The Secret เดอะซีเคร็ด

สั่งซื้อหนังสือ “The Secret เดอะซีเคร็ด” (คลิ๊ก)

สรุปหนังสือ The Secret เดอะซีเคร็ด

ความลับคลี่คลาย

ตลอดเวลาในประวัติศาสตร์ มีผู้คนมากมายปรารถนาจะล่วงรู้ความรับนี้ แต่ก็มีคนที่ได้พบและแพร่ความรู้นี้แก่ชาวโลก ความลับนี้คือกฎแห่งการดึงดูด ซึ่งเป็นกฎที่ทรงอานุภาพที่สุดในสากลจักรวาล ที่ถือกำเนิดขึ้น ณ จุดเริ่มต้นของกาลเวลา กฎนี้ดำรงอยู่มาโดยตลอด และจะดำรงอยู่ตลอดไป

สิ่งที่เหมือนกันจะมีแรงดึงดูดเข้าหากัน ความลับที่จะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จของชีวิต โดยเชื่อใน Law of Attraction กฏแห่งการดึงดูด เพราะจิตของเรามีพลังอำนาจมหาศาล ความคิดมีแรงดึงดูดและมีคลื่นความถี่ เมื่อคิดอะไร ความคิดนั้นก็จะกระจายออกไปในเวิ้งจักรวาล และจะดึงดูดสิ่งอื่นที่คล้ายคลึงกัน ที่มีความถี่เดียวกัน เป็นการดึงดูดสิ่งดี มิใช่สิ่งเลวร้าย ให้คิดแต่สิ่งที่ดีแล้วสิ่งดี ๆ จะถูกดึงดูดเข้ามาหาเราเอง เมื่อมุ่งคิดถึงและตั้งใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใด แสดงว่ากำลังเรียกหาสิ่งนั้น กฎแห่งการดึงดูดไม่คำนึงถึงคำว่า ไม่ อย่า ไม่ต้องการ หรือถ้อยคำแสดงการปฏิเสธใด ๆ เช่น เมื่อคิดว่า “ไม่ต้องการทรงผมที่ดูน่าเกลียด” กฎแห่งการดึงดูดจะได้ยินว่า “ต้องการทรงผมที่ดูน่าเกลียด”

พลังแห่งความคิด นักควอนตัมฟิสิกซ์ทั้งหลายได้ค้นพบทำให้เข้าใจยิ่งขึ้นว่า สมองของมนุษย์มีพลังอำนาจอันไร้ขีดจำกัดในการสร้างสรรค์สิ่งใด ๆ ขึ้นมาก็ได้ นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำหรับการมีชีวิตอยู่ เพราะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์เรา มีอำนาจถึงขั้นใช้เพียงปลายนิ้ว ก็หาความรู้ได้

ความลับฉบับง่าย

กฎแห่งการดึงดูดเป็นกฎธรรมชาติ ไม่จำเพาะเจาะจงบุคคล เช่นเดียวกับกฎแห่งแรงโน้มถ่วง กฎนี้ทั้งแน่นอนและแม่ยำ คนที่ได้ฟังความลับส่วนนี้เป็นครั้งแรก มักนึกถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากในคราวเดียว และไม่อาจเข้าใจได้ที่ผู้คนมากมายเช่นนั้นจะดึงดูดตัวเองเข้าไปหาเหตุการณ์นั้นพร้อม ๆ กันได้อย่างไร แต่ถ้าพิจารณาด้วยกฎแห่งการดึงดูดแล้ว คนเหล่านั้นจะต้องมีคลื่นความถี่เดียวกันกับเหตุการณ์นั้น ๆ นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาคิดถึงเหตุการณ์นั้น ๆ เสมอไป แต่หมายความว่า ความถี่ของคลื่นความคิดของพวกเขาเข้ากันกับคลื่นความถี่ของเหตุการณ์นั้น

ถ้าใครที่เชื่อว่าตนเองอาจมีสักวันที่ต้องไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา โดยไม่มีอำนาจควบคุมเหนือสภาพการณ์ภายนอกใด ๆ  การคิดถึงความหวาดวิตก การพลัดพราก และการไร้พลังอำนาจแบบนี้ หากปล่อยให้ครอบงำนายเข้า ก็จะดึงดูดคนเหล่านี้เข้าไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาในที่สุด

ตอนนี้มีทางเลือกแล้ว อยากจะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องของเคราะห์กรรม และสิ่งเลวร้ายอาจเกิดได้ทุกเมื่อหรือเปล่า อยากจะเชื่อว่าตัวเองมีโอกาสที่จะไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาหรือ อยากจะเชื่อว่าไม่มีอำนาจควบคุมสถานการณ์ใด ๆ เลยใช่ไหม ประสบการณ์ชีวิตอยู่ในกำมือของคุณเอง เพราะนั่นเป็นวิธีคิดของคุณ คุณมีทางเลือก และไม่ว่าจะเลือกคิดอะไร สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นประสบการณ์ในชีวิต

