Swaps

Swaps และ Options เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อนและใช้กันอย่างแพร่หลายในตลาดการเงินสมัยใหม่ Swaps คือข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายในการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยทั่วไปมักจะเป็นการแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยคงที่กับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ตัวอย่างเช่น Swaps อัตราดอกเบี้ยคงที่กับลอยตัวระยะเวลา 2 ปี ฝ่ายหนึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ เช่น 2% ต่อปี ในขณะที่อีกฝ่ายจะจ่ายดอกเบี้ยในอัตราลอยตัวตามอัตราอ้างอิงในตลาด เช่น SOFR 90 วัน โดยคำนวณจากเงินต้นสมมติ (Notional Principal) จำนวน 10 ล้านดอลลาร์

การชำระเงินจะเกิดขึ้นทุกไตรมาส โดยคู่สัญญาจะหักกลบยอดที่ต้องจ่ายกัน และฝ่ายที่มียอดจ่ายสูงกว่าจะจ่ายส่วนต่างให้อีกฝ่าย Swaps ช่วยให้บริษัทสามารถบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยได้ เช่น บริษัทที่มีหนี้สินอัตราดอกเบี้ยลอยตัวอาจทำ Swaps เพื่อเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี Swaps ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Default Swap – CDS) ซึ่งเป็นสัญญาที่ผู้ซื้อความคุ้มครองจ่ายค่าธรรมเนียมให้ผู้ขายความคุ้มครองเป็นการแลกเปลี่ยนกับการชดเชยความเสียหายหากเกิดเหตุการณ์ด้านเครดิต เช่น การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอ้างอิง CDS ช่วยให้นักลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้ที่ถืออยู่ได้

Options

Options แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักคือ สิทธิซื้อ (Call Options) และสิทธิขาย (Put Options) สิทธิซื้อให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในราคาที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด ในขณะที่สิทธิขายให้สิทธิในการขายสินทรัพย์อ้างอิง ตัวอย่างเช่น สิทธิขายหุ้น 100 หุ้นที่ราคาใช้สิทธิ 25 ดอลลาร์ต่อหุ้น หากราคาหุ้นในตลาดต่ำกว่า 25 ดอลลาร์ ผู้ถือสิทธิจะใช้สิทธิขายหุ้นในราคา 25 ดอลลาร์ แต่หากราคาหุ้นสูงกว่า 25 ดอลลาร์ ผู้ถือสิทธิจะไม่ใช้สิทธิและปล่อยให้สิทธิหมดอายุ

Options มีลักษณะเป็นสัญญาทางเดียว กล่าวคือ ผู้ถือมีสิทธิแต่ไม่มีภาระผูกพันที่จะต้องซื้อหรือขาย ในขณะที่ผู้ออก Options มีภาระผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขหากผู้ถือใช้สิทธิ Options จึงเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนใช้ในการทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิงได้

สรุป

Swaps และ Options เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีความซับซ้อน ผู้ที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้จึงควรมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงกลไกการทำงานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง