สั่งซื้อหนังสือ “คนที่ประสบความสำเร็จที่สุด เขาไหว้เจ้ากันที่ไหน” (คลิ๊ก)
สรุปหนังสือ คนที่ประสบความสำเร็จ เขาไหว้เจ้ากันที่ไหน
ท่านเคยไปขอพรที่วัดหรือศาลเจ้ากันไหม ในการขอพรคนเราขอพรไปทำไมกัน หลายคนมาขอพรเพราะมีเป้าหมายบางอย่างที่อยากทำให้สำเร็จ อยากให้ธุรกิจมียอดขายเยอะ ๆ จะได้มีกำไร อยากมีสุขภาพแข็งแรง จะได้มีชีวิตยืนยาว อยากร่ำรวยจะได้อยู่อย่างสุขสบาย ในเมื่อบางครั้งชีวิตจริงก็มีอุปสรรคเข้ามาจนทำให้เป้าหมายไม่สามารถเป็นจริงได้ง่าย ๆ แม้ว่าจะลงมือทำจนสุดความสามารถแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายเลย หากจะมีตัวช่วยกันสักหน่อย ถ้าตัวช่วยนี้ทำให้ไปถึงเป้าหมาย และความเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ ในที่สุดนั่นก็คือเหตุผลที่คนมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หลายปีก่อนตอนที่ผู้เขียนทำรายการสารคดีทางโทรทัศน์ ได้รับรู้เรื่องราวลี้ลับหลายเรื่อง ที่บางครั้งก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ อะไรบางอย่างที่ดูจะพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ ที่ผ่านมาหลายคนชอบถามว่า เห็นทำรายการเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับอยู่ดี ๆ ทำไมถึงหันมาทำรายการพาเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้เขียนมีเป้าหมาย ที่จะดึงคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาใกล้ชิดวัดมากขึ้น พยายามทำให้มันสนุก และไม่ให้วัดเป็นสถานที่ที่ไกลตัวผู้คนจนเกินไป ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ทำรายการนี้ ผู้เขียนได้เดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดได้สนทนากับผู้ดูแลสถานที่เหล่านั้น ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนฝูงในวงการ ที่มีความสนใจเหมือน ๆ กันก็พบว่า บรรดาคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในประเทศไทย พวกเขาไปไหว้เจ้าและขอพรในสถานที่ที่คล้ายคลึงกัน
แล้วพวกเขาไปไหว้เจ้ากันที่ไหน ไปขอพรกันอย่างไร หนังสือเล่มนี้จะพาไปพบกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เหล่าคนที่ประสบความสำเร็จนิยมไปกัน พร้อมทั้งแนะนำขอพรที่ไม่ควรพลาด และเคล็ดลับที่จะช่วยให้การขอพรสัมฤทธิผลได้ง่ายขึ้น ถ้ามีเป้าหมายที่อยากจะทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ การงาน โชคลาภ สุขภาพ หรือแม้แต่แค่อยากมีชีวิตที่ราบรื่นไร้อุปสรรค หนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวช่วยให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขดังที่ตั้งใจไว้
Part 1
ความลับของคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น
ศาลเจ้าเซียนแปะโรงสี
ปรับฮวงจุ้ยให้ธุรกิจปังด้วยยันต์ 1 ผืน
เซียนชอบคนที่ขยันทำมาหากินเป็นพิเศษ สถานที่นี้ขับรถออกจากกรุงเทพฯ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สถานที่นี้คือศาลา นที ทองศิริ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดมะขาม จังหวัดปทุมธานี แม้ชื่อศาลาแห่งนี้จะเป็นชื่อไทย แต่เจ้าของศาลาเป็นคนจีน ที่อพยพมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนจะลงหลักปักฐาน และประกอบกิจการอยู่ที่นี่ นที ทองศิริ เป็นชื่อไทย แต่ใคร ๆ มักเรียกท่านว่าเซียนแปะโรงสี ว่ากันว่าท่านมีญาณพิเศษ และใช้ความสามารถนี้เพื่อชี้แนะคนจน มีคนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยจำนวนมากจากคำชี้แนะของท่าน พอเสียชีวิตไปจึงได้รับการยกย่องให้เป็นเซียน สิ่งที่ทำให้เซียนแปะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย โดยเฉพาะบรรดานักธุรกิจของไทยก็คือ ความสามารถในการดูฮวงจุ้ย พูดได้ว่าสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เบื้องหลังความสำเร็จของเจ้าสัวหลายคนก็มาจากเซียนแปะนี่เอง
การขอพรกับเซียนแปะ ให้ขอเรื่องธุรกิจและการค้าขาย ท่านชื่นชอบคนที่ตั้งใจทำมาหากิน ยิ่งเป็นคนที่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ซื่อสัตย์ อดทน ท่านจะช่วยก่อน วิธีการไหว้เซียนแปะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ
- ไหว้ขอพร เคล็ดลับสำคัญคือให้ขอตรง ๆ และห้ามบนเด็ดขาด เพราะเซียนแปะเป็นคนตรงและซื่อสัตย์ การบนเท่ากับเป็นการติดสินบนรูปแบบหนึ่ง
- ไหว้ขอบคุณ เมื่อสมหวังในสิ่งที่ขอ นำอะไรมาถวายก็ได้ ยกเว้นเนื้อวัว ที่จริงมาตัวเปล่าแล้วซื้อของไหว้จากข้างศาลาได้เลย
หลังจากไหว้เซียนแปะแล้วจะได้รับยันต์ผืนหนึ่งชื่อว่า ยันต์ฟ้าประทานพร คนที่ประกอบกิจการหรือทำอาชีพค้าขาย ต่างยกให้ยันต์นี้เป็นสุดยอดของวิเศษที่ต้องมีติดไว้ มันมีพลังในการปรับฮวงจุ้ยให้ค้าขายดี ธุรกิจรุ่งเรือง ทั้งยังช่วยป้องกันภัยต่าง ๆ บนยันต์จะมีตัวอักษรจีน 4 ตัวอ่านว่า เทียน กัว สื่อ ฮก แปลว่าเหล่าทวยเทพบนสวรรค์ชั้นฟ้า ประทานพรให้มีโชคลาภและความสุข ส่วนสัญลักษณ์ที่ดูคล้ายวงกลมก้นหอย 5 อันหมายถึง ธาตุทั้ง 5 ที่สร้างความสมดุลตามหลักฮวงจุ้ย ผ้ายันต์นี้เมื่อได้ไปแล้ว ให้นำไปใส่กรอบแล้วตั้งบูชาไว้ที่หน้าประตูทางเข้า คนที่เป็นพนักงานขายให้พกติดตัวไว้ ฟ้าจะประทานพรให้ทุกที่ ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานที่ไหนก็ตาม
วัดกระทุ่มเสือปลา
ไหว้พระหัวเสือ เคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจรุ่งเรือง
พระภิกษุที่กลายเป็นเทวดา คอยปกปักรักษาวัด วัดกระทุ่มเสือปลาในเขตประเวศ มีศาลเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเจรจาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ศารที่ว่านี้ก็คือศาลเจ้าพ่อเสือ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ประจักษ์ นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ถึงกับต้องมาขอกับเจ้าพ่อเสือ เรื่องประเมินงานในไทยที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด เขาชนะการประมูล และมาสร้างรูปหล่อเจ้าพ่อเสือ ซึ่งทำมาจากหินองค์ใหญ่ไว้ที่นี่
