โลกของธุรกิจในทุกวันนี้ เต็มไปด้วยการแข่งขัน หลายบริษัทระดับโลกเลือกที่จะกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ หากวันใดวันหนึ่ง รายได้บางส่วนได้หายไป ก็จะมีรายได้ในธุรกิจอื่นๆเข้ามาทดแทนได้
เสมือนกับการวางไข่ ไว้หลายตะกร้า หากตะกร้าอันหนึ่งอันใดพังลง ก็ยังเหลือไข่ใบที่เหลือจากตะกร้าอื่นอยู่
แม้ว่าการมีธุรกิจในมือมากมาย ดูเหมือนจะเป็นที่นิยม ก็มีบางบริษัทต้องการแยกธุรกิจบางส่วนออกมา เพื่อให้บริษัทนั้นมีความเป็นอิสระ หรือที่ เรียกว่า ‘Spin Off’ แล้วมีรายละเอียดยังไงบ้าง ลองไปดูต่อกัน
การ Spin-Off เป็นกลยุทธ์ที่บริษัทแม่แยกส่วนหนึ่งของธุรกิจออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ โดยหนึ่งในข้อดีของกลยุทธ์นี้คือการให้บริษัทที่แยกออกมามีอิสระในการบริหารจัดการ ซึ่งช่วยให้บริษัทนั้นสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตและพัฒนาได้อย่างเต็มที่
เมื่อบริษัทที่แยกออกมาได้รับอิสระในการดำเนินงานมากขึ้น ก็เปิดโอกาสให้บริษัทนั้นเติบโตตามแนวทางของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการตัดสินใจหรือการจัดการจากบริษัทแม่อีกต่อไป จากที่เคยอยู่ใต้ร่มเงาของบริษัทแม่ ซึ่งอาจทำให้ศักยภาพของบริษัทไม่สามารถแสดงออกมาได้เต็มที่
การ Spin-Off จึงเป็นเสมือนการปลดล็อกขีดความสามารถของบริษัท ให้สามารถพัฒนาและขยายธุรกิจตามวิสัยทัศน์ได้อย่างแท้จริง
หากบริษัทที่แยกออกมานั้น มีการเติบโตและแนวทางที่น่าสนใจ ก็เป็นปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจ ซึ่งสามารถเกิดการระดมทุน เข้าตลาดหลักทรัพย์ในลำดับถัดไปได้ ไม่เพียงเท่านี้ หากระดมทุนได้จริง ก็ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่บริษัทได้ด้วย เช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้ Spin-Off ออกมาจากบริษัทแม่อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT โดยได้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ในช่วงปี 2564 ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชน หากใครจอง IPO ในตอนนั้น ก็จะมีความสุขกันตามๆไปกันเกือบทุกคนเลย
สุดท้ายการที่บริษัท Spin-off มีการเติบโตและแนวทางที่น่าสนใจ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตและการพัฒนาของบริษัทในระยะยาวอีกด้วยนะ