อัตราผลตอบแทนจนครบกำหนดไถ่ถอน (Yield to Maturity – YTM) 

YTM คืออัตราคิดลดที่ทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตของหุ้นกู้เท่ากับราคาตลาดของหุ้นกู้ ณ ปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น หุ้นกู้อายุ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ย 7% ต่อปี มีราคาตลาด 1,020.78 บาท YTM จะเป็นอัตราที่ทำให้มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดทั้งหมดเท่ากับ 1,020.78 บาท

อัตราผลตอบแทนต่อปีสำหรับการจ่ายดอกเบี้ยหลายครั้งต่อปี 

โดยทั่วไปหุ้นกู้มักจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าปีละครั้ง เช่น ทุก 6 เดือน ในกรณีนี้ YTM ที่คำนวณได้จะเป็นอัตราผลตอบแทนต่อครึ่งปี เราจึงต้องปรับให้เป็นอัตราต่อปีโดยคูณด้วย 2 เช่น YTM ของหุ้นกู้ที่จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือนคือ 3.253% ดังนั้นอัตราผลตอบแทนต่อปีคือ 3.253% x 2 = 6.506%

อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงต่อปี (Effective Annual Yield) 

อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงต่อปีคำนวณได้จากสูตร: [(1 + YTM/n)^n] – 1 โดย n คือจำนวนครั้งที่จ่ายดอกเบี้ยต่อปี เช่น หุ้นกู้ที่มี YTM 10% ต่อปี

  • ถ้าจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน: [(1 + 0.10/2)^2] – 1 = 10.25%
  • ถ้าจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน: [(1 + 0.10/4)^4] – 1 = 10.38%

อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield) 

Current Yield คำนวณจากดอกเบี้ยรายปีหารด้วยราคาหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้ที่มี Par value 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 6% ราคาตลาด 802.07 บาท Current Yield = (1,000 x 6%) / 802.07 = 7.48%

อัตราผลตอบแทนแบบง่าย (Simple Yield) 

Simple Yield คำนวณโดยรวมดอกเบี้ยรายปีกับส่วนต่างระหว่างราคาหุ้นกู้กับมูลค่าที่ตราไว้ (ส่วนลดหรือส่วนเกิน) แล้วหารด้วยราคาตลาด เช่น หุ้นกู้อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 8% ราคา 90.165 บาท Simple Yield = (8 + 3.278) / 90.165 = 12.51%

อัตราผลตอบแทนถึงวันที่เรียกคืน (Yield-to-Call) 

สำหรับหุ้นกู้ที่มีสิทธิเรียกคืนก่อนกำหนด (Callable Bond) นักลงทุนต้องคำนวณ Yield-to-Call สำหรับแต่ละวันที่อาจมีการเรียกคืน โดยอัตราผลตอบแทนที่ต่ำที่สุดระหว่าง YTM กับ Yield-to-Call ต่างๆ เรียกว่า Yield-to-Worst

อัตราผลตอบแทนปรับด้วยสิทธิเรียกคืน (Option-Adjusted Yield) 

คำนวณโดยบวกมูลค่าของ Call option กับราคาตลาดของหุ้นกู้ Option-Adjusted Yield จะต่ำกว่า YTM เนื่องจากหุ้นกู้ที่มีสิทธิเรียกคืนมักให้ผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่อาจถูกเรียกคืนก่อนกำหนด

อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating-Rate Note Yields) 

ตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวมีมูลค่าที่ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับหุ้นกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะปรับตามอัตราอ้างอิงเป็นระยะ โดยบวกหรือลบส่วนต่าง (Margin) ตามความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออก ส่วนต่างที่ใช้คำนวณดอกเบี้ยเรียกว่า Quoted Margin ส่วนส่วนต่างที่ทำให้ราคาตราสารกลับมาเท่ากับมูลค่าที่ตราไว้เรียกว่า Required Margin หรือ Discount Margin

สรุป

การวัดผลตอบแทนของหุ้นกู้มีความสำคัญในการประเมินมูลค่าและความเสี่ยงของการลงทุน นักลงทุนควรเข้าใจวิธีการคำนวณและความหมายของอัตราผลตอบแทนแต่ละประเภท เพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออก สภาพคล่อง และภาษี เป็นต้น