หากพูดถึงความสำเร็จของบริษัทในแง่ตัวเลข หลายคนอาจนึกถึง ‘กำไรสุทธิ’ เป็นสิ่งแรก เนื่องจากเป็นตัวเลขที่สะท้อนผลประกอบการขั้นสุดท้าย แต่แท้จริงแล้ว

ยังมีตัวเลขสำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น นั่นคือ ‘EBIT‘ หรือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี แล้วมันคือตัวเลขอะไร ลองไปดูกัน

หากเขียนออกมาเป็นสมการ เพื่อให้ดูง่าย
EBIT = รายได้ – ต้นทุนขาย – ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

แยกชิ้นส่วนสมการแต่ละประเภท

1.รายได้: เงินทั้งหมดที่บริษัทได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งรวมถึงรายได้จากการขายหลัก และรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน

2.ต้นทุนขาย: ค่าใช้จ่ายโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าหรือบริการ เช่น วัตถุดิบ, ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิต เป็นต้น

3.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร: ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานทั่วไปของบริษัท เช่น ค่าโฆษณา, ค่าเช่าและ ค่าไฟฟ้า เป็นต้น 

จะได้ว่า EBIT ถือว่าเป็นตัวเลขที่ช่วยให้เห็นรายได้จากผลดำเนินงานหลักของบริษัท ซึ่งถือว่าทำให้เราสามารถเห็นความสามารถการทำกำไรของบริษัทได้อย่างแท้จริง

เมื่อเรามองภาพกำไรสุทธิของบริษัท ก็อาจเป็นเพียงการมองแบบผิวเผิน แต่หากเจาะลึกลงไปดูถึง EBIT ก็จะช่วยให้เราเห็นภาพบริษัทที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูตัวอย่างกัน

บริษัทผลิตเสื้อผ้า มีรายได้จากการขายเสื้อผ้า 1,000,000 บาท ต้นทุนขาย (รวมค่าผ้า ค่าแรงงาน) 500,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมค่าจ้างพนักงานขาย ค่าโฆษณา) 200,000 บาท

สามารถคำนวณ EBIT ได้แบบนี้

EBIT = 1,000,000 – 500,000 – 200,000 = 300,000 บาท

หมายความว่า บริษัทนี้มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก 300,000 บาท ก่อนที่จะนำไปหักดอกเบี้ยและภาษี

สุดท้าย EBIT หรือ  กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี เป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลประกอบการของบริษัท การมองแค่ EBIT เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการตัดสินใจลงทุน ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โครงสร้างทางการเงินของบริษัท, อุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินงาน และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