ตามประวัติเล่าว่า ชาวจีนเป็นผู้สร้างศาล แต่เจ้าพ่อเสือเป็นใครมาจากไหนนั้น เรื่องนี้เล่าต่อกันมาว่าช่วงที่หลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งเป็นเกจิดังจากนครพนม มาทำพิธีในงานฝังลูกนิมิตของวัด ได้ถอดจิตไปคุยกับเจ้าพ่อเสือในนิมิต และได้รู้ว่าเป็นพระภิกษุที่อพยพมากับชาวเขมร ที่เป็นเชลยศึกในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งสร้างวัดนี้ขึ้นมา ท่านกลายมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ตอนยังมีชีวิตอยู่ท่านมีวิชาเสือสมิงไสยศาสตร์โบราณ แต่ไม่ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับใคร หลังจากที่มรณภาพไป ดวงจิตยังยึดมั่นกับวัด ท่านจึงกลายเป็นเจ้าที่ หรือเทวดาคอยปกปักรักษาที่นี่
นอกจากนี้ คนที่ชอบเสี่ยงเซียมซีต้องห้ามพลาด เพราะเซียมซีของท่านแม่นมาก ก่อนจะเขย่าเซียมซีให้คุยกับเจ้าพ่อเสือในใจก่อนว่า ปรารถนาสิ่งใด อยากรู้อะไร แล้วไปทำนายจะออกมาแม่นยำ สำหรับของไหว้ให้ถวายข้าวเหนียวมูน (การเจรจาจะได้หวาน เหนียวแน่น เป็นที่รักใคร่เมตตา) ผลไม้ 5 อย่างที่เป็นของมงคลได้แก่ กล้วยหอม (เหมือนมือกวักเงินกวักทอง) สับปะรด (ยอดที่พุ่งขึ้นหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง) แก้วมังกร (ทรัพย์) แอปเปิ้ล (ความราบรื่น) และส้ม (ความโชคดี) คนส่วนมากมักมาไหว้ขอพรในเรื่องทั่วไป เช่น เรื่องงาน เงินทอง และสุขภาพ
ข้าง ๆ วิหารหลวงพ่อโสธรเป็นวิหารเทพประทานพร สถานที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมเทพเจ้าจีนที่จะช่วยให้เฮงไปทั้งปี ภายในวิหารนี้มีเทพเจ้าอยู่หลายองค์ ถือว่าเป็นพิกัดเฮงซึ่งถ้าอยากมาไหว้เทพเจ้าจีน ที่วัดกระทุ่มเสือปลาแห่งนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว
วัดปากน้ำภาษีเจริญ
แค่กระซิบข้างหูคำขอก็จะเป็นจริง
จงเป็นผู้ให้ ไม่ว่าทำอะไรก็สำเร็จแน่นอน วัดปากน้ำภาษีเจริญเป็นวัดใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี มีสัญลักษณ์เป็นพระองค์ใหญ่สีทองขนาดเท่าตึก 20 ชั้นที่มองเห็นได้แต่ไกล ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในคนไทยเท่านั้น แต่ยังติดอันดับต้น ๆ ของวัดไทย ที่ชาวต่างชาติบอกว่าต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง สำหรับคนไทยเองเมื่อเอ่ยถึงวัดปากน้ำมักจะนึกถึงหลวงพ่อสด อดีตเจ้าอาวาสที่มีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ ความเป็นผู้ให้ทำให้ผู้คนรักและศรัทธาท่านอย่างมาก สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ในใจมีเรื่องทุกข์ร้อน ท่านจะให้เขียนชื่อ-นามสกุลหรือวันเดือนปีเกิดใส่บาตรไว้แล้วช่วยเหลือ ทุก ๆ วันจะมีคนมาไหว้และขอพรที่รูปหล่อหลวงพ่อสดเยอะมาก มีเคล็ดลับอยู่ว่าต้องกระซิบที่ข้างหูหลวงพ่อ เรื่องที่ขอและเห็นผลมานับไม่ถ้วนคือเรื่องธุรกิจ
ข้าง ๆ รูปหล่อหลวงพ่อสดมีสัตว์มงคลเป็นช้างทองคำอยู่ตัวหนึ่ง ช้างเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรงและพละกำลัง การขอพรกับช้างทองคำจึงให้ขอในเรื่องสุขภาพเป็นหลัก
เจดีย์แก้วศักดิ์สิทธิ์ แค่ได้เห็นก็รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์ เป็นเจดีย์ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล นอกจากจะสวยงามตระการตาจนชาวต่างชาติอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองมากที่สุดแล้ว ภายในเจดีย์ยังบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่หากได้มากราบไหว้ก็จะได้รับพลังงานดี ๆ กลับไป หากอารมณ์ความรู้สึกสงบและมั่นคง การขอพรก็มีโอกาสสำเร็จสูง
ศาลเจ้าพ่อเสือ
ต้องลองมาดูสักครั้งแล้วจะรู้ว่า
ทำไมผู้คนถึงมาขอเรื่องค้าขายที่นี่มากที่สุด
เสาชิงช้าเป็นย่านเก่าแก่ของกรุงเทพมหานคร นอกจากจะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยของกินอร่อย ๆ แล้ว บริเวณนี้ยังมีศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าจีนที่มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยเชื้อสายจีนมาอย่างยาวนาน ความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ที่ไหน ดูได้จากคนที่เดินเข้าศาลแน่นขนัดเต็มประตู และจำนวนลูกศิษย์ลูกหาที่มารวมตัวกัน ในพิธีแห่เทพเจ้าที่จัดขึ้นปีละครั้งอย่างล้นหลาม เทพเจ้าที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องช่วยให้ทำมาค้าขายรุ่งเรือง กำจัดอุปสรรคและเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น เทพสำคัญที่สุดก็คือ ตั่ว เล่า เอี๊ย องค์ประธานที่ถูกอัญเชิญมาจากเมืองจีน ชื่อของท่านแปลว่ามหาเทพ เป็นเทพที่มีบารมีและอิทธิฤทธิ์สูง เป็นรองแค่เง็กเซียนฮ่องเต้เท่านั้น
นอกจากไหว้ขอพรองค์ ตั่ว เล่า เอี๊ย ในศาลเจ้าพ่อเสือแล้ว ใน 1 ปีจะมีวันมงคลอยู่ 1 วันเรียกว่า วันเสือเปิดปาก หรือวันคล้ายวันเกิดเจ้าพ่อเสือ คนจีนมีความเชื่อว่าหากมาไหว้ขอพรเจ้าพ่อเสือในวันนี้ ท่านจะช่วยให้หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง ธุรกิจการค้ามีกำไร และกำจัดสิ่งไม่ดีให้หมดไป คนที่ธุรกิจติดขัด ลองหาโอกาสไปไหว้ขอพรในวันเสือเปิดปากกันดู
ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้ชื่อว่าศาลเจ้าพ่อเสือมาตั้งแต่แรก มีเรื่องเล่าต่อตรงกันว่าชื่อเดิมจะเรียกกันตามชื่อเทพที่เป็นองค์ประธาน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นภาษาจีนที่คนไทยออกเสียงยาก แต่บังเอิญว่าในศาลเจ้าแห่งนี้มีรูปปั้นเสือ ที่ชาวบ้านเคารพบูชาอยู่ด้วย จึงเอาชื่อของรูปปั้นมาตั้งเป็นชื่อ แล้วเรียกว่าศาลเจ้าพ่อเสือ รูปปั้นเสือที่นี่ได้ทำการนำกลั่นเสือมาบรรจุในแท่น แล้วอันเชิญดวงวิญญาณเสือมาปกปักรักษาผู้คนให้อยู่เย็นเป็นสุข ความเชื่อในการบูชาเสือของคนจีนมีมาแต่โบราณแล้ว เชื่อว่าเสือเป็นราชาแห่งผืนป่า มีความน่าเกรงขาม สะท้อนถึงอำนาจ ศักดิ์ศรี และโชคลาภ ฉะนั้น การบูชาเสือจะช่วยกำจัดสิ่งเลวร้าย มอบความสุขสมหวัง และนำความโชคดีมาให้
1 ปีมีแค่ 1 วันวันฤกษ์ดีที่สุดของคนอยากขอลูก คนที่อยากมีลูกแต่ยังไม่มีลูกสักที มาขอลูกที่ศาลเจ้าพ่อเสือแล้วจะสมปรารถนา วันที่ฤกษ์ดีที่สุดคือวันจับโหงวแม้ หรือวันไหว้สิงโต 1 ปีมีแค่ 1 วันเท่านั้น เป็นคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวงครั้งแรกหลังผ่านพ้นตรุษจีน มักจะตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ของไหว้ที่ใช้ในการไหว้ขอลูกมีสิงโตน้ำตาล เจดีย์น้ำตาล และสิงโตถั่ว ซึ่งจะแตกต่างจากการขอพรในเรื่องอื่น ๆ ผู้ดูแลศาลเจ้าที่นี่ว่า หากจะไหว้ขอลูกแนะนำให้ใช้สิงโตถั่ว เพราะถั่วเป็นธัญพืชหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เจริญงอกงาม ส่วนสิงโตน้ำตาลก็ใช้ได้เช่นกัน แต่มักใช้ขอพรเรื่องงาน การค้าขาย อำนาจบารมี และบริวารมากกว่า สรุปคือสิงโตถั่วจะให้ความหมายที่ดีกว่า และเหตุผลมากกว่า ส่วนเจดีย์น้ำตาลเป็นของที่ใช้ในการไหว้ขอบคุณเทวดาฟ้าดินอยู่แล้ว อีกทั้งน้ำตาลยังถือเป็นของมงคลหมายถึง ความหอมหวาน ร่มเย็น และราบรื่น พอนำมาไหว้คู่กันจึงมีแต่ของแท้มีความหมายมงคล
วัดกาหลง
แม้แต่เกลือยังเสกให้เป็นทองได้
วัดกาหลงในจังหวัดสมุทรสาคร ถ้าเอ่ยชื่อหลวงพ่อสุด ไม่มีคนสมุทรสาครคนไหนไม่รู้จัก คนที่นี่รักและนับถือท่านอย่างมาก สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านมีเมตตาและคอยช่วยเหลือชาวบ้านตลอด ท่านจะคอยพูดอยู่เสมอว่า ให้รักษาความดีเหมือนเกลือรักษาความเค็ม นอกจากนี้ วัตถุมงคลและเครื่องรางของท่านก็ยังศักดิ์สิทธิ์มาก ต้องบอกว่าคนแถบนี้มีวัตถุมงคลของหลวงพ่อสุดกันแทบทุกคน ชาวบ้านหลายคนก็มีประสบการณ์รอดตายมาได้ เพราะพกวัตถุมงคลติดตัวไว้ สามารถมาไหว้รูปหล่อหลวงพ่อสุดวัดกาหลงได้ทั้งในวิหารที่เป็นองค์เล็กสำหรับปิดทอง องค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านนอก และภายในศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอัฐิและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อ
ภายในวัดยังมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จุดหนึ่ง ที่คนในชุมชนจะมาบนบานกันเสมอ นั่นคือศาลพ่อปู่ปากคลองนาขวาง ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังวัดติดกับคลอง หากดูทำเลที่ตั้งของจังหวัดสมุทรสาครจะเห็นว่าอยู่ติดกับอ่าวไทย คนที่นี่ทำอาชีพประมงและทำนาเกลือกันเยอะ จึงต้องพึงพาธรรมชาติค่อนข้างมาก ฉะนั้น คนพื้นที่จึงมีการทำพิธีกรรมเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผลผลิตดี ค้าขายดี รวมถึงเดินทางกลับมาจากการค้าขายโดยสวัสดิภาพด้วย แม้ว่าเกลือจะไม่ได้เป็นของที่มีราคาแพงนัก แต่หากได้แวะมาไหว้พ่อปู่ คนพื้นที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้จะขายเกลือได้เยอะเป็นพิเศษ ประเพณีแห่พ่อปู่ปากคลองนาขวางจะจัดขึ้นแค่ปีละครั้ง ชาวบ้านจะแห่พ่อปู่ไปทั่วชุมชนทั้งทางบกและทางน้ำ ใช้เวลาในการแห่ตั้งแต่เช้าไปจนถึงค่ำ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องมีอาชีพทำนาเกลือเท่านั้นถึงสามารถมาขอพรได้ อาชีพอะไรก็มาขอขอบคุณกันได้ การมาไหว้พระได้รับพลังงานดี ๆ กลับบ้านไปเต็มเปี่ยม ที่เหลือก็อยู่ที่ความตั้งใจ แล้วพรที่ขอไปก็จะสำเร็จได้ไม่ยาก
Part 2
ความลับของคนที่มีชีวิตราบรื่น
ไร้ปัญหาและอุปสรรค
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
หลวงพ่อทองคำ ที่ทำให้ทุกอย่างสมปรารถนา
สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่โจษจัน จนชาวต่างชาติต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูให้เห็นกับตาตัวเองก็คือ หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปที่สร้างจากทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก 5.5 ตัน ซึ่งหายากมาก ๆ จนมีการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การขอพรกับหลวงพ่อทองคำให้ขอปากเปล่า ขอได้หมดทุกเรื่อง ไม่ต้องบน หลัก ๆ ที่คนมาขอจะเป็นเรื่องความสำเร็จ หรือขอให้ชีวิตราบรื่น หลายคนมาขอแล้วสมปรารถนาในทันที คนที่ไม่มีลูกมาขอกับหลวงพ่อทองคำ ผ่านไปไม่ทันไรก็มีลูกสมใจ
ย้อนกลับไปเมื่อ 70 ปีก่อน เรื่องราวของหลวงพ่อทองคำเคยเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ ในข่าวเล่าว่าได้มีการค้นพบว่า พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่ภายนอกเป็นปูน และถูกเก็บไว้ที่เพิงสังกะสีมาเป็นเวลา 20 ปี โดยแทบไม่มีใครสนใจ เมื่อวัดเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปยังวิหารที่สร้างใหม่ แต่เชือกที่สอดใต้องค์พระเกิดรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้องค์พระหล่นกระแทกพื้นคอนกรีต ปูนที่โบกด้านนอกจึงกะเทาะออกทันที แต่แทนที่จะเห็นเป็นเนื้อปูนด้านใน สิ่งที่เห็นกลับกลายเป็นรักสีดำ เมื่อลอกรักออกจึงพบว่าเป็นเนื้อทองคำทั้งองค์ พระพุทธรูปองค์นี้ต่อให้ถูกปกปิดด้วยปูน ที่มองจากภายนอกไม่มีค่าไม่มีราคา แต่สิ่งมีค่าหรือสิ่งดีงามย่อมมีคุณค่า และรอการค้นพบอยู่เสมอ
