อัตราแลกเปลี่ยน คืออะไร?

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Foreign Exchange Rate) คือราคาหรือต้นทุนของเงินสกุลหนึ่งเมื่อเทียบกับอีกสกุลหนึ่ง ในการเขียนสัญลักษณ์อัตราแลกเปลี่ยน เช่น 1.416 USD/EUR หมายความว่า 1 ยูโรมีค่าเท่ากับ 1.416 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเครื่องหมาย “/” อ่านว่า “ต่อ” หรือ “per”

ในการอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน จะมีสกุลเงินฐาน (Base Currency) และสกุลเงินราคา (Price Currency) เช่น ในกรณี 1.25 USD/EUR นั้น EUR คือสกุลเงินฐาน และ USD คือสกุลเงินราคา ซึ่งหมายความว่า 1 ยูโรมีค่าเท่ากับ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ การอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนแบบนี้สามารถเรียกได้เป็น 2 แบบคือ:

  1. Direct Quote – มุมมองของนักลงทุนในประเทศที่ใช้สกุลเงินราคา
  2. Indirect Quote – มุมมองของนักลงทุนในประเทศที่ใช้สกุลเงินฐาน

ประเภทอัตราแลกเปลี่ยน

อัตราแลกเปลี่ยนสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่:

  1. อัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริง (Real Exchange Rate) – สะท้อนอำนาจซื้อของเงินสกุลหนึ่งเทียบกับอีกสกุลหนึ่ง โดยคำนึงถึงระดับราคาสินค้าในแต่ละประเทศ
  2. อัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นตัวเงิน (Nominal Exchange Rate) – อัตราแลกเปลี่ยนที่เห็นในตลาด ณ ขณะใดขณะหนึ่ง หากอัตรานี้เพิ่มขึ้น จะทำให้อำนาจซื้อของสกุลเงินราคาลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินฐาน
  3. อัตราแลกเปลี่ยนทันที (Spot Exchange Rate) – อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการส่งมอบทันที โดยทั่วไปจะส่งมอบภายใน 2 วันทำการ
  4. อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Forward Exchange Rate) – อัตราแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าสำหรับการแลกเปลี่ยนในอนาคต มักมีระยะเวลา 30, 60, 90 วัน หรือ 1 ปี

ผู้เล่นในตลาดเงินตราต่างประเทศ

ในตลาดเงินตราต่างประเทศ มีผู้เล่นหลายกลุ่ม ได้แก่:

  1. ฝั่งขาย (Sell Side)
  • ธนาคารขนาดใหญ่ระหว่างประเทศ ทำหน้าที่เป็นผู้ค้าหลักและออกสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  1. ฝั่งซื้อ (Buy Side)
  • บริษัทที่ทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
  • บัญชีเพื่อการลงทุนประเภทต่างๆ เช่น กองทุนรวม กองทุนบำเหญ็จบำนาญ บริษัทประกัน
  • รัฐบาลและหน่วยงานรัฐ รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
  • ตลาดรายย่อย เช่น ครัวเรือนและสถาบันขนาดเล็ก

วัตถุประสงค์ของการทำธุรกรรมในตลาดเงินตราต่างประเทศ

การทำธุรกรรมในตลาดเงินตราต่างประเทศสามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์ได้เป็น:

  1. การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) – เมื่อบริษัทต้องการลดหรือกำจัดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีอยู่
  2. การเก็งกำไร (Speculation) – เมื่อผู้ลงทุนต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน

Cross Rate

นอกจากนี้ ยังมีการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนไขว้ (Cross Rate) ซึ่งเป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินที่ได้จากการคำนวณผ่านสกุลเงินที่สาม (มักเป็นดอลลาร์สหรัฐหรือยูโร) เช่น หากต้องการทราบอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเปโซเม็กซิโกกับดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่ไม่มีตลาดซื้อขายโดยตรง ก็สามารถคำนวณผ่านอัตราแลกเปลี่ยนของทั้งสองสกุลเงินกับดอลลาร์สหรัฐได้

สรุป

การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในหลายด้าน ทั้งการค้าระหว่างประเทศ การลงทุน และการเคลื่อนย้ายเงินทุน ดังนั้น การเข้าใจกลไกและปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมระหว่างประเทศทุกประเภท