1. ไม่มีแผนการเทรด
แผนการเทรดเปรียบเสมือแผนที่ในการเดินทาง หากการเดินทางโดยไร้แผนที่ จะเป็นการเดินทางที่สะเปะสะปะ ไร้ซึ่งจุดหมายอย่างแน่ชัด ดังนั้นเทรดเดอร์ทุกคนล้วนแต่ต้องมีแผนการเทรด เพื่อให้การเทรดเป็นไปอย่างมีแบบแผน ให้ดำเนินการเทรดเสมือนการทำธุรกิจ ไม่ใช่งานอดิเรก
- ตั้งเป้าหมายเกินความเป็นจริง
มือใหม่หลายคนที่เข้ามาในตลาดหวังที่จะรวยอย่างรวดเร็ว ตั้งเป้าหมายเกินความเป็นจริง อย่างเช่น ก่ะว่าจะปั้นพอร์ตให้โตปีละ 100% หรือ 1,000% ซึ่งหากมองโลกความเป็นจริงแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทั้งประสบการณ์ที่ยังน้อย และการตั้งเป้าหมายที่เกินจริง อย่าง Warren Buffett ที่เป็นบุคคลร่ำรวยจากหุ้นมากที่สุดในโลกยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 20-30% เอง
- ไม่คำนึงถึงความเสี่ยง
หลายคนเวลาเข้ามาในตลาดจะหวังแต่กำไร คิดในแง่กำไรอย่างเดียว แต่ดันลืมไปว่า ในการเทรดเป็นเกมส์ของ Risk และ Reward หากเราหวัง Reward ที่มาก นั้นแปลว่า เราต้องเปิดความเสี่ยง (Risk) ที่มากขึ้นตามไปด้วย และเวลาเทรดต้องคำนึงถึงความเสี่ยงเป็นอย่างแรก ไม่ใช่ผลตอบแทน เพราะ เทรดเดอร์เป็นอาชีพที่ต้องใช้เงินทุนในการเทรด สิ่งสำคัญที่สุดคือการปกป้องเงินลงทุนนั่นเอง
- ประเมินศักยภาพตัวเองผิด
พึ่งเข้ามาเป็นเทรดเดอร์ได้ไม่กี่เดือน อย่าหวังจะไปสู้คนที่เทรดมาทั้งชีวิต เหมือนกับทุกอาชีพ นักเทนนิส นักบอล นักวิ่ง พิธีกร ดารา นักแสดง Youtuber และอื่นๆอีกมากมาย อาชีพเหล่านี้จะมีมืออาชีพอยู่ในวงการอยู่แล้ว พวกเขานั่นเก่งมาก กว่าที่จะกลายเป็นมืออาชีพได้ จะต้องผ่านการเรียนรู้ ลองผิดลองถูกมากมาย เทรดเดอร์ก็เช่นเดียวกัน พึ่งเข้ามาเทรด อย่าพึ่งไปหวังจะต่อสู้กับพวกมืออาชีพนั้น ให้ศึกษาหาความรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน จนความสามารถเราถึงในระดับหนึ่ง ค่อยคิดจะต่อสู้กับคนพวกนั้น
- ไม่มี Stop loss
ไม่มีการเทรดชนะ 100% การแพ้เป็นส่วนหนึ่งของการเทรด ดังนั้นสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องเผชิญคือการแพ้ เวลาแพ้ก็ต้องมี Stop loss เพื่อหยุดการขาดทุน ไม่ปล่อยให้การขาดทุนนั้นทำร้ายพอร์ตของเราได้
- ปล่อยให้ขาดทุนมากเกินไป
อย่าละเลยแต่การขาดทุน บางคนคิดว่าการขาดทุนเป็นเรื่องปกติในการเทรด แต่แท้จริงแล้ว หากเราขาดทุนมากเกินไป แปลว่า เราต้องทำอะไรผิดไปบางอย่าง มีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นกับเรา ต้องแก้ไข อย่าปล่อยมันให้กลายเป็นมะเร็งจนไม่สามารถรักษาได้ทันในที่สุด
- ถั่วเฉลี่ยเมื่อผิดทาง / แก้แค้นการเทรด
เวลาผิดทาง คนเรามักจะใช้วิธีการถั่วเฉลี่ย เพื่อที่จะแก้แค้นการเทรดที่ผิดพลาดที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะไม่อยากขาดทุน ไม่อยากแพ้นั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ผลการขาดทุนของเทรดเดอร์หนักขึ้นเป็น 2 เท่า หากผิดทางต่อ ทำให้มีโอกาสที่จะพอร์ตระเบิดได้