สะดือวัด ยืนที่จุดนี้ไหว้พระได้ครบทั้ง 4 ทิศ มองเผิน ๆ หน้าตาดูคล้ายฝาท่อ อาจเดินผ่านไปโดยไม่ทันเห็น หรืออาจจะจอดรถทับก็ได้ จุดที่ว่านี้คือสะดือวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพลังอย่างมาก คล้าย ๆ กับสะดือเมือง ปัจจุบันทางวัดได้ตั้งเสากั้นไว้ให้เป็นจุดสังเกตได้ง่ายขึ้น และกันไม่ให้รถมาจอดทับบริเวณนี้ เพื่อให้สามารถไปยืนไหว้ที่จุดนี้ได้สะดวก ยืนที่จุดนี้จุดเดียวแล้วไหว้ขอพรพระได้ทั้ง 4 ทิศ เคล็ดลับคือต้องเอ่ยชื่อ-นามสกุลของตัวเองให้ชัดเจน โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ยืนหันหน้าเข้าหาโบสถ์ ไหว้หลวงพ่อสร้อยพระประธานในโบสถ์ พร้อมเอ่ยคำอธิษฐาน
- หันไปทางขวา ไหว้หลวงพ่อสัมฤทธิ์
- หันไปทางขวาหน้าถนน ไหว้ครูบาอาจารย์ เทพเทวดา พรหม พระแม่ธรณี และพระแม่คงคา
- หันไปทางขวา ไหว้หลวงพ่อทองคำ
คนที่มาวัดไตรมิตรฯ ส่วนมากมักมาไหว้หลวงพ่อทองคำกัน แต่ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่อาจเคยมาไหว้โดยไม่รู้ถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ พระพุทธรูปองค์นี้คือหลวงพ่อสร้อย หรือหลวงพ่อโตเป็นพระประธานในโบสถ์ มีเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เล่าสืบต่อกันมา ถึงสร้อยสังวาลย์ที่เป็นสมบัติของท่าน จากปากของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เรื่องราวของสร้อยสังวาลย์เส้นนี้เริ่มต้นจากเจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้นำสร้อยไปเก็บไว้ในหีบเหล็กแล้วฝากไว้ที่กองคลังให้ช่วยดูแล เพราะทำมาจากอัญมณีที่สวยงามและมีค่ามาก ทางวัดเลยกลัวจะหาย ทีนี้พอฝากไว้นานก็ลืมไปว่าได้ฝากไว้ จนวันหนึ่งพระพุฒาจารย์สนิทได้ไปขอสมบัติชิ้นนี้คืนจากกองคลัง เพราะต้องการนำมาเก็บรักษาไว้ แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อได้หีบเหล็กกลับมา จังหวะที่จะเปิดหีบกลับไม่สามารถเปิดออกได้ง่าย ๆ ถึงขนาดที่เรียกช่างฝีมือมา 3 คนให้ช่วยงัด ใช้เวลาคนละครึ่งชั่วโมงก็ยังเปิดไม่ออกอยู่ดี คนที่มารอชมสมบัติประจำองค์หลวงพ่อสร้อยก็เริ่มกระสับกระส่าย สมเด็จพระพุฒาจารย์สนิทจึงเดินออกมาที่หน้าพระประธาน จุดธุป 3 ดอกพร้อมกล่าวว่า ถ้าความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสร้อยมีอยู่จริง ขอให้เปิดหีบนี้เปิดได้ ปักธูปเสร็จก็เดินมานั่ง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนหีบเหล็กเปิดออกจากกัน คนที่มารอชมเฮกันยกใหญ่ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลวงพ่อสร้อยศักดิ์สิทธิ์มาก ฉะนั้นใครมาวัดไตรมิตรฯ ต้องแวะมากราบท่าน แม้ว่าตอนนี้สร้อยสังวาลเส้นนี้จะไม่ได้ประดับอยู่บนองค์หลวงพ่อสร้อย แต่ท่านยังบันดาลความสำเร็จให้กับคนที่มีศรัทธาตั้งมั่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
เปลี่ยนชีวิตให้สว่างสดใสเหมือนแสงอรุณ
วัดอรุณฯ หรือวัดแจ้ง ความหมายของชื่อคือยามใหม่ หรือรุ่งอรุณแห่งวันใหม่ ใครที่มาวัดนี้ก็จะได้ความสว่างสดใสกลับบ้าน สัญลักษณ์ของวัดอรุณฯคือยักษ์ 2 ตนที่อยู่หน้าซุ้มประตูยอดมงกุฎ ที่รู้จักกันในชื่อยักษ์วัดแจ้ง สร้างขึ้นมาเพื่อให้คอยคุ้มครองทางเดินเข้าสู่โบสถ์ ถ้าเดินก้าวข้ามประตูนี้แล้วอธิษฐานจะพลิกชีวิตจากร้ายกลายเป็นดี ดวงชะตาดีขึ้น ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง จนคนถึงกับขนานนามให้ว่าเป็นประตูพลิกชีวิตกันเลยทีเดียว
ชีวิตช่วงนี้ไม่ค่อยราบรื่น ทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ใครที่กำลังรู้สึกแบบนี้ให้มาลอดพระแท่นพระเจ้าตากสิน ตั้งอยู่ภายในโบสถ์น้อย ลักษณะเป็นแท่นไม้สักทองขนาดใหญ่ แต่ต้องไหว้พระไหว้เจ้าในโบสถ์น้อยก่อน เริ่มจากพระประธาน พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และไปลอดพระแท่นเป็นลำดับสุดท้าย ว่ากันว่าของใช้ส่วนตัวของกษัตริย์มักมีเทพปกปักรักษาอยู่ จึงช่วยล้างอาถรรพ์และกำจัดสิ่งไม่ดีออกไปได้ วิธีการทำให้ตั้งจิตแล้วขอเรื่องที่ต้องการ จากนั้นคลานลอดใต้พระแท่นไปออกอีกด้านหนึ่ง ใช้เวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น จะว่าไปเดี๋ยวนี้คนอายุน้อยเข้าวัดทำบุญกันมากขึ้น คงจะจริงอย่างที่เขาพูดกันว่า มันเป็นสถานที่ที่คนหนีร้อนมาพึ่งเย็นเสมอ
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
รีเซ็ตชีวิตใหม่เพื่อชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครอยู่ชื่อว่า หลวงพ่อกลักฝิ่น ที่ชื่อนี้ก็เพราะหล่อขึ้นมาจากกลักฝิ่นทองเหลือง หลวงพ่อกลักฝิ่นขึ้นชื่อเรื่องการขอขมากรรม คนที่ประสบปัญหาในชีวิตอย่างหนัก หรือคนที่ทำเรื่องไม่ดีมาแล้วอยากกลับตัวกลับใจ การมาขอขมากรรมจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา พบทางออก และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นได้ วิธีการขอขมากรรมก็ไม่ยาก ทางวัดมีขั้นตอนและบทสวดขอขมากรรมเป็นแผ่นกระดาษเตรียมไว้ให้ ทำตามได้ง่าย ๆ คนไทยเชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวร เพราะการกระทำ ความคิด ความรู้สึกในอดีตส่งผลต่อความเป็นไปของชีวิตในปัจจุบันทั้งสิ้น บางครั้งที่ชีวิตติดขัด ทำอะไรก็ไม่ราบรื่นหรือไม่ก้าวหน้า ก็เพราะตัวเองยังผูกติดอยู่กับเจ้ากรรมนายเวร
ส่วนที่มาที่ไปของหลวงพ่อกลักฝิ่นต้องย้อนกลับไปในปี 1839 สมัยนั้นมีการค้าฝิ่นกันมาก ทางการจึงต้องปราบปรามอย่างจริงจัง ฝิ่นที่ยึดมาได้ถูกทำลายทิ้งไป ส่วนกลักฝิ่นหรือกล้องยาสูบก็ถูกนำมาหล่อเป็นหลวงพ่อกลักฝิ่น อันที่จริงมันแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง การนำกลักฝิ่นมาหล่อเป็นพระพุทธรูปเปรียบเหมือนการหล่อหลอมสิ่งไม่ดีให้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คล้ายกับคนที่เคยหลงผิด แต่คิดกลับตัวกลับใจจากสิ่งที่ต่ำที่สุด กลายเป็นสิ่งมงคลให้ผู้คนได้กราบไหว้ นอกจากนี้ท่านยังเป็นสัญลักษณ์เตือนใจให้คนละเว้นจากอบายมุขด้วย
