แนะนำโบรกเกอร์หุ้นที่ดีที่สุดในประเทศไทย พร้อมรีวิวรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละแห่ง เพื่อช่วยคุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน
การเลือกโบรกเกอร์หุ้น
การเลือกโบรกเกอร์หุ้นเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะมือใหม่ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดหุ้น การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้การลงทุนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณามีดังนี้:
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
ค่าธรรมเนียมเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญที่ควรศึกษา เพราะเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการซื้อขาย ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ค่าธรรมเนียมเหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป - บริการเสริม
บริการเสริมจากโบรกเกอร์ อาทิ โปรแกรมเทรด, บทวิเคราะห์, สิทธิในการจองซื้อหุ้นออกใหม่ (IPO) และอื่นๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ - ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์
การเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและมีความน่าเชื่อถือสูงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนของคุณอยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด - การบริการ
การเปิดบัญชี การฝากเงิน การถอนเงิน ควรเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถาม ให้แก้ไขปัญหาให้อย่างทันถ่วงทีก็เป็นสิ่งสำคัญ
การเลือกโบรกเกอร์หุ้นที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ
รวม 3 โบรกเกอร์หุ้นที่ดีที่สุดในประเทศไทย
1. บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด – LIB
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator Securities Co., Ltd.) เป็นโบรกเกอร์ดิจิทัลที่มุ่งเน้นการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบออนไลน์ โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก และใบอนุญาตธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบ ส-1 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565
บริการและจุดเด่นของ Liberator
- ค่าคอมมิชชั่น 0.06% : ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้
- ค่าคอมแบบเหมาจ่าย : ทาง LIB ยังมีแพ็กเกจค่าคอมแบบเหมาะจ่าย (LIBFAM) เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ถูกได้ต่ำสุดถึง 0.01% โดยจะมี
- Pack S ฿499 ต่อเดือน : เทรดได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท
- Pack M ฿999 ต่อเดือน : เทรดได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท
- Pack L ฿3,999 ต่อเดือน : เทรดได้ไม่จำกัด
- โปรแกรมเทรดแบบครบวงจร : ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย รองรับการซื้อขายหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และกองทุนรวม เทรดได้ทั้งหมด จบในแอปเดียว
- เทรดหุ้นอเมริกาได้ด้วย : สามารถลงทุนในหุ้นอเมริกาและ ETF กว่า 8,000 รายการ เริ่มต้นเพียง 1 USD ก็สามารถลงทุนได้ ค่าคอมมิชชั่นเพียง 0.10% ของมูลค่าการซื้อขาย
- LIB Academy: ศูนย์การเรียนรู้ที่ให้ความรู้ด้านการลงทุนตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ ทั้ง การวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการบริหารจัดการเงิน
- LIBFAM Community: ชุมชนนักลงทุนที่ร่วมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การลงทุนที่สนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
- Liberator Day : เป็นวันที่สามารถ ซื้อ-ขาย โดยไม่มี ค่าคอมมิชชั่น ทุกวันที่ 21 ของเดือน ทั้ง LIBFAM และ LIB BASIC (หากวันที่ 21 เป็นวันหยุดให้นับ วันทำการถัดไป)
- Website : https://www.liberator.co.th/
2. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) – FSS
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมายเลข 24 และเป็นสมาชิกของศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 5 ประเภท ได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์
จุดเด่นของ FSS
- เด่นเรื่องการให้สิทธิ์จองหุ้น IPO มีหุ้น IPO เจ๋งๆ มาให้อยู่ตลอด บางคนเทรดโบรกนี้เพื่อที่จะจอง IPO อย่างเดียวเลยก็มี
- เปิดพอร์ตหุ้นไวภายใน 8 นาที
- โปรแกรมเทรดหุ้น Finansia HERO ที่ฟังก์ชั่นหลากหลาย สามารถ Scan หุ้นแบบ Real-time ได้ สามารถทดสอบความแม่นยำของเครื่องมือ (Backtest) สามารถสั่งคำสั่งซื้อขายพร้อมกันได้สูงสุด 20 คำสั่ง ด้วย Multi Order สามารถดูแนวรับแนวต้าน สร้างกรอบการซื้อขายด้วย Volume by Price
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.15%
- Website : https://www.fnsyrus.com/
3. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) – MST
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 บริษัทฯ ให้บริการด้านการลงทุนที่หลากหลาย เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ การลงทุนในกองทุนรวม ตราสารหนี้ และหุ้นกู้ นอกจากนี้ยังมีบริการด้านการลงทุนต่างประเทศ บริการวางแผนการลงทุน รวมถึงวาณิชธนกิจและการวิจัยสำหรับนักลงทุนรายบุคคลและสถาบัน
จุดเด่นของ MST
- บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 31 ปี และเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 16 ปี ตั้งแต่ปี 2545-2560
- บริษัทฯ ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มเมย์แบงก์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซียและมีสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- มีสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 29 สาขา พร้อมด้วยผู้แนะนำการลงทุนกว่า 500 ราย
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย 0.15%
- อัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวัน = 50 บาทต่อวัน
- Website : https://www.maybank-ke.co.th/