จักเสน่ห์ของตัวเองต่างหากที่สำคัญ

แมวสบายใจในทุกสถานการณ์

แมวไม่มีทางรู้สึกไม่สบายใจเหมือนมนุษย์ แมวไม่มีภาพลักษณ์ที่ต้องรักษา เพราะแมวเป็นตัวของตัวเองแล้ว จึงมีพฤติกรรมที่เปิดเผย สาเหตุหลักที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจอยู่เป็นครั้งคราวก็คือ คำโกหกที่สร้างขึ้นเองอย่างไม่ค่อยแนบเนียน จึงกังวลว่าจะถูกจับได้ กังวลว่าจะไม่สามารถทำตามสิ่งที่เคยโกหก หรือสิ่งที่เคยกล่าวอ้าง รวมถึงภาพลักษณ์ที่พยายามสร้างขึ้นมาทั้งหมด ตามความคาดหวังของคนอื่นได้ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจเมื่อต้องเผชิญกับคำโกหกของตัวเอง และก็ตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก ที่ต้องเลือกระหว่างสิ่งที่เคยโกหก กับสิ่งที่ทำหรือเป็นจริง ๆ และยิ่งโกหกไว้มากเท่าไหร่ ช่องว่างระหว่างคำโกหกกับความจริงก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ยังรู้สึกไม่สบายใจเพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอ เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ซึ่งนี่เป็นปัญหาของการขาดความมั่นใจในตัวเองมากกว่า เพื่อที่จะรู้สึกสบายใจได้ในทุกสถานการณ์ ต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองและคนอื่นให้ได้มากที่สุด อย่าทุ่มเทไปกับการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้คนอื่นเห็น เพราะภาพลักษณ์นั้นจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีได้ก็ต่อเมื่อทำอย่างแมว

แมวแสดงความเห็นอกเห็นใจ

พูดได้ว่ามนุษย์สู้แมวไม่ได้เลยในเรื่องความเห็นเห็นใจ แม้ว่าจะมีความปรารถนาดีอย่างยิ่ง แต่บางครั้งกลับพบว่า การรับฟังปัญหาของผู้อื่น และการเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นเรื่องยาก เพราะมัวแต่ทุกข์ใจกับปัญหาต่าง ๆ ของตัวเองอยู่ แมวมีความเห็นอกเห็นใจนี้อยู่แล้วในตัว ทั้งยังมีความเมตตา และสามารถรับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของมนุษย์ แม้ว่าจะไม่ได้พูดกับมันก็ตาม มันก็จะเริ่มปกป้องและปลอบประโลม หากพูดถึงความเห็นอกเห็นใจ และการรับฟังมนุษย์เรียนรู้อะไรจากแมวได้มากมาย เพียงแต่แค่ต้องเลิกหมกมุ่นกับตัวเอง แล้วยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และรับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจให้มากขึ้น เมื่อรับฟังผู้อื่นอย่างแท้จริงก็จะเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยที่บางครั้งก็อาจเป็นไปโดยไม่รู้ตัว

ใช้ชีวิตอย่างแมว

ผู้คนส่วนใหญ่ที่เลี้ยงแมว ต่างรู้สึกอิจฉาการใช้ชีวิตของมัน และการที่มันดูจะมีความสุขอยู่เสมอ เจ้าของแมวเหล่านี้มักใฝ่ฝันที่จะนำพฤติกรรม และปรัชญาของแมวมาใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง การทำตามวิธีใช้ชีวิตของแมว เพื่อเก็บเกี่ยวเฉพาะสิ่งที่นำมาซึ่งความเพลิดเพลิน ความสงบ ความสนุก รวมไปถึงความสุขกายสบายใจ และการรู้วิธีกำจัดทุกสิ่งที่ฉุดรั้งชีวิตออกไป โดยไม่ต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ทั้งหมดนี้อาจดูเป็นได้แค่ความฝัน แต่มันเป็นความฝันที่ทุกคนเอื้อมถึง ตราบเท่าที่ให้เวลาตัวเองได้ซึมซับนิสัยบางอย่างของแมว และเริ่มพัฒนาความภูมิใจในตัวเอง ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และความสามารถในการแยกแยะสิ่งสำคัญออกจากสิ่งไร้ประโยชน์ ให้แมวเป็นแรงบันดาลใจในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการจัดการกับความสัมพันธ์ การรับมือกับความเครียด การรู้จักปล่อยวาง หรือการสร้างความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาใหม่ ทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญของสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากความสามารถหลัก 40 อย่างที่แมวมีอยู่ในตัว ความสามารถเหล่านี้คือกุญแจสำคัญ ที่ทำให้กลับมาควบคุมชีวิตตัวเองได้อีกครั้ง ในยามที่ชีวิตไม่เป็นไปดั่งใจ และอยู่นอกเหนือจากการควบคุม นับจากนี้เป็นต้นไปจงใช้ชีวิตอย่างแมว จงทำให้การค้นหาความเพลิดเพลิน และความสุขกายสบายใจ กลายเป็นเป้าหมายในชีวิต.