ด้านหลังโบสถ์ของวัด จะพบกับท้าวเวสสุวรรณองค์เล็ก ท่านเป็นเทพที่ดูแลพระพุทธศาสนา ช่วยปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้นจากอันตราย และขับไล่สิ่งไม่ดีต่าง ๆ อันที่จริงท้าวเวสสุวรรณเป็นที่เคารพนับถือในหลายศาสนา และในหลาย ๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย ไทย จีน หรือญี่ปุ่น โดยมีชื่อที่แตกต่างกันไป แต่ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ท่านเป็นผู้เฝ้ากุญแจพระคลังสวรรค์ คนจึงมักจะมาขอในเรื่องโชคลาภด้วย
วัดระฆังโฆสิตารามวรวิหาร
มีชื่อเสียงก้องกังวาลเหมือนดั่งระฆัง
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในอดีตที่นี่เคยมีการพบระฆังที่มีเสียงดังไพเราะและก้องกังวาลที่สุด ถึงขนาดที่รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชต้องขอไปไว้ที่วัดพระแก้ว 1 ใบ แล้วสร้างระฆังใบใหม่ 5 ใบคืนให้วัด ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร การตีระฆังจะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง คนที่จะมาตีระฆังขอพร ระฆัง 5 ใบตีไม่ได้ ให้เดินมาตรงพระปรางค์องค์ใหญ่สีขาว ตรงนี้มีระฆังเรียงรายอยู่เต็มไปหมด อยากตีใบไหนเลือกได้เลย มีเคล็ดลับอยู่นิดหน่อยนั่นคือ ต้องขอให้ชัดเจน เริ่มจากบอกชื่อ-นามสกุล จากนั้นพูดถึงสิ่งที่อยากให้ประสบความสำเร็จ แล้วค่อยตีระฆัง
ไม่ไกลจากจุดตีระฆังจะมีป้ายบอกทางไปยังมุมลับคือ บ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์สมเด็จโตหรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรํสี บ่อน้ำมนต์สมเด็จโตมีอายุกว่า 200 ปี สมัยที่เป็นเจ้าอาวาสท่านเคยใช้น้ำจากบ่อนี้ มองลงไปภายในบ่อจะเห็นคาถาชินบัญชรทั้ง 4 ด้าน และก้นบ่อฝังแผ่นยันต์ของสมเด็จโตไว้ อาจจะดูเหลือเชื่อแต่บ่อน้ำมนต์นี้ไม่เคยเหือดแห้งเลยสักวัน แม้เวลาจะผ่านมานับร้อยปี
แขวนพระสมเด็จวัดระฆังจะสำเร็จสมประสงค์ พระเบญจภาคีทั้ง 5 องค์ถือเป็นสุดยอดพระเครื่อง สร้างขึ้นคนละยุคสมัยกัน โดยสมเด็จวัดระฆังเป็นตัวแทนพระเครื่องในยุครัตนโกสินทร์ มีทั้งหมด 5 พิมพ์ได้แก่ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์เจดีย์ พิมพ์ฐานแซม และพิมพ์ปรกโพธิ์ ถือเป็นพระเครื่องที่มีอายุน้อยที่สุดในพระเบญจภาคี เชื่อกันว่าหากแขวนพระสมเด็จวัดระฆัง จะได้เรื่องเมตตามหานิยม เสริมบารมี ร่ำรวยเงินทอง เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง จนคนถึงกับเล่าลือกันว่าแขวนพระสมเด็จสำเร็จทุกสิ่งประสงค์
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
สถานที่ที่ต้องมาถ้าอยากขอเรื่องที่ยากจนแทบเป็นไปไม่ได้
ภายในวิหารหลวงของวัดมหาธาตุฯ เป็นที่ตั้งของหลวงพ่อหิน พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยา ในอดีตเคยมีคนมาตั้งจิตอธิษฐานอย่างแรงกล้า ขอพลังจากหลวงพ่อให้ช่วยกอบกู้ชาติบ้านเมืองจากศัตรู สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จจริง ๆ คนคนนั้นก็คือน้องชายของรัชกาลที่ 1 หรือสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหราช หลังจากที่ท่านกอบกู้ชาติบ้านเมืองได้สำเร็จ ท่านก็กลับมาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดจนรุ่งเรือง นับแต่นั้นหลวงพ่อหินจึงขึ้นชื่อว่า เป็นพระพุทธรูปที่สามารถทำให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นจริง และช่วยให้เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ การตั้งจิตอธิษฐานอย่างแรงกล้าเวลาที่ปรารถนาอะไรสักอย่าง จะทำให้คำขอเป็นจริงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เส้นทางสู่ความสำเร็จของคนเราไม่ได้อาศัยแค่แรงกายหรือสติปัญญาเท่านั้น แต่ใจของเราก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งเป้าหมายยิ่งใหญ่และยากลำบากมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องจิตใจมั่นคงแน่วแน่ แล้วความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
โชคดีที่ได้เจอสมเด็จเฮง สมเด็จพระวันรัตน์ (เฮง เขมจารี) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าสมเด็จเฮงเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ ท่านเคยดำรงตำแหน่งใหญ่มาหลายตำแหน่ง นอกจากจะมีความสามารถรอบด้านแล้ว ท่านยังทำงานเพื่อศาสนาอีกหลายอย่าง จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระดีที่ควรกราบไหว้ การมากราบไหว้สมเด็จเฮง จะทำให้โชคดี ชีวิตดีขึ้น และเฮง ๆ สมกับชื่อของท่าน ราวกลับว่าบารมีของท่านได้แผ่ขยายมาถึงคนที่มากราบไหว้
โบสถ์วัดมหาธาตุได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สามารถจุพระสงฆ์ได้มากถึง 1,000 รูป นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระประธานอย่างพระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ สามารถขอให้ท่านกำจัดอุปสรรคขวากหนาม เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จได้ สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากขอพรคือ ต้องลงมือทำอย่างตั้งใจ ต้องเป็นคนจริง มีความมุ่งมั่น มีสัจจะด้วย ถ้ามีบุญมากมันก็สำเร็จง่ายขึ้น
วัดเล่งเน่ยยี่
ดวงชะตาชีวิตเปลี่ยนแปลงไปทุกปี
มาฝากดวงให้เทพคุ้มครองกันเถอะ
หนึ่งในวัดที่คนคึกคักมากที่สุดก็คือวัดลิงเน่ยยี่ การเดินทางมาที่วัดนี้ให้มาด้วยรถไฟใต้ดินจะสะดวกสุด ลงที่สถานีวัดมังกรแล้วเดินไปไม่ไกลก็ถึง ในอุโบสถมีพระประธานสีทองอร่าม 3 องค์ตั้งตระหง่าน ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อย ๆ ดูใจดี คนจีนเรียกว่า ซำป้อฮุกโจ้ว หรือพระพุทธเจ้า 3 องค์ตามความเชื่อของจีน องค์ซ้ายในมือถือดอกบัว ขอเรื่องความสุขและความเจริญรุ่งเรือง องค์กลางในมือถือลูกแก้ว ขอเรื่องความสำเร็จสมปรารถนา องค์ขวาในมือถือรัตนเจดีย์ ขอเรื่องสุขภาพ