หากการถั่วเฉลี่ยมาจากแผนที่ตั้งใจไว้แต่แรก อันนี้ถือว่าดี แต่หากการถั่วเฉลี่ยมาจากการแก้แค้น อันนี้ไม่ดี
- เทรดตามใจ
การเทรดตามใจตัวเองเป็นอะไรที่อันตรายอย่างมาก เพราะการเทรดไม่ใช่การพนัน ที่จะมาสุ่มมั่วไม่ได้ มันต้องมีแบบแผนที่ชัดเจน ไม่ทำตามใจตัวเองเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเกิดหายนะเกิดขึ้นได้
- ใช้ Margin / Leverage มากเกินไป
บ่อยครั้งที่เทรดเดอร์ต้องการสร้างผลตอบแทนที่มาก จากการลงทุนที่น้อย โดยใช้ Margin หรือ Leverage ในการช่วย โดยสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีหากใช้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง แต่มันก็เหมือนดาบสองคม หากใช้มากเกินไป จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อตัวเทรดเดอร์เอง
- ตามคนส่วนใหญ่
หากอยากจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จซึ่งมีจำนวนน้อย ก็ต้องไม่ทำตามคนส่วนใหญ่ พูดง่ายแต่ทำจริงยาก เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีความต้องการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่น่าจะผิด ซึ่งในการเทรด คนส่วนใหญ่มักจะผิด และคนส่วนใหญ่มักจะเสียเงิน
มีคำพูดที่เล่าต่อกันมาอย่างยาวนาน คือ 10 คนเข้ามาเทรด, 8 คนแพ้, 1 คนเสมอ และ 1 คนเชนะ
- ไม่ทำการบ้าน
ตลาดเป็นอะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องติดตามเฝ้ามองมันอย่างลึกซึ้ง อย่าละเลยมันเด็ดขาด การทำการบ้านจะช่วยให้การเทรดของเราในวันพรุ่งนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รู้ว่าควรทำอะไร ไม่ต้องเล่นหน้างาน
- เทรดมากเกินไป
Overtrade เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีสำหรับเทรดเดอร์ การเทรดไม่ควรจะเสพติดกับมัน เทรดเดอร์หลายคนที่สร้างกำไรมหาศาลมาจากการเทรดเพียงไม่กี่ครั้งก็มี ให้เทรดในจังหวะที่ใช่จริงๆ ค่อยยิงออเดอร์ อย่ายิงมั่ว อย่ายิงมากเกินความจำเป็น
- ปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุน
อย่าปล่อยให้กำไรกลายเป็นขาดทุนเด็ดขาด เมื่อเราได้กำไรแล้ว ควรเก็บมันออกมา หรือยกจุด Stop loss ให้มาเท่าทุน
- ชอบลองของ
อย่าไปเล่นในเกมส์ที่เรายังไม่ถนัด แม้เกมส์นั้นจะน่าเล่นมากก็ตาม บางคนเจอผลิตภัณฑ์การเทรดใหม่ๆ อย่างเช่น Option, DW, Crypto อะไรพวกนี้ เห็นคนเทรดได้กำไรมหาศาล เลยอยากเข้าไปเล่นตามบ้าง ทั้งที่ยังไม่ศึกษาอะไรเลย อยากเข้าไปลองของ อย่างนี้ไม่ดี
- มั่นใจเกินไป
การที่เรามั่นใจเกินไปก็ส่งผลไม่ดีต่อการเทรดได้เช่นเดียวกัน อย่าไปคิดว่าเราชนะมาแล้ว 10 ครั้ง แล้วเราเก่ง เราแน่ ซึ่งจริงๆแล้วอาจเป็นเพียงความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง เวลาคนเรามั่นใจอะไรมากๆ จะหลงระเริง ทำให้อาจเกิดพฤติกรรมไม่ดีเกิดขึ้น เช่น เพิ่ม Size การเทรด, ละเลยแผนการเทรด เป็นต้น