สารบัญ
Tradingview เป็นโปรแกรมดูกราฟบน Website ที่ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพอย่างมาก โดยเป็นโปรแกรมที่มาแรงมากที่สุด ณ ตอนนี้ ที่สำคัญที่สุด คือ “ฟรี”
เข้าสู่เว็บไซต์ Tradingview.com คลิ๊ก (ฟรี)
ทำไมต้องใช้ Tradingview ?
ง่ายๆ เลย ครับ “ฟรี” และ “ดี”
การตีเส้นที่ง่ายดาย
เราสามารถลากเส้น Trend line ต่างๆได้อย่างง่าย และ ทั้ง Horizontal Line (เส้นแนวนอน) , Vertical line (เส้นแนวตั้ง) , Trend line และอื่นๆ อีกมากมาย
Indicator ที่ครบถ้วน แถมยังเพิ่มเองได้อีก
พวกเครื่องมือ หรือ Indicator พื้นฐาน อย่างเช่น RSI, MACD, Stochastic, ADX, Parabolic SAR, เส้นค่าเฉลี่ย EMA/SMA/WHA, Volume, Bollinger Bands หรืออะไรก็ตามที่นักเทคนิคใช้งานกัน บอกได้เลยว่า Tradingview มีให้ใช้งานหมด
และหนำซ้ำยังมีการเปิดให้เทรดเดอร์มีเขียน Indicator กันเองได้อีกเช่นเดียวกัน เป็น Open sources ที่เทรดเดอร์ท่านอื่น สามารถหยิบไปใช้งานได้ฟรี
โดยเราสามารถเจอ Indicator แปลกๆ อย่าง TD sequential , Squeeze Momentum Indicator, WaveTrend Oscillator และ อืกมากมาย
ล่าสุดทาง Tradingview ได้เพิ่มฟังก์ชัน “Candlestick Patterns” ไว้ช่วยหารูปแบบทางกลับตัวของแท่งเทียน โดยหากมีแท่งเทียนเกิดการฟอร์มตัวตามที่เราเลือกไว้ บนกราฟก็จะแสดงแจ้งเตือนเป็นลูกศร และแถบสีขึ้นมาให้เห็นอย่างเด่นชัด
ช่วยในการดูรูปแบบแท่งเทียนได้ง่ายยิ่งขึ้น เหมาะกับสาย Price action อย่างมาก
รูปแบบกราฟบน Tradingview
Tradingview มีให้เลือกรูปแบบกราฟกว่า 12 รูปแบบ
สามารถดูข้อมูลพื้นฐานในเชิงกราฟ
อีกหนึ่งทีเด็ดของ Tradingview คือ สามารถ Plot ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ยอดขาย, กำไร, ปันผล, PE, PBV มา Plot ลงเป็นกราฟ เพื่อดูแนวโน้มได้เช่นเดียวกัน
เข้าสู่เว็บไซต์ Tradingview.com คลิ๊ก (ฟรี)
ฟังก์ชันอื่น นอกจากการดูกราฟ
ข่าว
สำหรับหุ้นไทย ทาง Tradingview จะดึงข้อมูลข่าวสารหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่เรากำลังเปิดกราฟอยู่ มาจาก Inforquest
ภาพรวมตลาด
สามารถดูรายชื่อหุ้นที่มีปริมาณมูลค่าซื้อขายสูงสุด (Most active trading value) ในแต่ละวัน และ % การเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด และ ต่ำสุด ได้เช่นเดียวกัน
ปฏิทินรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
เทรดเดอร์สาย Forex น่าจะชอบสิ่งนี้ ทาง Tradingview มีเครื่องมือ “ปฏิทินเศรษฐกิจ” คอยแจ้งเตือนว่า วันนี้ หรือ ในอนาคต จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอะไรบ้าง
รวมถึงในอดีตก็มีเก็บบันทึกไว้เช่นเดียวกัน
สามารถให้ปรากฏบนกราฟเลยก็ได้ หรือ เอาไว้บนแถบขวามือ
อย่างหุ้นไทย ก็จะมีการแจ้งเตือนและบันทึก การรายงานผลกำไรขาดทุน และ เงินปันผลที่จ่ายด้วยเช่นเดียวกัน (ดูง่ายมากๆเลย)
ห้องแชท คุยกับเทรดเดอร์ด้วยกัน
การเทรดของเราจะไม่เหงาอีกต่อไป เราสามารถพูดคุย ปรึกษาหาความรู้ต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่แชร์มุมมองไอเดียในการเทรด แต่ยังสามารถปรึกษาปัญหาการใช้งานของ Tradingview ได้เช่นเดียวกัน
กรองหุ้น ทั้งปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยเทคนิค
เราสามารถกรองรายชื่อหุ้น ตามที่เราต้องการได้ ในฟังก์ชัน “Stock Screener” หรือ “ตัวช่วยคัดกรองหุ้น”
