ผมจะปิด position ก่อนมีข่าวทุกครั้ง ผมจะไม่ยอมถือ position ระหว่างวันในระหว่างที่มีข้อมูลสำคัญ และหลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าว ผมจะรอให้ความผันผวนลดลงก่อนทำการซื้อขายอีกครั้ง

กล่าวโดย เดล เจ้าของ Website : www.trader-dale.com ผู้เขียนหนังสือ Volume Profile : The insider’s guide to trading

เคล็ดลับ #1 : อย่าพยายามทำนายข่าวหรือการตอบสนองของตลาดที่มีต่อข่าว

เคล็ดลับ #2 : ติดตามเวลามีการเผยแพร่ข่าวเศรษฐกิจมหภาค

ตรวจสอบหน้าเว็บ Forex Factory ทุกเช้า และดูว่ามีข่าวอะไรบ้างระหว่างวัน ผมมักจะจดจำข่าวที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและหลีกเลี่ยงการซื้อขายช่วงเวลานั้น แต่เพื่อให้แน่ใจ 100% ว่าจะไม่พลาดข่าวสารใด ผมจะดูปฏิทินข่าวอย่างน้อยวันละครั้งก่อนถึงเวลาในการเทรด 

เคล็ดลับ #3 : วิธีจัดการกับข่าวที่ไม่คาดคิด

ข่าวที่ไม่คาดคิดเป็นส่วนที่ไม่พึงประสงค์ของการเทรด ข่าวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเกม และไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ มีข่าวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งทำให้ผมพ่ายแพ้ในการเทรดจากข่าวดังกล่าว โดยทั่วไปแล้วสามารถเป็นข่าวอะไรก็ได้ แต่มีข่าวบางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นก็คือ การกล่าวสุนทรพจน์ ที่ไม่ได้กำหนดไว้โดยธนาคารกลาง ผู้ว่าการธนาคาร หรือ ประธานาธิบดีในประเทศที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลก (เช่น ข่าวที่ไม่คาดที่สุดอาจเกิดจาก Trump บน Twitter ของเขา) นอกจากนี้ยังอาจเป็นสิ่งต่างๆ เช่น การทำสงคราม การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือกับญี่ปุ่น หรือ ภัยธรรมชาติบางประเภท เช่น พายุเฮอริเคย แผ่นดินไหว หรือ สึนามิ เป็นต้น

มีวิธีหลักเลี่ยงการซื้อขายบางวิธี

  1. ใช้ Forex Factory  : หากคุณเห็น “ข่าวสีแดง” คุณควรหลีกเลี่ยงการทำการซื้อขายจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง
  2. ใช้ FX Squawk : Fx Squawk เป็นบริการข่าวที่ทรงคุณค่า ซึ่งจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นพร้อมทั้งมีเสียงบรรยายแบบเรียลไทม์

เคล็ดลับ #4 : ความสำคัญและผลกระทบที่เป็นไปได้ของข่าวเศรษฐกิจมหภาคประเภทต่างๆ

ข้อดีของบริการ Forex Factory และเว็บไซด์อื่นที่คล้ายคคือ พวกเขาจัดลำดับข่าวแต่ละข่าวตามความสำคัญ Forex Factory มีการจัดลำดับข่าวอยู่ 3 ระดับ จากข่าวที่มีความสำคัญน้อยที่สุด สัญลักษณ์

สีเหลือง ระดับต่อมาคือ ข่าวเป็นสีส้มงแสดงถึงข่าวที่มีความสำคัญระดับปานกลาง และระดับสูงสุดคือ ข่าวสีแดงซึ่งเป็นข่าวที่

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยสนใจข่าวที่เป็น “สีเหลือง” (ผลกระทบต่ำ) หรือ “สีสัม” (ผลกระทบปานกลาง) เพราะข่าวนี้ไม่ได้ส่งผลอย่างมากต่อตลาด (ยกเว้นคำปราศรัยของผู้ว่าการสหรัฐฯ ซึ่งบางครั้งก็มี

คามสำคัญ และผมให้ความสนใจกับข่าวเหล่านี้ระดับเดียวกับ (“ข่าวสีแดง”) โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะไม่ทำให้เกิดความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญหรือสิ่งอื่นที่ผมควรกังวล ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่รังเกียจที่จะซื้อขาย

ในช่วงที่มีการปล่อยข่าวในระดับ “สีเหลือง” และ “สีส้ม” นั่นเอง

สิ่งที่ผมสนใจคือ “ข่าวสีแดง” เพราะมันสำคัญที่สุด และผมขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเมื่อเจอข่าวสีแดงนี้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาของข่าวสีแดงก็คือ บางข่าวสีแดงนั้น “สำคัญ” กว่าข่าวสีแดงข่าวอื่นๆ อย่าเข้าใจ

ผมผิด สีแดงเหมือนกัน แต่ความสำคัญและผลกระทบที่เป็นไปได้ของข่าวสีแดงต่างๆ อาจแตกต่างกันอย่างมาก แม้ความสามารถแยกแยะข่าวสีแดงได้อาจจะดูเหมือนมันไม่สำคัญนัก แต่จริงๆ แล้วความรู้นี้จะช่วยคุณได้มากทีเดียว ทำไมงั้นหรือ?

