NR7 Trading Strategy หรือชื่อเต็มว่า “Narrow Range 7” เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ใช้หลักการของ “ช่วงราคาที่แคบที่สุดในรอบ 7 แท่งเทียน” เพื่อคาดการณ์การเบรกเอาท์ (Breakout) ที่มีนัยสำคัญในอนาคต โดยถือเป็นกลยุทธ์ประเภท Volatility contraction (การหดตัวของความผันผวน ที่มีโอกาสผันผวนแรงในอนาคต) ที่นิยมมากในหมู่เทรดเดอร์สายเทคนิค

ความหมายของ NR7 คืออะไร?

NR7 ย่อมาจาก: Narrow Range 7 = แท่งเทียนที่มี “ช่วงราคาสูง-ต่ำ” แคบที่สุดในรอบ 7 แท่งก่อนหน้า

หมายความว่า ถ้าแท่งเทียนวันนี้ (หรือแท่งเทียนล่าสุด) มีความกว้างของแท่ง (High – Low) แคบกว่าทุกแท่งในช่วง 6 วันที่ผ่านมา จะเรียกว่า NR7 bar

แนวคิดเบื้องหลังกลยุทธ์ NR7

  • ตลาดที่เคลื่อนไหวแคบ ๆ หรือมี “การหดตัวของความผันผวน” มักจะนำไปสู่การขยายตัวที่รุนแรงในภายหลัง
  • ดังนั้น NR7 จึงถูกใช้เป็น สัญญาณเตือนว่า การเบรกเอาท์กำลังจะมา
  • เทรดเดอร์จะรอเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุช่วง High หรือ Low ของ NR7 bar

วิธีใช้งานกลยุทธ์ NR7

1. ค้นหาแท่ง NR7

  • ใช้กราฟรายวัน (หรือ Time Frame ที่คุณต้องการ)
  • เปรียบเทียบความกว้างของแท่งเทียน 7 แท่งล่าสุด
  • ระบุแท่งที่มี “Range = High – Low” แคบที่สุด → เรียกแท่งนี้ว่า “NR7 Bar”

2. รอการ Breakout

  • วาง Buy Stop ที่เหนือ High ของ NR7 Bar
  • วาง Sell Stop ที่ใต้ Low ของ NR7 Bar

3. ตั้ง Stop Loss และ Take Profit

  • Stop Loss: อยู่ฝั่งตรงข้ามของแท่ง NR7
  • Take Profit:
    • อิงจาก Risk:Reward ratio (เช่น 1:2)
    • หรือใช้อินดิเคเตอร์/เส้นแนวรับแนวต้านประกอบ

ตัวอย่างการเทรด NR7

  1. ราคาเกิดรูปแบบ NR7 (เป็นแท่งที่แคบที่สุดในรอบ 7 วันที่ผ่านมา จากนั้นเกิดสัญญาณ Buy Stop หลังแท่งถัดมาปรับตัวขึ้นเหนือ High ของแท่ง NR7 ก่อนหน้า
  2. เช่นเดียวกัน เกิดรูปแบบ NR7 และตามด้วย Buy Stop
  3. เกิดรูปแบบ NR7 ตามด้วย Sell Stop

เคล็ดลับในการใช้งาน NR7

  • ควรใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการใช้งาน

สรุป

NR7 คือกลยุทธ์เทรดที่ใช้แท่งเทียนที่มีช่วงราคาต่ำสุดในรอบ 7 แท่ง (Narrow Range 7) เป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดอาจใกล้เกิดการเบรกเอาท์ (Breakout) เพราะเมื่อราคาผันผวนน้อยลงอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงการสะสมพลัง ซึ่งมักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวรุนแรง เทรดเดอร์จะรอให้ราคาทะลุ High หรือ Low ของแท่ง NR7 จึงค่อยเข้าออเดอร์ พร้อมวาง Stop Loss ที่ฝั่งตรงข้ามของแท่งนั้น เหมาะกับสายเทรดเบรกเอาท์ และควรใช้ร่วมกับเครื่องมือที่บ่งชี้แนวโน้มหรืออินดิเคเตอร์อื่นๆ ประกอบเพื่อเพิ่มความแม่นยำ