จะไม่ประสบกับเหตุการณ์ใด ๆ ถ้าไม่เรียกหาสิ่งนั้น ๆ ด้วยการครุ่นคิด ถ้าอยากรู้ว่าคิดอะไรอยู่ จงถามตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร อารมณ์ความรู้สึก คือ เครื่องมือชิ้นสำคัญที่บอกได้ทันทีว่า กำลังคิดอะไรอยู่ ความคิดเป็นตัวกำหนดคลื่นความถี่ และความรู้สึกจะบอกว่าอยู่ในคลื่นความถี่ใด เมื่อรู้สึกแย่ก็จะดึงดูดสิ่งแย่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม เมื่อรู้สึกดีก็มีพลังดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาหามากยิ่งขึ้น

วิธีใช้ความลับ

ความลับที่จะทำให้ได้เรียนรู้วิธีการใช้ความลับในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งด้านการเงิน สุขภาพ ความสัมพันธ์ ความสุข และปฏิสัมพันธ์ทุกรูปแบบในโลกนี้ จะเริ่มเข้าใจพลังอำนาจภายในตัวเองที่ถูกปกปิดซ่อนเร้นมานาน และสิ่งที่เปิดเผยนี้จะนำมาซึ่งความยินดีในทุก ๆ ด้านของชีวิต The Secret แนะนำกระบวนการสร้างไว้ให้ 3 ขั้นตอนคือ

ขั้นที่ 1 การร้องขอ (Ask) : เหมือนมีตะเกียงวิเศษ เมื่อถูเจ้ายักษ์ออกมาแล้ว ต้องร้องขอ ต้องคิดให้พลังแห่งจักรวาลรับรู้ว่า ต้องการอะไรอย่างแท้จริง แล้วจะได้สิ่งนั้นมา หากสิ่งที่คิด ไม่ดี สิ่งที่ได้ก็ย่อมไม่ดีเช่นกัน แต่หากคิดดี สิ่งที่ได้ย่อมดีเสมอ ในขั้นตอนนี้เทคนิคที่แนะนำคือ การเขียนสิ่งดี ๆ  สามารถเขียนสิ่งดี ๆ ที่ต้องการในสมุดบันทึกได้ทุกวัน เพื่อให้จดจำสิ่งดี ๆ ที่ต้องการ มันจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจลึก ๆ ในใจ ให้พยายามทำให้สิ่งที่ต้องการจนสำเร็จ เป็นการสร้างความกระจ่างกับตัวเองว่าต้องการอะไร และเมื่อรู้อย่างชัดเจนแล้วก็เท่ากับว่าได้ขอไปแล้ว

ขั้นที่ 2 ความเชื่อ (Believe) :  จงเชื่อในสิ่งดี ๆ ที่พึงอยากได้ว่า จะต้องได้มาอย่างแน่นอน ต้องมีศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนจึงจะก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นจริง เมื่อไหร่ที่พลาดจากหวัง จงเชื่อเสมอว่า หากหวังและพยายามต่อไป วันหนึ่งฝันจะเป็นจริง กรณีนี้คงเข้าตำราคนไทยที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น หากเชื่อและพยายามทำในสิ่งที่เชื่อ สักวันสิ่งนั้นจะสำเร็จดั่งฝัน

ขั้นที่ 3 การรับ (Receive) : ต้องรู้สึกปราบปลื้มยินดีแบบเดียวกับที่จะรู้สึกเมื่อเกิดสิ่งนั้นขึ้นจริง ๆ เงื่อนไขสำคัญคือต้องรู้สึกดี และมีความสุข เพราะเมื่อรู้สึกดีกำลังนำตัวเองเข้าไปอยู่ในคลื่นความถี่เดียวกับสิ่งที่ต้องการ รู้สึกราวกับว่ามีสิ่งนั้นแล้วในขณะนี้ ความรู้สึกนั้นช่างเป็นจริง จักรวาลสื่อสารกับคนเราด้วยคลื่นความถี่แห่งการรับที่เป็นสัญชาตญาณ เมื่อใดที่เกิดความรู้สึกอยากทำ จงรีบลงมือทำ แล้วจะพบว่าพลังดึงดูดของจักรวาลกำลังนำพาไปสู่การได้รับในสิ่งที่ขอ

จงเริ่มต้นด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เช่น กาแฟสักถ้วย หรือที่จอดรถ ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะได้สัมผัสกับกฎแห่งการดึงดูดด้วยตัวเอง จงตั้งใจจริงจังที่จะดึงดูดอะไรสักอย่างที่เล็ก ๆ ก่อน เมื่อได้ประจักษ์ในพลังดึงดูดของตนเองแล้ว ก็สามารถยกระดับขึ้นสู่การสร้างอะไรที่ใหญ่กว่านั้นได้ แล้วจะสร้างชีวิตได้เองจากความตั้งใจ