ผมจะขอยกตัวอย่าง : ข่าวที่เรียกได้ว่าเป็นข่าวสีแดง นั่นก็คือ “รายงานปริมาณสินค้าคลังน้ำมันดิบ” อีกข่าวคือ “การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย” ทั้งสองถูกทำเครื่องหมายเป็นสีแดง ซึ่งแสดงว่าเป็นข่าว

สำคัญ ข่าวแรกอาจจะไม่สร้างผลกระทบใดๆ ต่อ USD เลย ในขณะที่อีกข่าวมักจะเป็นจุดเริ่มดันของการปั่นที่บ้าคลั่ง สามารถอยู่ได้นานหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ในการเทรดของผมนั้น ผมรู้ว่าหากราคาไม่เคลื่อนไหวในระหว่างที่มีการรายงานปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมัน ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย และผมสามารถเริ่มการเทรดอีกครั้งหลังเหตุการณ์ประมาณ 1-2 นาที เมื่อมีข่าว “การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย” ผมจะไม่เข้าไปเทรดอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงหลังจากมีการแถลงข่าว และหากข่าวดังกล่าวทำให้เกิดแนวโน้มในการพัฒนาเพียงด้านเดียว ผมจะไม่ทำการเทรดใดๆ ที่ขัดต่อแนวโน้มนี้อย่างแน่นอน ผมหวังว่านี่จะแสดงให้เห็นถึงความแดกต่างที่ชัดเจนระหว่างรายการข่าวที่มีสัญลักษณ์เป็นสีแดง

เพื่อให้คุณได้มีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ผมจึงแยกข่าวสีแดงออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน

  1. ข่าวที่เป็นสีแดงอ่อน

หากคุณอยากเป็นผู้เล่นเชิงรุก คุณสามารถถือการเทรดระหว่างวันได้แม้จะมีข่าวดังกล่าว ข่าวนี้อาจจะไม่ทำให้เกิดความผันผวนครั้งใหญ่หรือไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างกะทันหันหากคุณออกจากการเทรดก่อนเกิดข่าวนี้คุณก็สามารถกลับเข้าสู่การเทรดได้อีกครั้งในไม่ช้า (สมมติว่า 1-5 นาที) หลังจากมีการปล่อยข่าวหากโซนแนวรับ/แนวต้านของคุณถูกราคาวิ่งมาชนในระหว่างที่มีข่าว คุณสามารถเข้าไปเทรดได้ (หากคุณรู้สึกอยากเป็นผู้เล่นเชิงรุก) หรือคุณอาจจะรอสักครู่แล้วค่อยเข้าสู่การเทรดหลังจากข่าวถูกเผยแพรในไม่กี่นาที

ตัวอย่าง “ข่าวที่เป็นสีแดงอ่อน”

  • ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
  • รายงานปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
  • การเรียกร้องสวัสดิการ การว่างงาน
  • รายงานการค้าปลีกหลัก
  • การอนุญาตให้ก่อสร้าง
  1. ข่าวที่เป็นสีแดงแบบมาตรฐาน

ผมไม่เคยถือหรือเข้าเทรดระหว่างที่มีการเกิดข่าวดังกล่าว ข่าวสีแดงมาตรฐานมีผลกระทบอย่างมากต่อความผันผวน สเปรดมักจะกว้างขึ้น และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเลื่อนหลุดแนวสำคัญได้ ไม่ว่าแนวรับ/แนวต้านของคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน ข่าวประเภทนี้สามารถทะลุผ่านแนวรับ/แนวต้านของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยไม่แสดงสัญญาณเดือนใดๆ เลย

หากผลของข่าวดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด นั่นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ได้ มักจะมีการเคลื่อนไหวเชิงรุกไปในทิศทางเดียวเท่านั้น และไม่มีการดึงกลับที่ชัดเจน ในกรณีเช่นนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะยกเลิกการซื้อขายทั้งหมดของคุณที่จะไปขัดต่อแนวโน้มดังกล่าว และเข้าเทรดในลักษณะ “การเทรดรูปแบบกลับตัว (Reversal Trade)” ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่