วัดเล่งเน่ยยี่ขึ้นชื่อเรื่องการไหว้แค่ชง ปัดเป่าดวงชะตาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งไม่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ชีวิตดีไปตลอดทั้งปี ทุก ๆ ปีจึงมีคนมาวัดนี้กันอย่างคับคั่ง ขั้นตอนการไหว้แก้ชงของที่นี่มี 4 ขั้นตอนด้วยกันคือ
- เริ่มจากเขียนชื่อ-นามสกุล อายุ และวันเดือนปีเกิดลงในกระดาษแดง หรือใบฝากดวง
- นำชุดไหว้ไปไหว้ไท้ส่วยเอี้ย เทพผู้คุ้มครองดวงชะตา เพื่อขอให้ท่านช่วยคุ้มครอง
- นำชุดไหว้ปัดตัว 12 ครั้ง (เหมือนกับการปัดรังควาน ขับไล่ภูตผี และสิ่งไม่ดีออกไปจากชีวิต)
- นำชุดไหว้ไปฝากไว้หน้าองค์ไท้ส่วยเอี๊ย
การไหว้แค่ชงพึ่งจะมีเมื่อ 30 กว่าปีมานี้เอง แต่การฝากดวงชะตากับเทพเจ้ามีมานานกว่า 100 ปีแล้ว โดยจะให้ซินแสคำนวณวันเดือนปีเกิด เพื่อดูว่าปีนั้นจะโชคดีหรือโชคร้าย จากนั้นซินแสจะมอบใบฝากดวงชะตา ให้นำไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดหรือศาลเจ้าต่าง ๆ เคล็ดลับการฝากดวงชะตากับองค์ไท้ส่วยเอี๊ยคือ ในช่วงวันที่ 1 ธันวาคมจนถึงก่อนวันตรุษจีน เป็นช่วงที่ควรมาฝากดวงชะตาให้องค์ไท้ส่วยเอี๊ยคุ้มครอง
หากหันหน้าเข้าหาพระประธานจะมีเทพเจ้าคู่หนึ่งตั้งอยู่ตรงมุมขวา คนที่จะสอบข้าราชการ สอบเข้ามหาวิทยาลัย สอบเลื่อนตำแหน่งต้องมาไหว้เทพเจ้าคู่นี้ จี๋มุ่ยแชกุน เป็นเทพดาวเหนือที่จะช่วยเสริมดวงให้การสอบประสบความสำเร็จ ส่วน บุ้นเชียงตี้กุง เป็นเทพแห่งการศึกษา ในมือถือคทาแห่งความสำเร็จ ของไหว้เทพเจ้า 2 องค์นี้จะเป็นผลไม้ 3 หรือ 5 อย่าง สายไหม เครื่องเขียน หนังสือ หรือ iPad ไหว้เสร็จก็นำของทั้งหมดนี้กลับไปใช้สอบได้ การศึกษาคือโอกาสและอนาคตของคนคนหนึ่ง ที่จะกำหนดชีวิตไปอีกนาน ในภาษาจีนมีคำกล่าวว่า ซาฮุงเหมี่ย ชิกฮุงเบี่ย หมายถึง ความสำเร็จของคนขึ้นอยู่กับดวง 3 ส่วน ความพยายาม 7 ส่วน นอกจากความตั้งใจ และความพยายามในการเตรียมตัวสอบของตัวเองแล้ว การพึ่งพาดวงหรือโชคชะตาก็สำคัญเช่นกัน แถมมันยังช่วยให้มั่นใจ และมีกำลังใจในการสอบมากขึ้น
วัดบางพลีใหญ่ใน
เปิดอภินิหารหลวงพ่อโต
เนรมิตชีวิตใหม่ได้ดั่งที่ใจต้องการ
วัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ วัดแห่งนี้มีผู้คนมาไหว้พระขอพรกันอย่างคึกคักเสมอ บรรยากาศไม่เคยเหงา แม้จะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม พระพุทธรูปที่เป็นที่เคารพบูชาของคนบางพลีมาอย่างยาวนาน และเลื่องลือในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ก็คือหลวงพ่อโต พระประธานองค์ใหญ่ในโบสถ์ คนบางพลีเชื่อว่าหลวงพ่อโตคือร่มโพธิ์ร่มไทร ที่คอยปกป้องพวกเขาให้รอดพ้นจากภัยทางธรรมชาติ อุบัติเหตุไฟไหม้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ เวลาที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจก็จะมาขอพร หรือขอบนบานศาลกล่าวให้ช่วย จะบอกว่าท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนบางพลีก็ว่าได้ การขอพรกับหลวงพ่อโตให้ขอเรื่องการปลดหนี้สินและเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ หลวงพ่อโตชอบคนที่คิดดี ทำดี และขยันทำมาหากิน ท่านจะคอยช่วยเหลือให้ไม่ต้องลำบากหรืออดอยาก
ก่อนที่หลวงพ่อโตจะมาอยู่ที่โบสถ์หลังนี้ หากไม่ได้เป็นเพราะอภินิหารคงไม่มีใครสามารถอันเชิญท่านขึ้นจากน้ำหรือเข้าโบสถ์ได้แน่ ๆ แม้จะอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ทำให้ชาวบ้านศรัทธาท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย ท่านเป็นหนึ่งในตำนานพระพุทธรูป 3 พี่น้อง ที่ลอยน้ำมาสมัยที่มีสงคราม ชาวบ้านได้อาราธนาท่านขึ้นแพล่องลงสู่แม่น้ำเพื่อหลบหนีข้าศึก พอลอยตามน้ำไปเรื่อย ๆ ก็ได้อาราธนาขึ้นประดิษฐานตามวัดต่าง ๆ องค์แรกคือหลวงพ่อบ้านแหลม (วัดเพชรสมุทรวรวิหาร) องค์ที่ 2 คือหลวงพ่อโสธร (วัดโสธรวรารามวรวิหาร) และองค์สุดท้ายคือหลวงพ่อโต แต่การนำหลวงพ่อโตขึ้นจากน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมื่อมาถึงคลองสำโรง ชาวบ้านพยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถนำขั้นขึ้นมาได้สำเร็จ สุดท้ายเลยต้องผูกแพชะลอเสี่ยงทายไว้ แล้วอธิษฐานว่าหากท่านอยากขึ้นที่ใด ให้แสดงอภินิหารให้แพหยุด ณ ที่นั้น จนท่านมาหยุดที่หน้าวัดนี้ ในที่สุดหลวงพ่อโตจึงได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปองค์น้อง เพราะขึ้นจากน้ำเป็นองค์สุดท้าย และด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมาด้วยกัน จึงได้ชื่อว่าหลวงพ่อโต ภายหลังตอนที่สร้างโบสถ์และจะต้องนำท่านเข้าโบสถ์ องค์หลวงพ่อเกิดใหญ่กว่าช่องประตู ทั้ง ๆ ที่มีการวัดขนาดมาก่อนแล้วว่าเล็กกว่าประตู ชาวบ้านเห็นว่าควรจะทุบประตูแล้วนำหลวงพ่อเข้าไป แต่สุดท้ายก็ใช้วิธีจุดธูปเทียนแล้วอธิษฐาน ขอให้หลวงพ่อเข้าประตูโบสถ์ได้ ปรากฏว่าเข้าได้อย่างง่ายดาย
Part 3
ความลับของคนที่มีโชคลาภหนุนนำ
ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง
เทพแห่งลอตเตอรี่ที่นักเสี่ยงโชคต้องยกนิ้วให้
ไม่ไกลจากเยาวราชมีสถานที่ขอพรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนชั้น 4 ของสถานีตำรวจพลับพลาไชย สถานที่ที่ว่านี้ก็คือศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง แม้จะอยู่ในสถานีตำรวจ แต่คนก็ยังแวะมาไหว้พ่อปู่ยี่กอฮงตลอดทั้งวัน พ่อปู่ยี่กอฮงไม่ใช่เทพเจ้าแต่เป็นคนธรรมดา ที่เคยเป็นเจ้าของโรงหวยมาก่อน คนยกให้ท่านเป็นเทพแห่งลอตเตอรี่คนแรกของประเทศไทย เป็นอันดับ 1 เรื่องการให้โชคลาภด้านตัวเลขและการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงทุกประเภท แม้จะเคยเป็นเจ้าของโรงหวยแต่ท่านก็เป็นคนซื่อสัตย์ และมีหลักคิดที่ว่าต้องรู้จักตอบแทนสังคม ตัวอย่างสิ่งที่ท่านทำเพื่อสังคมที่น่าจะรู้จักกันดีก็คือ มูลนิธิเทียนฟ้าและมูลนิธิปอเต็กตึ้ง