กระบวนการอันทรงพลัง

ความจริงในขณะนี้ หรือชีวิตช่วงนี้ คือผลลัพธ์ที่เกิดจากความคิดที่คิดมาตลอด ทั้งหมดนี้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเริ่มเปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนความรู้สึกของตนเอง ความสำเร็จทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ ต้องเข้าใจใน 3 กระบวนการ ดังนี้

กระบวนการที่ 1 กระบวนการสำนึกคุณอันทรงพลัง สำนักรู้คุณคือองค์ประกอบหลักในคำสอนของนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ทั้งมวลในประวัติศาสตร์ ไม่มีทางที่ชีวิตจะได้อะไรมากขึ้น หากยังไม่รู้สึกสำนึกในคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ เพราะอารมณ์ที่ส่งกระจายออกไปขณะรู้สึกไม่สำนักนั้นต่างล้วนเป็นอารมณ์ด้านลบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น อารมณ์ริษยา กลัดกลุ้ม ไม่พอใจ หรือความรู้สึกยังไม่พอ ต่างไม่อาจชักนำสิ่งที่ต้องการเข้ามาหาได้เลย ซึ่ง Attraction process หรือกระบวนการสร้างแรงดึงดูด โลกมีแรงดึงดูดเป็นพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถสัมผัสมันได้ผ่านกระบวนการเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ ตัวเราเองก็สามารถสร้างแรงดึงดูดได้เหมือนกัน

การรู้จักขอบคุณและชื่นชม การรู้จักขอบคุณสิ่งที่อยู่รอบตัว สิ่งที่มี สิ่งที่เป็นด้วยใจจริง ตัวอย่างเช่น

แทนที่จะมองว่า ของขวัญจากเพื่อนมูลค่าน้อยนิด จงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่มีเพื่อนที่น่ารัก เพื่อนยังคิดถึงเสมอ

แทนที่จะน้อยใจว่าพ่อแม่ดุด่าว่า จงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ทุกวันนี้ยังได้ยินเสียงของพ่อแม่ และท่านยังได้มีทุกข์สุขร่วมกัน

แทนที่จะมองว่าอาหารมื้อนี้น้อยเกินไปกินไม่อิ่ม จงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ทุกวันนี้ยังมีข้าว มีอาหารให้กิน

แทนที่จะมองว่างานหนัก เหนื่อย เงินเดือนน้อย จงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่ยังมีงานทำ ยังมีเงินเดือนใช้

แทนที่จะมองว่าเช้านี้รถติดน่าเบื่อเปลืองน้ำมัน จงมองเสียใหม่ว่า ขอบคุณที่โชคดียังมีรถขับ ขอบคุณที่ฝนไม่ตกซ้ำลงมาอีก ขอบคุณที่ได้ที่นั่งบนรถเมล์ ขอบคุณที่ได้ยืน ถือเป็นการออกกำลังกายอีกวัน เป็นต้น

หากสามารถมองสิ่งรอบตัวในมุมมองที่ดี ๆ คิดเชิงบวกกับสิ่งเหล่านั้นได้ และสามารถขอบคุณสิ่งเหล่านั้นได้ และชื่นชมอย่างจริงใจ ก็จะสร้างแรงดึงดูดดี ๆ ให้กับชีวิตได้ไม่ยาก

จงเริ่มรู้สึกสำนึกคุณต่อสิ่งที่มีอยู่ เมื่อเริ่มคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตที่รู้สึกขอบคุณ จะแปลกใจที่ตัวเองจะคิดไปถึงสิ่งที่ควรขอบคุณอีกมามาย ซึ่งหลั่งไหลกลับเข้ามาไม่รู้จบ ต้องเริ่มสำนึกรู้คุณกับอะไรสักอย่างก่อนเพื่อให้กฎแห่งการดึงดูดได้รับคลื่นความคิดสำนึกรู้คุณ แล้วจะได้ทำหน้าที่ดึงดูดสสิ่งดี ๆ ที่ควรสำนึกรู้คุณมาให้อีก เมื่อเข้าไปปักหลักอยู่ในคลื่นความถี่แห่งสำนึกรู้คุณนี้สำเร็จ สิ่งดี ๆ ทั้งปวงก็จะเข้ามา

ทุกคนต่างต้องการสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสุขภาพ ทรัพย์สินเงินทอง หน้าที่การงาน ต่าง ๆ ก็ล้วนแต่ต้องการสิ่งดี ๆ ทั้งนี้จะสร้างแรงดึงดูดอย่างไรให้มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา The Secret ได้บอกหลักสำคัญ ๆ ของแหล่งดึงดูดสิ่งดี ๆ ไว้ดังนี้