ตัวอย่าง “ข่าวที่เป็นสีแดงมาตรฐาน”

  • CPI (ด้ชนีราคาผู้บริโภค)
  • GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)
  • NFP (การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตร)
  • อัตราการว่างงาน
  • ประธานองค์กรเศรษฐกิจชั้นนำของโลกพูด (เกี่ยวกับหัวข้อที่ส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจและสกุลเงิน)
  1. ข่าวสีแดงที่เป็นดั่งปีศาจ

ข่าวประเภทนี้สามารถเปลี่ยนแปลงหรือเป็นจุดเริ่มต้นแนวโน้มรายวัน รายสัปดาห์ กระทั่งรายเดือนได้ เราจะไม่ทำการเทรดระหว่างวัน (หรือการเทรดแบบสวิง) ขณะหรือหลังจากที่เกิดข่าวดังกล่าวซึ่งมีความสำคัญมาก

หากมีการเคลื่อนไหวเชิงรุกด้านเดียว อย่าพยายามมองหาระดับสูงสุดหรือตำสุด ปล่อยให้รคาพุ่งผ่านโซน แนวรับ/แนวต้านของคุณเสียก่อนแล้วค่อยเข้าสู่ “การเทรดรูปแบบกลับตัว” ในทิศทางตามแนวโน้ม

ที่เริ่มตันใหม่ ถึงกระนั้น คุณควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง และต้องแน่ใจว่าช่วงความผันผวนที่รุนแรงครั้งแรกได้สิ้นสุดลงแล้วจริง ๆ เหตุผลก็คือในช่วงเหตุการณ์เศรษฐกิจมหภาดที่รุนแรงเช่นนี้ ธนาคารทั้งหมดรวมทั้งระบบอัลกอริทึมของพวกเขาจะเข้าซื้อขายกันอย่างจริงจังและดุเดือดผลลัพธ์ของช่วงเวลาที่บ้าคลั่งในครั้งแรกนั้นกาดเดาไม่ได้ ฉะนั้นคุณควรจะเริ่มซื้อขายในปริมาณที่เล็กน้อยหลังจากสถานการณ์สงบและคลี่คลายลงเท่านั้น

หากมีข่าวร้ายเช่นนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงโดยหยุดการซื้อขายสัก 2-3 ชั่วโมงก่อน แล้วค่อยเริ่มซื้อขายอีกครั้งใน Session ถัดไป

ตัวอย่างเช่น หากมีการประชุม FOMC ใน Session ของสหรัฐฯให้คุณกลับมาเริ่มซื้อขายอีกครั้งใน Session ของเอเชีย แด่หากคุณเป็นประเภทอนุรักษ์นิยม (ซอบความปลอดภัย) คุณจะไม่เริ่มซื้อขายใด ๆจนกว่าสหภาพยุโรปจะเริ่มเปิด Session

ตัวอย่าง “ข่าวสีแดงที่เป็นดั่งปีศาจ”

  • การตัดสินใจด้านอัตราของดอกเบี้ย, อัตราการเสนอราคาขั้นต่ำ (และหลังการแถลงข่าว)
  • การประชุม FOMC, คำชี้แจงนโยบายการเงิน (และหลังการแถลงข่าว
  • NFP (เมื่อตลาดรู้สึกว่าจำนวน NFP มีผลกระทบโดยตรงจากการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ย)

เคล็ดลับ #5 : ข่าวใดที่ส่งผลต่อคู่ฟอเร็กซ์

  • ข่าวน้ำมัน : สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อ CAD เนื่องจากเศรษฐกิจของแคนาดา (และความแข็งแกร่งของ CAD) ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันที่แคนาดาผลิต
  • ข่าว “อันตรายต่อเศรษฐกิจโลก” : เมื่อมีสิ่งที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นในโลก เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเงินจะไหลเข้าสู่สกุลเงินที่ปลอดภัย สกุลเงินดังกล่าวคือสกุลเงินเยนญี่ปุ่นหรือ JPY
  • ข่าวการประมูลผลิตภัณฑ์นม : ข่าวนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์หรือ NZD เนื่องจากเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์เป็นการพึ่งพาการส่งออกนมจำนวนมาก
  • ข่าวในอุตสาหกรรมโลหะ : หากมีข่าวสำคัญและน่าประหลาดใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโลหะ (เช่น เหล็ก ทองแดง) จากนั้นสามารถคาดหวังว่าจะมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดอลลาร์แคนนาดา หรือ CAD และ สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียหรือ AUD เนื่องจากเศรษฐกิจของแคนาดาและออสเตรเลียขึ้นอยู่กับการส่งออกของโลหะเหล่านั้น
  • ข่าวเกี่ยวกับคู่ค้าทางเศรษฐกิจ : ตัวอย่างที่ดีคือข่าวร้ายที่กระทบต่อเศรษฐกิจจีน เมื่อมีข่าวดังกล่าว คุณสามารถคาดหวังวว่า AUD จะมีการตอบสนอง เหตุผลก็คือจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ออสเตรเลียส่งออกไปยังจีน