สามารถกำหนดได้เลยว่า เราอยากหาหุ้นประเภทไหน เงินปันผลเท่าไหร่, สินทรัพย์มากกว่าระดับไหน, อัตรากำไรขั้นต้น เป็นยังไง เป็นต้น เราสามารถตั้งเงื่อนไข และคัดกรองได้หมด
ตัวกรองสามารถตั้งค่าได้ทั้ง ปัจจัยทางพื้นฐาน และ ปัจจัยทางเทคนิค
การเขียน Script ในการสร้าง Indicator หรือเครื่องมืออื่นๆ มาใช้งานเอง
Tradingview เปิดให้เราสามารถเขียน Indicator ขึ้นมาเองได้ โดยผ่าน Pine Editor (สำหรับคนที่มีความรู้ในการเขียนโปรแกรม)
Tradingview ดูอะไรได้บ้าง
ง่ายๆเลยนะครับ ทุกสินค้าทั่วโลก ที่เป็นกราฟ
หลักๆ ก็จะมี
- สกุลเงินดิจิตอล : Bitcoin, Ethereum, XRP, Tether และอื่นๆอีกมากมาย
- ค่าเงิน (Forex) : ทั้งคู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง รวมถึงคู่สกุลเงินแปลกๆ
- หุ้น : เรียกได้ว่า มหาศาล เลย
- ดัชนี : เรียกได้ว่า ทั่วโลก
- ฟิวเจอร์ส : ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร, พลังงาน, โลหะ, อัตราดอกเบี้ย มีหมด
- พันธบัตร : อเมริกา, ยุโรป, เอเชีย, แปซิฟิค, ตะวันออกกลาง และ แอฟรีกา
ตัวอย่างดัชนีคร่าวๆใน Tradingview เรียกได้ว่า ทั่วโลก
Tradingview ดูได้บน PC และ Mobile
เราสามารถเปิดกราฟ Tradingview ได้บน PC (เหมือนเปิด Website ทั่วไป) หรือ บนมือถือ ทั้ง iOS และ Andriod ก็ดูได้หมดเช่นเดียวกัน
อยู่ที่ไหนก็ดูกราฟได้
Tradingview รับรองภาษาไทย
Tradingview เป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างมีความเป็นสากล รับรองหลากหลายภาษาทั่วโลก และที่สำคัญมี “ภาษาไทย” ด้วยเช่นเดียวกัน
เทียบ Tradingview กับโปรแกรมอื่น
ถ้าเทียบกับโปรแกรมดูกราฟอื่นในอุตสาหกรรมไทย ณ ตอนนี้ ก็จะมี
- efinanceThai : โดยรวมดี แต่ใช้งานไม่ลื่นไหล ตีพวก Trend line ยาก เลื่อนกราฟอะไรลำบาก ต้องมีบัญชีเทรดหุ้นถึงจะใช้งานได้
- Aspen : กราฟเร็ว แต่หน้าตาค่อนข้างโบราณ ใช้งานยาก เหมาะกับ คนชอบดูข่าว เพราะ ข่าวไว
- TQ Pro (ชื่อเดิม คือ Bisnews) : กราฟลื่นไหล แต่ต้องลงโปรแกรม และเสียรายเดือน เหมาะกับคนที่จะใช้ Realtime data (RTD) ดึงลง Excel
ส่วน Tradingview สำหรับในการดูกราฟนั้น ลงตัวที่สุดแล้ว กราฟสวย ใช้งานง่ายโคตรๆ ไม่ต้องลงโปรแกรม ไม่ต้องเสียเงินสักบาท
เข้าสู่เว็บไซต์ Tradingview.com คลิ๊ก (ฟรี)
*** ไม่ได้บอกว่า โปรแกรมอื่นไม่ดีนะครับ แต่ละโปรแกรมมีข้อดี และข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ในกรณีนี้ ที่บอกว่า Tradingview ดีที่สุด หมายถึง สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการดูกราฟแค่นั้น ***
แบบ Pro Version
ใครที่ใช้ดูกราฟทั่วไปก็แนะนำใช้แบบ Basic ที่ฟรี ก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องเสียเงิน
แต่ถ้าใครที่อยากได้ฟังก์ชันที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถใช้งานพวก Pro version แบบเสียเงินได้เช่นเดียวกัน
โดยค่าใช้จ่ายมีดังนี้
- Pro : 155 USD ต่อปี
- Pro+ : 299 USD ต่อปี
- Premium : 599 USD ต่อปี
รายละเอียดความสามารถก็จะแตกต่างกันออกไปตามลำดับแพคเกจ
ตัวอย่าง ฟังค์ชั่นเพิ่มเติมของ Pro version
สามารถดูรายละเอียด Pro version ได้ที่นี่
สรุป Tradingview
สั้นๆ เลยครับ ดี ! ใช้เถอะครับ
โดยทั่วไปก็ แบบฟรี ไป
ใครเซียนๆ หน่อยก็ค่อยขยับขึ้นมาใช้แบบ Pro version หรือ Pro+ และ Premium ก็ได้