การคิดเชิงบวก ทุกความคิดมีแรงดึงดูด เคยสังเกตไหมว่า หากคิดคำนึงหรือกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ่อย ๆ เรื่องนั้นก็มักเกิดขึ้นจริง ดังนั้นหากเปลี่ยนความคิดจากการคิดถึงสิ่งที่ไม่ดีบ่อย ๆ เป็นคิดถึงแต่สิ่งที่ดี ๆ บ่อย ๆ คลื่นความคิดก็จะแปรเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูดดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ในประเด็นนี้หากมองในทางธรรมแล้ว ก็คงไม่ต่างอะไรกับที่ชอบพูดกันว่า คิดดี ทำดี พูดดี สิ่งที่สะท้อนกลับมาหาก็คงดีเหมือนกัน

กระบวนการที่ 2 กระบวนการสร้างมโนภาพอันทรงพลัง (Visualize) การสร้างภาพในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการให้โกหก หลอกลวง สร้างภาพให้ดูดีในสายตาคนอื่น แต่การสร้างภาพในที่นี้หมายถึง การสร้างจินตนาการแห่งความหวังให้เป็นภาพออกมา เช่น

หากต้องการมีบ้านสวย ลองวาดภาพบ้านในฝันออกมา ก็จะมีความหวัง แรงบันดาลใจ พลังในจิตใจ ให้เกิดความพยายามในการสร้างสรรค์แนวทาง ที่จะให้ได้มาซึ่งบ้านในฝัน

ไม่เฉพาะสิ่งของเท่านั้น แม้แต่บุคคลหากฝันมันก็อาจเป็นจริง เชื่อได้ว่าข้อนี้ทุกคนก็คงเคยฝันถึงคนในอุดมคติที่สามารถเอาเป็นแบบอย่างได้ ความลับข้อนี้มันอาจถูกเปิดเผยมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ทราบเท่านั้นเองว่า มันคือช่องทางแห่งความสำเร็จ

การสร้างภาพมันก็เหมือนเป็นการสะกดจิตตัวเอง ด้วยภาพที่อาจสร้างขึ้นมาในสมอง ในจิตใจ หรือว่าออกมาให้เห็นจริง ๆ ในวัสดุใด ๆ การสร้างภาพไม่ได้จำเพาะเพียงรูปภาพ แต่หมายรวมถึงภาพของอักษรที่ร้อยเรียงคำพูด การกระทำของทั้งตัวเองและคนอื่น ที่ต้องการขอบคุณและชื่นชม เช่น

หากมองภาพดี ๆ หรือเขียนคำชื่นชมลูก สามี ภรรยา เจ้านาย ลูกน้องทุกวันก็จะทำให้มีทัศนคติ และความสัมพันธ์ที่ดีต่อพวกเขา เป็นต้น

หากได้เพ่งมอง และรู้จักชื่นชมภาพเหล่านี้ทุกวัน แรงดึงดูดภายในจิตใจก็จะถูกสร้างขึ้น สิ่งที่ฝันก็จะบังเกิด ดังนั้น หากสร้างภาพในใจ ในสมอง ในความคิดที่เป็นสิ่งดี ๆ สิ่งที่น่าชื่นชม ปฏิกิริยาต่าง ๆ ก็จะแสดงออกมากับสิ่งดีเหล่านั้น ปัญหาความขุ่นใจก็จะถูกลบเลือนออกไป แล้วสิ่งดี ๆ ก็จะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

กระบวนการที่ 3 กระบวนการปฏิบัติอันทรงพลัง ให้ทำกระดานสร้างภาพ โดยบนกระดานแผ่นนี้ สามารถสร้างจินตนาการให้หลุดโลกแค่ไหนก็ได้ วาดภาพวัตถุสิ่งของอะไรก็ได้ทุก ๆ อย่างที่ต้องการ รวมทั้งวาดภาพชีวิตในรูปแบบที่ต้องการด้วย แล้ววางไว้ในตำแหน่งที่มองเห็น และต้องมองกระดานนี้ทุก ๆ วัน จงรู้สึกราวกับว่าได้สิ่งนั้นมาแล้ว

ทุกคืนก่อนนอน จงคิดทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หากมีเหตุการณ์ใด หรือชั่วขณะใดที่ไม่ต้องการให้เกิดข้นในรูปแบบนั้น จงนึกย้อนสร้างภาพเหตุการณ์นั้นใหม่ในใจ ในรูปแบบที่ต้องการ

ความลับสู่ความมั่งมี

ในชีวิตประจำวันสามารถนำเอากฎแห่งการดึงดูดไปปรับใช้ได้ในทุก ๆ เรื่อง กระบวนการมีเพียงหนึ่งเดียวไม่ว่าจะต้องการสร้างอะไร แม้แต่เรื่องทรัพย์สินเงินทองก็ไม่เว้น หากคิดจะดึงดูดเงินทอง ต้องรวมศูนย์ความคิดจิตใจไปที่ความมั่งมี ต้องคิดถึงเงินทองมากมายเหลือเฟือ เพื่อจะนำสิ่งเดียวกันนั้นมาสู่ตัวเอง เป็นการส่งสัญญาณความคิดออกไป และความคิดนั้นควรจะคิดว่าขณะนี้มีเงินเหลือเฟือแล้ว แล้วต้องเชื่อว่ามีเงินเท่าที่ต้องการแล้ว ทำแบบนี้ต้องสนุกแน่ เมื่อกำลังแสร้งเล่นเกมเศรษฐีมีเงินล้นเหลือนั้น จะทำให้รู้สึกดีกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ขึ้นมาทันที และเมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว ทรัพย์สินเงินทองก็จะเริ่มไหลมาเทมาสู่ชีวิต