เคล็ดลับ #6 : อย่าซื้อขายในช่วงที่มีข่าวสำคัญ

แม้ว่าคุณจะมีกลยุทธ์ตามข่าวที่ใช้งานได้ดี อัตราชนะของคุณจะลดลงอย่างมาก จากสเปรดที่กว้าง การขาดสภาพคล่องในตลาด และ การคลาดเคลื่อน

เคล็ดลับ #7 : วิธีออกจาการเทรดก่อนมีข่าวสำคัญ

ผมมักจะออกจากการซื้อขายของผมประมาณ 2-5 นาทีก่อนการปล่ายข่าว

เคล็ดลับ #8 : เมื่อใดที่ควรเริ่มเข้าเทรดอีกครั้งหลังจากข่าวถูกเผยแพร่

กฏทั่วไปที่ต้องปฏิบัติตามคือ : เริ่มซื้อขายอีกครั้งเมื่อความผันผวนสงบลงหลังจากข่าวเผยแพร่ อย่างไรก็ตาม บางครั้งสิ่งนี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้

เคล็ดลับ #9 : เข้าสู่การเทรดอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์เศรษฐกิจผ่านไป

ถ้าผมออกจากการเทรดก่อนมีข่าวและข่าวไม่ได้ทำให้เกิดการพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญพอที่จะไปถึงระดับที่ต้องตัดการขาดทุน (SL) หรือเป้าหมายกำไร (PT) ผมจะพยายามเข้าสู่ Position ใหม่ถ้าหากว่าผมมี

โอกาสเข้าสู่ราคาเดิมหรือราคาที่ดีกว่าครั้งก่อน ผมมักจะกลับเข้ามาใหม่ก็ต่อเมื่อความผันผวนสงบลงและราคายังไม่เข้าใกล้เป้าหมายกำไร (สมมติว่าประมาณ 75% ขึ้นไป) ที่ผมกลับเข้ามาเพราะยังคงเชื่อว่ามันจะทำผลกำไรได้ ผมจะกำหนดสิ่งนี้ได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น หากผมมีระดับที่ต้องการจะข้ามผ่าน ผมต้องการเห็นการปฏิเสธแรงซื้อขายที่ชัดเจนและรวดเร็วของราคาที่ต่ำกว่า (กราฟ 1 นาที) หากผมจะเข้าสู่ Position อีกครั้ง ผมจะต้องเห็นแรงซื้อขายเล็กน้อยจากราคาต่ำสุดที่อ่อนแอและราคาค่อย ๆ หมุนเวียนที่จุดตอบสนองนั้น โดยปกติแล้วผมจะลังเลเล็กน้อยที่จะกลับเข้าไปใหม่หรือผมอาจจะไม่กลับเข้าไปอีกเลย 

เคล็ดลับ #10 : ปรับการซื้อขายของคุณให้เข้ากับปฏิกิริยาหลังข่าว

หากปฏิกิริยาต่อข่าว (ประเด็นสำคัญ) นั้นแข็งแกร่ง และราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงต่อระดับการซื้อขายของคุณ จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ยืนขวางทางและทำการเทรดแบบกลับตัว โดยเฉพาะถ้าข่าวออกมารุนแรงจริงๆ (NFP,CPI, GDP) และผลลัพธ์ของข่าวก็น่าประหลาดใจ

คุณเพียงแค่ต้องรอให้ราคาเคลื่อนผ่านระดับแนวรับ/แนวด้านที่คุณต้องการซื้อขาย และเมื่อมันกลับมา “ทดสอบ” ระดับจากอีกฝังหนึ่งจากนั้นให้คุณเข้าสู่ Position ของคุณแต่ในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งเป็นทิศทางของแนวโน้มใหม่หลังจากเกิดข่าวเศรษฐกิจ วิธีนี้โดยทั่วไปแล้วคุณจะใช้ระดับการเทรดของคุณเพื่อมีส่วนร่วมในลักษณะแนวโน้มที่เกิดขึ้น คุณเพียงแค่ต้องปรับแนวคิดและพร้อมที่จะทำการเทรดในระดับของคุณจากอีกฝั่งหนึ่ง การพัฒนาและการกลับลงมาทดสอบแนวระดับบางครั้งค่อนข้างเร็ว ดังนั้นคุณต้องจัดการอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน