Screenshot

เคยสงสัยกันไหมว่า เวลาที่รัฐบาลมีโครงการต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รัฐบาลเอาเงินมาจากไหนกันนะ

คำตอบก็คือ รายได้ส่วนใหญ่แล้ว มาจาก “ภาษี” ที่คนไทยทุกคนร่วมกันจ่ายนั่นเอง

ประเภทของภาษี

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1.ภาษีทางตรง (Direct Tax)  คือ ภาษีที่ผู้มีหน้าที่เสียจะไม่สามารถผลักภาระไปให้คนอื่นได้
เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ,ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

2.ภาษีทางอ้อม (Indirect Tax) คือ ภาษีที่สามารถผลักภาระไปยังผู้บริโภคปลายทางได้ ผ่านราคาสินค้าและบริการ เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร และอีกหนึ่งภาษีทางอ้อมที่สำคัญมากก็คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT คืออะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ที่เราเรียกติดหูกัน ย่อมาจาก Value Added Tax ซึ่งเป็นภาษีที่เก็บจาก “มูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้น” ของสินค้าและบริการในแต่ละขั้นตอนการผลิตและการจำหน่าย

ลองนึกภาพเวลาที่เราซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ราคาสินค้าที่เราจ่ายไปมักจะรวมภาษี VAT 7% ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาษีส่วนนี้ก็คือ VAT ที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บจากเราในฐานะผู้บริโภค และนำส่งให้กับรัฐตามกฎหมายนั่นเอง

ตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น

หากสินค้าราคา 100 บาท เมื่อคิด VAT 7% จะกลายเป็น 107 บาท ที่ผู้บริโภคจ่ายจริง ซึ่งส่วนต่าง 7 บาท ก็คือ VAT ที่ผู้ประกอบการต้องส่งต่อไปยังกรมสรรพากร

ใครต้องจ่าย VAT บ้าง

ในความจริงแล้ว คนที่จ่าย VAT ก็คือ ผู้บริโภคทุกคน โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT จะเป็นคนเรียกเก็บภาษีจากเรา แล้วนำส่งให้รัฐบาลอีกที ซึ่งตามกฎหมายไทย ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

แต่มีบางกิจการที่ได้รับการยกเว้น VAT อย่างเช่น การขายปุ๋ย ,ผักและผลไม้ในประเทศ และหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน เป็นต้น

สรุปได้ว่า 

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เป็นหนึ่งในแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาล ซึ่งใช้สนับสนุนโครงการเพื่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล หรือพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในขณะที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่เก็บและนำส่ง VAT ให้รัฐ

สุดท้ายแล้ว ผู้บริโภค อย่างเราต่างเป็นผู้ที่จ่ายภาษีนี้จริง ๆ ผ่านการซื้อสินค้าและบริการในทุก ๆ วัน เรียกได้ว่าเรามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศทุกครั้งที่จ่ายเงินซื้อของนั่นเอง

ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ เพียงแค่ซื้อของในห้าง หรือร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เราก็เป็นผู้เสียภาษีแล้วนั่นเอง