ให้เงินไปเพื่อให้ได้เงินมา การให้เป็นการกระทำที่มีอานุภาพมาก สามารถนำเงินมาสู่ชีวิตมากขึ้น เพราะว่าในขณะที่ให้ออกไปนั้นกำลังบอกเป็นนัยว่า “ฉันมีเยอะแล้ว” ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนรวยที่สุดในโลกคือคนที่ใจบุญที่สุด พวกเขาให้เงินจำนวนมหาศาล และในขณะที่ให้จักรวาลก็จะเปิดประตูให้เงินทองไหลมาเทมาหาพวกเขา ในจำนวนที่มากว่านั้นหลายเท่าทวีคูณ อันเป็นไปตามกฎแห่งการดึงดูด

แต่ต้องสิ่งสำคัญระหว่างการให้กับการเสียสละ การให้ด้วยใจจริงทำให้รู้สึกอิ่มใจเป็นที่สุด แต่การเสียสละไม่ทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ อย่างนั้น อย่าสับสนระหว่างการให้กับการเสียสละ สองอย่างนี้เป็นขั้วตรงข้ามกัน อย่างหนึ่งให้ความรู้สึกดี อีกอย่างหนึ่งให้ความรู้สึกไม่ดี การเสียสละจะนำไปสู่ความรู้สึกไม่พอใจในที่สุด แต่การให้อย่างเต็มอกเต็มใจเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำแล้วปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด และกฎแห่งการดึงดูดก็จะจับคลื่นสัญญาณนั้น แล้วนำพาอะไร ๆ ที่ชวนปลื้มมาสู่ชีวิตมากขึ้นอีก

สิ่งที่ต้องการคือภารกิจของใจ โลกภายนอกเป็นเพียงโลกแห่งผลลัพธ์ เป็นผลลัพธ์จากความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง จงปรับความคิดและคลื่นความถี่ไปที่ความสุข ส่งกระจายความรู้สึกสุขใจยินดีจากข้างในออกไปในห้วงจักรวาลอย่างเต็มพลัง แล้วจะได้พบกับสวรรค์บนดินอย่างแท้จริง

ความลับปรับสัมพันธ์

เมื่อต้องการดึงดูดอะไรสักอย่างเข้ามาในชีวิต ต้องรู้ชัดเจนก่อนว่าการกระทำจะไม่ขัดแย้งกับความปรารถนา ลองคิดว่าได้ขออะไรไป แล้วอย่าลืมว่าการกระทำจะสะท้อนภาพสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับ และจำต้องไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่ขอด้วย จงทำตัวประหนึ่งว่ากำลังได้รับ ทำอย่างที่จะทำหากได้รับสิ่งที่ต้องการในวันนี้ และทำทุกอย่างในชีวิตให้สอดรับกับความคาดหวังอันแรงกล้านั้น จัดพื้นที่ใหม่ในชีวิตเพื่อรองรังสิ่งที่ปรารถนา และขณะที่ทำอย่างนั้น กำลังส่งคลื่นสัญญาณแห่งความคาดหวังอันแรงกล้านั้นออกไป

รู้เท่าทันความคิดของตัวเอง เหมือนเป็นการมีสติกำหนดรู้ว่าขณะนี้คิดอะไร คิดดีหรือคิดเลวเมื่อรู้เท่าทันความคิดเมื่อไหร่ ก็สามารถคัดแยกความคิดเลวนอกจากความคิดดีได้ ทำให้มีโอกาสที่จะยับยั้งความคิดเลว และดำเนินความคิดดี ๆ ต่อไป เคยสังเกตตัวเองกันไหม หากเมื่อคิดเลวอารมณ์ที่ไม่ดีก็จะเกิด แต่หากเมื่อไหร่คิดดีความสบายใจอารมณ์ที่ดีก็จะเกิด อารมณ์เป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดการกระทำ คนที่ไม่รู้เท่าทัน ไม่รู้จักควบคุมความคิดเลว อารมณ์เลว ก็จะโกรธง่าย เกลียดง่าย ฉุนเฉียวง่าย สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านใบหน้า และร่างกายออกสู่ภายนอก สิ่งที่สะท้อนจากภายนอกกลับมาหาตัวเองก็คงไม่ใช่สิ่งดีนัก