นอกจากเรื่องโชคลาภยังขอเรื่องธุรกิจการค้าและการขายที่ดินได้อีกด้วย สำหรับวิธีการไหว้สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่ออธิษฐานที่ด้านนอกศาลแล้ว พอเข้ามาข้างในให้ตั้งจิตอธิษฐานอีกครั้งหนึ่ง โดยเอามือไปแตะที่มือของพ่อปู่ยี่กอฮง การสัมผัสเป็นการสื่อสารอย่างใกล้ชิดรูปแบบหนึ่ง ใจของคนเราในขณะนั้นจะสงบนิ่งและมีพลังมากขึ้น ที่มุมหนึ่งของศาลมีเซียมซีและไห ซึ่งบรรจุลูกปิงปองที่มีตัวเลขอยู่ หากอยากได้เลขเด็ดจะเขย่าเซียมซีหรือล้วงไหเสี่ยงโชคก็เลือกกันได้ตามสะดวก
คนไทยส่วนมากจะมาขอโชคลาภจากพ่อปู่ยี่กอฮง เพราะประวัติของท่านโดดเด่นในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่นอกจากจะเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชค ชื่อเสียงของท่านยังดังไปถึงหูของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในหมู่คนจีน ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ บางคนลงทุนบินมาไหว้โดยเฉพาะเลย ส่วนใหญ่จะมาขอพรในเรื่องธุรกิจการค้า เจ้าหน้าที่ศาลเล่าให้ฟังว่า ในสิงคโปร์มีศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮงด้วย ชื่อว่าตำหนักพ่อปู่ยี่กอฮงตั้งอยู่ในย่านถนนบาเลสเทียร์ ติดป้ายเป็นภาษาไทยอยู่ข้างหน้าตึก แต่ขั้นตอนการไหว้จะแตกต่างจากที่ไทยเล็กน้อย ไม่ใช่แค่คนสิงคโปร์เท่านั้นที่นิยมไปไหว้ คนไทยเองก็บินไปไหว้ท่านถึงที่โน่นเหมือนกัน แต่ถ้าไม่อยากบินไปถึงต่างประเทศ แวะมาที่สถานีตำรวจพลับพลาไชยใกล้ ๆ ก่อนก็ได้
วัดตาก้อง
สุดยอดของวิเศษเรียกทรัพย์
วัดตาก้องเป็นวัดในจังหวัดนครปฐม คนรู้จักวัดนี้จากชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่ม เกจิดังในอดีตผู้สร้างกุมารดูดรก วัตถุมงคลที่สามารถทำให้คนที่มีไว้ในครอบครองร่ำรวย ถึงอย่างนั้นกุมารดูดรกของหลวงพ่อแช่มก็หายากมากและมีราคาแสนแพง ถึงจะหามาครอบครองกันไม่ได้ แต่สามารถมาที่วัดตาก้องได้ เพราะมีกุมารดูดรกองค์จำลองขนาดใหญ่อยู่ ลักษณะคล้ายทารกคู้ตัวกำลังดูดสายสะดือ คนที่มาขอได้โชคลาภกลับไปหลายราย กุมารดูดรกไม่ใช่ทั้งกุมารสายเทพและสายผี แต่เป็นพระสีวลีตอนอยู่ในครรภ์มารดา ความเชื่อต่อ ๆ กันมาเกี่ยวกับพระสีวลีคือ ท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีลาภมาก หากใครบูชาก็จะมีโชคลาภ วาสนาดี เงินทองหลั่งไหลเข้ามา
วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
จุดเริ่มต้นของตระกูลมหาเศรษฐีไทย
วัดราชโอรสารามราชวรวิหารเป็นต้นแบบของวัดไทยสไตล์จีน สมัยนั้นรัชกาลที่ 3 เสด็จมาคุมงาน และตรวจการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง วัดนี้อยู่ติดคลองเหมือนกับหลาย ๆ วัด อาจเพราะการคมนาคมสมัยก่อนใช้ทางน้ำเป็นหลัก ภายในวัดมีพระวิหารพระนอนตั้งอยู่ด้านหลังโบสถ์ มองเผิน ๆ ก็คล้ายกับพระนอนทั่วไป แต่ถ้าสังเกตตรงพระเกตุหรือส่วนที่เป็นผมของพระพุทธรูปดี ๆ จะเห็นว่า ยอดพระเกตุแทงทะลุเข้าไปในเสาวิหาร คนมากมายขอเรื่องยอดขายหรือกำไรให้พุ่งกระฉูดทะลุเป้ากัน นอกจากนี้มีเคล็ดลับว่า หากนำหมอนมาถวายจะทำให้มีแต่ความสุขความสบาย มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต
เคล็ดลับความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีตระกูลดัง บริเวณริมคลองเป็นที่ตั้งของวิหารหลวงพ่อสิทธาตุ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยา ตรงนี้ค่อนข้างเป็นบริเวณที่ลับตาคน คนส่วนใหญ่จึงไหว้พระแต่ในโบสถ์ ไม่ได้เดินมาที่จุดนี้กัน ผู้ที่บูรณะวิหารแห่งนี้เป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่ง เดิมทีทำอาชีพค้าขายและเคยอาศัยอยู่แถวสถานีรถไฟใกล้วัดมาก่อน วันหนึ่งค้าขายแล้วร่ำรวยขึ้นมาจึงมาบูรณะวิหารนี้ ถ้าเอ่ยชื่อทุกคนต้องรู้จัก ปัจจุบันเขาทำธุรกิจกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ในหลายจังหวัด คนที่รู้เรื่องนี้มักมาตามรอย แล้วขอเรื่องความมั่งคั่งจะได้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเหมือนกับผู้บูรณะวิหารนี้
วัดโบสถ์
เคล็ดลับการขอพรที่ทำให้สิ่งที่ปรารถนากลายเป็นจริงได้
ที่วัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน ในจังหวัดปทุมธานี มีพระพุทธรูปที่ขึ้นชื่อเรื่องการประทานโชคลาภ ชื่อของท่านคือพระพุทธมหาจักรพรรดิ เป็นพระรามัญทรงเครื่องที่มีสภาพสมบูรณ์ แต่คนจะรู้จักกันในชื่อหลวงพ่อสมปรารถนา ปกติจะไหว้พระแค่ที่ด้านหน้า แต่การไหว้หลวงพ่อสมปรารถนานั้น เมื่อไหว้ที่ด้านหน้าแล้วต้องไหว้ที่ด้านหลังด้วย เหตุผลก็เพราะที่ด้านหลังของหลวงพ่อมียันต์มหาจักรพรรดิ ที่มีพลังครอบจักรวาลอยู่ อธิษฐานอะไรก็จะสำเร็จตามที่ต้องการ วิธีการคือให้ขึ้นไปยืนบนแผ่นกระดานที่ตั้งอยู่ด้านหลังหลวงพ่อ วางมือสองข้างและหน้าผากแนบที่ฐานแล้วอธิษฐาน สิ่งสำคัญคือขอได้เพียง 1 ข้อเท่านั้น ที่นี่ยังมีเคล็ดลับการขอพรแบบไม่เหมือนที่ไหนคือ ต้องชัดเจนใน 3 สิ่งคือ
- ความรู้สึกตอนที่ได้สิ่งนั้นมาเป็นอย่างไร
- ภาพตอนที่ได้สิ่งนั้นมาเป็นอย่างไร
- ช่วงเวลาไหนที่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
นอกจากการไหว้ที่ด้านหลังหลวงพ่อสมปรารถนาแล้ว ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่คนส่วนใหญ่พลาดไปนั่นคือ การดึงเชือกลั่นระฆังที่อยู่ด้านหน้าหลวงพ่อ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการขอพร โดยใช้เสียงระฆังบูชา ระฆังใบนี้ไม่ใช่ระฆังไทย แต่เป็นระฆังเสียงมหาจักรพรรดิที่นำมาจากญี่ปุ่น สิ่งที่ทำให้ระฆังใบนี้มีพลังก็คือผ้ายันต์บารมีมหาจักรพรรดิที่หุ้มอยู่รอบระฆัง ความพิเศษของระฆังใบนี้อยู่ที่เสียงอันไพเราะ โดยปกติระฆังตามวัดที่เห็นนั้นมีเสียง 4 ระดับ เสียงที่ไพเราะที่สุดเรียกว่าเสียงมหาจักรพรรดิ การดึงเชือกลั่นระฆังจะทำให้คำขอยิ่งมีพลัง หลายคนไปขอพรก่อนแล้วค่อยลั่นระฆัง แต่ตามหลักแล้วต้องลั่นระฆังก่อนขอพร
วัดมหาบุศย์
ทางลัดสำหรับคนอยากมีโชค
หนึ่งในตำนานความรักที่ถูกพูดถึงมาทุกยุคทุกสมัยก็คือ เรื่องของแม่นาคพระโขนง ถึงจะเป็นตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา แต่แม่นาคเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง สมัยก่อนคนจะชอบมาขอเรื่องความรักเป็นส่วนใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ศาลย่านาคมีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องขอโชคลาภ ถึงขนาดที่ก่อนวันลอตเตอรี่ออก 1 วัน ซึ่งก็คือวันที่ 15 กับ 30 ของทุกเดือน ศาลต้องเปิดให้คนเข้ามาไหว้ขอพรได้ตลอดทั้งคืน กล่าวคือจะแวะเข้ามาตอนไหนก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับวิธีการไหว้ย่านาคจะขอหรือบนก็ได้ แต่มีข้อห้ามอยู่ 3 ข้อคือ
- ห้ามปิดทองที่ใบหน้า ดวงตา และริมฝีปากของย่านาค
- ห้ามเทน้ำมันจันทร์รดย่านาค
- ห้ามพรมและรดน้ำอบย่านาค
หลังจากที่ไหว้ย่านาคเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากได้เลขไปเสี่ยงโชค ให้ล้วงไหที่ตั้งอยู่ด้านหน้ารูปปั้นย่านาค ภายในจะมีพลาสติกคล้ายรูปไข่ระบุตัวเลขไว้ หากขอกับย่านาคแล้วสมหวัง สิ่งที่ควรนำมาถวายคือชุดไทยที่ย้อมจากสีธรรมชาติ อาหารพื้นบ้านได้แก่น้ำพริกผักต้มและปลาไหลย่าง เน้นใส่ภาชนะที่ทำมาจากใบตอง เพราะทั้งหมดนี้เป็นของที่ท่านชอบและใช้จริง ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
เรื่องรูปปั้นย่านาคที่ตั้งอยู่ภายในศาลองค์เล็ก ๆ ที่ดูเหมือนปั้นด้วยมือ ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้วัดมหาบุศย์ ซึ่งเคยเป็นวัดเล็ก ๆ ริมคลองพระโขนงกลายเป็นวัดที่โด่งดังขึ้นมา ช่างปั้นชื่อว่าลุงพวนสมัยก่อนท่านเคยบวชพระอยู่ที่วัดมหาบุศย์ ขณะที่กำลังนั่งสมาธิในป่าช้าก็เห็นดวงไฟกลม ๆ ลอยไปมา แล้วได้ยินเสียงผู้หญิงบอกให้ช่วยขุดหลุมในป่าช้านั้น แรก ๆ ท่านก็ไม่ได้คิดจะทำตาม แต่เหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดท่านก็ยอม เมื่อขุดลงไปก็พบโครงกระดูกที่แทบไม่เหลือสภาพเป็นชิ้น ลักษณะคล้ายเถ้ากระดูกเสียมากกว่า ท่านเชื่อว่าน่าจะเป็นกระดูกของย่านาค ท่านจึงนำกระดูกกับดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปปั้นไว้ที่วัดมหาบุศย์ ตํานานย่านาคจึงกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
คนไทยมีความเชื่อที่ส่งต่อกันมาเป็นร้อย ๆ ปีว่า ในต้นไม้โดยเฉพาะต้นตะเคียน มักมีเทพยดาหรือนางไม้สิงสถิตอยู่ จึงมักจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้โชคให้ลาภได้อยู่บ่อย ๆ ไม่ไกลจากจุดขายธูปเทียนและของไหว้แก้บน มีต้นตะเคียนสำหรับขอเลขอยู่จุดหนึ่ง สังเกตได้ไม่ยากเลย วิธีการขอเลขของที่นี่เขาจะใช้น้ำมันจากหยดลงบนนิ้ว แล้วค่อย ๆ ถูต้นตะเคียน ใครจะเห็นเลขอะไรก็สุดแต่จินตนาการของแต่ละคน ได้เลขกันแล้วก็อย่าลืมนำไปเสี่ยงโชค
สุดยอดเครื่องรางที่หายสาบสูญ หากใครได้เป็นเจ้าของชีวิตจะเจริญรุ่งเรือง มีสุดยอดเครื่องรางประเภทหนึ่งที่นักสะสมต่างอยากได้มาครอบครอง และถูกเปลี่ยนเจ้าของไปหลายคนจนปัจจุบันไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ใคร ของที่ว่านี้ก็คือปั้นเหน่ง เครื่องรางของขลังที่ทำมาจากกระดูกส่วนหน้าผากของย่านาค เจ้าของคนล่าสุดเป็นทายาทพันล้านของผู้ก่อตั้งแบรนด์สมุนไพรชื่อดัง คุณพ่อของเขาเป็นหมอที่ใคร ๆ ก็รู้จัก จากการเปิดคลินิกช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง เขาได้เล่าถึงเหตุการณ์วันแรกขณะที่นำปั้นเหน่งกลับมาบ้านว่า รู้สึกเหมือนมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถด้วย หลังจากนั้นตัวเขาก็มักจะสัมผัสได้ถึงย่านาคอยู่บ่อย ๆ เขาเล่าว่าคนใกล้ตัวที่ทราบข่าวว่าเขามีปั้นเหน่งย่านาคอยู่ในครอบครอง ทั้งเพื่อนสนิทและพี่น้องในวงการบันเทิงต่างก็มาขอดูเป็นขวัญตา ทั้งมาไหว้ขอโชคลาภ ขอการงาน และขอให้ย่านาคคุ้มครองให้ปลอดภัย บางคนไหว้แล้วก็ถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ได้เงินนับล้านบาท ปัจจุบันปั้นเหน่งนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในตู้เซฟ เขายังคงอุทิศส่วนกุศลให้ย่านาคอยู่เสมอ และขอให้ท่านคุ้มครองพนักงานทุกคน รวมถึงกิจการของเขาให้เจริญรุ่งเรือง และดำเนินไปด้วยความราบรื่น
บทส่งท้าย
สิ่งที่ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เกิดความศักดิ์สิทธิ์คือความศรัทธา ความศรัทธาของมนุษย์เป็นคลื่นพลังอันยิ่งใหญ่ สถานที่บางแห่งนั้นอยู่มานานกว่าร้อยปี มีคนมากมายที่เคารพศรัทธา พลังจึงสั่งสม ณ สถานที่แห่งนั้นในปริมาณมาก ๆ สถานที่เต็มไปด้วยพลังของความศรัทธาจากผู้คน สถานที่นั้นจึงศักดิ์สิทธิ์ ในการดำเนินชีวิต ความศรัทธาเป็นเหมือนแรงผลักดันที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้ มันทำให้เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำอยู่ ขอเพียงตั้งใจความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม การขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนตัวช่วยให้มีความเชื่อมั่น และมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มันเหมือนมีมวลพลังงานที่คอยโอบอุ้มไว้ และคอยปลอบประโลมจิตใจ อาจเป็นเพราะพลังศรัทธาอย่างแรงกล้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงได้ช่วยเหลือ
ตอนนี้ทุกท่านรู้แล้วว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในเรื่องใด จะต้องไปไหว้เจ้าที่ไหน จะต้องขอพรอย่างไร แถมยังรู้เทคนิคและเคล็ดลับต่าง ๆ อีกมากมาย สิ่งที่เหลืออย่างเดียวคือพลังศรัทธา เพราะความเชื่ออย่างแรงกล้า จะช่วยให้ความปรารถนากลายเป็นจริงได้.
สั่งซื้อหนังสือ “คนที่ประสบความสำเร็จที่สุด เขาไหว้เจ้ากันที่ไหน” (คลิ๊ก)