แต่ในทางกลับกัน คนที่คิดดี รู้เท่าทันระงับความคิดและอารมณ์เลว สิ่งดี ๆ จากจิตใจก็จะถูกถ่ายทอดผ่านร่างกายให้แสดงออกมาแต่สิ่งดี ๆ สิ่งที่ได้รับก็จะเป็นสิ่งดีด้วยเช่นกัน เมื่อรู้สึกดี ความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ สิ่งสร้างสรรค์ต่าง ๆ ก็จะบังเกิดขึ้น ทำให้สามารถพัฒนาตัวเองทั้งในปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย อนาคตขึ้นกับความคิด

รวมศูนย์ความคิดไปที่ข้อดีที่ชอบเกี่ยวกับตัวเอง แล้วกฎแห่งการดึงดูดจะทำให้มองเห็นข้อดีของตัวเองมากขึ้นอีก ปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นด้วยการมุ่งมองแต่ข้อดีของอีกฝ่าย ไม่ใช่ข้อเสียที่บ่นว่า เมื่อมุ่งคิดถึงแต่ข้อดีเหล่านั้น ก็จะยิ่งได้พบข้อดีเพิ่มขึ้น

ความลับปรับสุขภาพ

เมื่อเริ่มประจักษ์ว่าเดอะซีเคร็ตมีพนังอำนาจแค่ไหน ก็จะเริ่มมองเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้นว่าแท้แล้ว หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดแก่มนุษยชาติเกิดได้อย่างไร รวมทั้งด้านที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายด้วย ปฏิกิริยาต่อยาหลอกเป็นปรากฎการณ์ที่ทรงพลังมาก เมื่อผู้ป่วยคิดและเชื่อจริง ๆ ว่ายาเม็ดนั้นต้องรักษาได้ผล พวกเขาก็จะได้รับสิ่งที่ตนเชื่อ และอาการป่วยก็ทุเลาลง

ความเครียดทุกประเภทเกิดจากความคิดลบ ความเครียดคือผล ส่วนความคิดด้านลบคือสาเหตุ ความเครียด ความคิดเชิงลบ ก่อให้เกิดอารมณ์ที่ขุ่นมัว เศร้าหมอง ส่งผลต่อระดับการทำงานของร่างกายและสมองที่ลดลงเสมอ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น ก็เปลี่ยนเหตุการณ์นั้นได้ ด้วยความคิดเชิงบวก สร้างความคิดดี อารมณ์ดี โดยรู้จักมีความพึงพอใจ (Satification) รู้จักชื่นชมผู้อื่น (Appriciation) มีความหวัง (Hope) มีความสุข (Happiness) รู้จักสนุกร่าเริง (Joy) รู้จักขอบคุณ (Gratitude) รู้จักรักทั้งตัวเอง ผู้อื่น และสิ่งรอบตัว (Love) เป็นต้น

ละทิ้งความคิดเลว อารมณ์เลว โดยตัดความหวาดกลัว (Fear) ความกดดัน เครียด (Depression) ผิดพลาดเลอะเทอะ (Fault) ไม่พอใจขุนเคือง (Resentment) ความเกลียด (Hate) ความโกรธ (Angry) การตำหนิติเตียน (Criticism) การกล่าวโทษนินทา (Blame) เป็นต้น

ถ้าอยากมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มุ่งคิดถึงแต่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ คือสิ่งที่ทำได้ด้วยใจ ไม่ว่าสภาพเงื่อนไขภายนอกจะเป็นอย่างไรก็ตาม การหัวเราะจะดึงดูดความร่างเริงยินดี ขจัดสิ่งที่เป็นด้านลบออกไป และนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างปาฏิหาริย์

ความลับปรับเปลี่ยนโลก

การต่อต้านอะไรสักอย่าง ก็เหมือนกับการพยายามเปลี่ยนภาพที่ฉาย หลังจากที่คลื่นสัญญาณภาพนั้นถูกส่งออกมาแล้ว ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้แน่ ต้องมองลึกลงไปข้างในและปล่อยคลื่นสัญญาณใหม่ออกมา ด้วยความรู้สึกและความคิดของตัวเอง เพื่อให้เกิดภาพใหม่ ขณะที่กำลังต่อต้านสิ่งที่เห็น กำลังไปเพิ่มพลังอำนาจให้ภาพที่ไม่ชอบ และกำลังชักนำภาพทำนองเดียวกันมาสมทบอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์หรือเงื่อนไขที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นจะยิ่งขยายตัวออกไป เพราะนี่คือกฎของสากลจักรวาล ทุกวันนี้คนเรามักใช้คำพูดว่า ต่อต้าน ในการรณรงค์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้การรณรงค์เหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จสักที ดังนั้น ควรเปลี่ยนคำพูดเชิงลบจากคำว่า ต่อต้านเป็นคำพูดเชิงบวกคำว่า ส่งเสริม คงจะดีกว่า อาทิเช่น

แทนที่จะต่อต้านสงคราม ก็ควรเปลี่ยนเป็นสนับสนุนสันติภาพ

แทนที่จะต่อต้านความยากจนอดอยาก ก็ควรเปลี่ยนเป็นสนับสนุนผู้คนให้มีอาหารกิน

แทนที่จะต่อต้านพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ ก็ควรจะเปลี่ยนเป็นสนับสนุนพรรคการเมืองตรงข้ามพรรคนั้น

หากทุกคนเพ่งไปยังสิ่งที่ไม่ต้องการ สิ่งนั้นมันคงยังวนเวียนในสมองของทุกคน แล้วในที่สุดมันก็เป็นการตอกย้ำ และดึงดูดให้สิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการนั้นเกิดขึ้น เหมือนสุภาษิตไทยว่า ยิ่งเกลียดยิ่งเจอนั่นเอง ดังนั้น ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะสงบนิ่ง และละความสนใจไปจากสิ่งที่ไม่ต้องการ

แทนที่จะมัวคิดถึงปัญหาทั้งหลายของโลก จงหันมาสนใจและใช้พลังงานไปกับการไว้วางใจใน ความรัก ความอุดมสมบูรณ์ การศึกษา และสันติภาพ จะไม่มีวันขาดแคลนสิ่งดี ๆ เพราะทุกอย่างมีมากเกิดพอสำหรับทุกคน ชีวิตได้รับการสร้างมาให้มีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนมีขีดความสามารถที่จะเข้าถึงขุมทรัพย์แห่งสิ่งดี ๆ ได้อย่างไม่จำกัด โดยผ่านทางความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง และชักนำมันเข้ามาเป็นประสบการณ์ของตนเอง

ความลับปรับตัวคุณ

จักรวาลคือขุมคลังแห่งสากลโลก เป็นพลาธิการที่มีให้เบิกได้ทุกอย่าง ทุกสิ่งล้วนมาจากจักรวาล และส่งมาถึงโดยผ่านทางผู้คน เงื่อนไขสภาวะแวดล้อม และเหตุการณ์ ภายใต้กฎแห่งการดึงดูด นึกถึงกฎแห่งการดึงดูดในฐานะกฎแห่งการเบิกจ่าย กฎนี้ทำให้สามารถเบิกจ่ายอะไรก็ได้จากคลังอันไร้ขีดจำกัด เมื่อปล่อยคลื่นความถี่อันสมบูรณ์แบบของสิ่งที่ต้องการออกไป ทั้งผู้คน เงื่อนไขแวดล้อม และเหตุการณ์ที่สอดคล้องต้องกัน ก็จะถูกดึงดูดเข้ามาหา และนำสิ่งนั้นมาให้

คุณคือพระเจ้าในรูปกายภาพ คุณคือจิตวิญญาณในเนื้อหนัง คุณคือชีวิตนิรันดร์ที่กำลังสำแดงตนในฐานะตัวคุณ คุณคือสิ่งมีชีวิตแห่งจักรวาล คุณคือพลังอำนาจทั้งมวล คุณคือความรอบรู้ทั้งมวล คุณคือสติปัญญาทั้งมวล คุณคือความสมบูรณ์แบบ คุณคือความล่ำเลิศ คุณคือผู้สร้าง และคุณกำลังสร้างตัวตนของคุณบนดาวเคราะห์ดวงนี้

สลัดความยากลำบากจากอดีต ระเบียบวัฒนธรรม และความเชื่อในสังคม คนเราเท่านั้นที่สามารถสร้างชีวิตที่พึงมีพึงได้ ทางลัดที่จะสำแดงความปรารถนาออกมาก็คือ มองสิ่งที่ต้องการว่านั่นคือข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องสงสัย พลังอำนาจอยู่ที่ความคิด เพราะฉะนั้นจงมีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา

ความลับปรับชีวิต

บนกระดานชีวิต ต้องลงมือเติมคำลงในช่องว่างด้วยอะไรก็ตามที่ตัวเองต้องการ หากสิ่งที่เติมไว้มีแต่เรื่องรกหัวจากอดีต จงลบมันออกให้หมด ลบทุกอย่างจากอดีตที่ไม่ช่วยอะไรเลย จงของคุณที่อดีตทำให้มายืนอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ เพื่อจะตั้งหลักเริ่มต้นใหม่ เมื่อมีกระดานที่ว่างเปล่าแล้ว ทีนี้ก็เริ่มได้เลย ตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย ค้นหาความสุขให้พบ และอยู่กับความสุขนั้น จงทำสิ่งที่รักและนำความปลาบปลื้มมาสู่ตัวเอง ถ้าไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้ปลื้ม จงถามตัวเองว่า ความสุขของฉันคืออะไร และเมื่อค้นพบและผูกใจไว้กับสิ่งนั้น ความสุขนั้น กฎแห่งการดึงดูดจะกระหน่ำนำพาทั้งวัตถุ ผู้คน เงื่อนไข สภาวะแวดล้อม เหตุการณ์ และโอกาสแห่งความสุขปลื้มปีติมาท่วมท้นชีวิต ทั้งหมดนี้เกิดได้เพราะส่งคลื่นสัญญาณแห่งความปีติสุขออกไป

จงมีความสุขเสียแต่บัดนี้ จงรู้สึกดีเสียแต่บัดนี้ นี่คือสิ่งเดียวที่ต้องทำ ถ้านี่คือสิ่งเดียวที่ได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ จงรู้ไว้ด้วยว่าทุกคนได้รับส่วนสำคัญที่สุดของความลับแล้ว ในเมื่อได้เรียนรู้ความลับนี้แล้ว จะเลือกทำอะไรกับความรู้นั้นก็แล้วแต่ใจ สิ่งที่เลือกล้วนถูกต้องทั้งสิ้น พวกเรากำลังอยู่ในยุคแห่งความรุ่งโรจน์ เมื่อสลัดความคิดอันจำกัดทิ้ง จะได้สัมผัสกับความล้ำเลิศที่แท้จริงของมนุษย์ในทุก ๆ ด้านของการสร้างสรรค์

กระบวนการสร้างแรงดึงดูดโดยสรุปแล้ว

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดี ๆ : เคยสังเกตไหม หากวันไหนตื่นมาพร้อมอารมณ์ขมุกขมัว วันนั้นอาจปวดหัว อะไรก็ดูช่างหงุดหงิดในสายตาไปเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคน การจราจร หรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ แต่ในทางกลับกัน หากสามารถตื่นขึ้นมาพร้อมกันความรู้สึกดี ๆ สมองก็จะแจ่มใส จิตใจก็จะเบ่งบาน พร้อมที่จะมีสติรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในวันนั้นได้อย่างต่อเนื่อง และมีสมาธิในการไตร่ตรองแยกแยะ พิจารณาสิ่งที่ผิด ถูก ชั่ว ดีได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อได้กรองและเลือกที่จะรับแต่สิ่งดี ๆ แล้ว อารมณ์ก็จะดียิ่งขึ้น สิ่งที่แสดงออกมาจากตัวก็ดี สิ่งที่จะได้รับต่อไปยิ่งดี

เมื่อใดที่รู้สึกแย่ ท้อถอย The secret แนะให้มองสิ่งที่สวยงาม การได้ฟังเพลงดี ๆ เพลงเชิงบวก การได้มองเด็ก ๆ ที่สดใสร่าเริง การได้ชมดอกไม้สีสวย ๆ ที่กำลังเบ่งบาน การได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสุนัข เลี้ยงแมว การได้เล่นกีฬา การได้ออกไปท่องเที่ยว เพราะ The secret เชื่อว่า เมื่อคนรู้สึกรัก สิ่งดี ๆ ก็จะเข้ามาในชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้เหมือนกับจะรู้กันเองนานแล้ว เพราะคงได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า ความรักทำให้โลกสดใส โลกทั้งใบเป็นสีชมพู ไม่ว่าจะรักแบบไหน แต่ต้องเป็นรักที่บริสุทธิ์ใจ จึงจะไม่เป็นทุกข์ รักทำให้คนสามารถมองโลกในแง่ดีเสมอ

อย่าลังเลกับสิ่งที่จะลงมือทำ : สิ่งดี ๆ โอกาสคอยอยู่เสมอ เมื่อสามารถสร้างแรงดึงดูดได้แล้ว สิ่งที่สะท้อนกลับมา เมื่อหยุดคิดอย่างรอบคอบแล้ว อย่าลังเลที่จะรับ อย่าปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดลอย เพราะหากไม่เริ่มผลคงไม่เกิด ไม่จำเป็นต้องเห็นตลอดทั้งเส้นทาง หรือเห็นทางทั้งหมด แต่หากเริ่มและลองดู อาจจะเห็นทางอีกหลายทาง ซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้

รู้จักพอ : การรู้จักพอจะสร้างความสุขที่แท้จริง คนเราทุกวันนี้ล้วนแต่เอากิเลสเป็นที่ตั้ง อยากได้สิ่งต่าง ๆ มากมายจนเกินความจำเป็น ความพอดีข้อนี้คงเข้ากับหลักพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี เมื่อรู้จักพอ ความสุขก็เกิด ความเหนื่อยล้าแห่งการดิ้นรนก็น้อยลง ทำให้คนมีเวลาคิดที่จะคิดทบทวนไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ในความคิดได้ดีขึ้น ดังนั้น ความพอแยกกันไม่ออกจากข้ออื่น ๆ ที่กล่าวข้างต้น

หากต้องการพบความสุขและความสมหวังที่แท้จริง ก็ควรมุ่งเน้นไปสร้างแรงดึงดูดที่ดี ต้องหัดปรับเปลี่ยนความคิด ทัศนคติภายในทิศทางที่ดี หากคิดดี ทำดี สิ่งที่ได้รับก็จะดี เมื่อทุกคนทำได้ โลกก็จะเป็นสุขและพัฒนาในทิศทางที่ดี.

สั่งซื้อหนังสือ “The Secret เดอะซีเคร็ด” (คลิ๊ก)