สาย Shopping น่าจะเคยซื้อของออนไลน์บนแอปพลิเคชัน Shopee กันบ้างใช่ไหม ส่วนสายเกมก็น่าจะคุ้นเคยกับเกมออนไลน์อย่าง Free Fire เกม Shooting หรือเกมยิงต่อสู้กันด้วยอาวุธปืนจากผู้พัฒนา Garena แล้วรู้ไหมว่าทั้ง Shopee และ Garena มีเจ้าของคนเดียวกันคือบริษัท Sea Limited บทความนี้จะมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ฟังกัน
ประวัติ Sea Limited
เจ้าของบริษัท Sea Limited คือคุณ Forrest Xiaodong Li (ฟอร์เรสต์ เซี่ยวตง ลี) เกิดที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ จาก Shanghai Jiaotong University และปริญญาโท MBA จาก Stanford University สหรัฐอเมริกา
เขาเป็นสมาชิกของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์ และดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระที่ไม่ใช่ผู้บริหารของบริษัท Shangri-La Asia Limited นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการมูลนิธิของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ และสภาที่ปรึกษาของโรงเรียนบริหารธุรกิจบัณฑิตของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
จุดเริ่มต้นเกิดจากคุณ Forrest Li ที่รักการเล่นเกมตั้งแต่เด็ก ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นผู้บริหารให้กับคุณ Leo Chen ที่กำลังทำธุรกิจสตาร์ตอัปมีชื่อว่า GG Game และต่อมาในปี 2009 Leo Chen ก็ขายธุรกิจ GG Game ให้กับ Forrest Li
Forrest Li จึงได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก GG Game เป็น “Garena” ซึ่งมาจากคำว่า Global และ Arena นั่นเอง
ในปี 2014 ได้ก่อตั้ง “SeaMoney” เพื่อให้บริการการชำระเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินต่างๆ
ปี 2015 ได้เปิดตัว “Shopee” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จากการเห็นโอกาสทางการตลาดที่ตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น
และในเดือนเมษายน 2017 บริษัทก็สามารถเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์กได้สำเร็จ และได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Garena เป็น “Sea Limited” ซึ่งย่อมาจาก Southeast Asia
สรุปธุรกิจหลักของ Sea Group
1.) Garena : เกมออนไลน์
2.) Shopee : อีคอมเมิร์ซ
3.) SeaMoney : Fintech เทคโนโลยีทางการเงิน หรือการเงินดิจิทัล
Garena
- Garena ให้บริการแพลตฟอร์มเล่นเกมออนไลน์ และมีเกมที่ Garena พัฒนาเองที่โด่งดัง เช่น Free Fire เกมแนว Battle Royale สามารถเล่นได้บนมือถือ ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 พัฒนาโดยทีมจากประเทศเวียดนาม ชื่อ 111dots Studio (บริษัทลูกของ Garena) โดยในปี 2019 ทำรายได้ทั่วโลกไป 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- Garena นำเข้าและเผยแพร่เกมจากบริษัทอื่นในภูมิภาคต่างๆ เช่น League of Legends, Arena of Valor, Point Blank
- Garena ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานอีสปอร์ตทั่วโลก ตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ระดับท้องถิ่นไปจนถึงการแข่งขันอีสปอร์ตระดับมืออาชีพที่มีผู้ชมสูงสุดทั่วโลกอย่าง Free Fire World Series 2021 ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีผู้ชมพร้อมกันสูงสุด 5.4 ล้านคน ซึ่งถือเป็นสถิติผู้ชมพร้อมกันสูงสุดของการแข่งขันอีสปอร์ตในประวัติศาสตร์
Shopee
- เปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 2015 และขยายไปยังประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ไต้หวัน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และหลังจากนั้นก็ทยอยเปิดตัวที่บราซิล ละตินอเมริกาและยุโรป
- ช่วงแรกของการเปิดตัว Shopee ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นใด ๆ ทั้งสิ้นจากผู้ขายแถมยังมีโปรโมชั่นพิเศษต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น 9.9 super Shopping Day ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ช่วยสร้างยอดขายได้สูงสุดในวันที่ 9 กันยายนของแต่ละปี
SeaMoney
- บริการกระเป๋าเงินดิจิตัล AirPay, ShopeePay, ขายประกันผ่านช่องทางดิจิทัล InsurTech, ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง SPayLater, สินเชื่อ Digital Lending,
ผลการดำเนินงาน
ช่วงปี 2020 ถึง 2021 ซึ่งเป็นช่วงปีที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกไม่สามารถเดินทางออกนอกบ้านได้ ดังนั้นธุรกิจออนไลน์ต่างๆจึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ส่งผลดีต่อรายได้ของ Sea Limited ดังนี้
- ในปี 2020 Garena เป็นเกมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยยอดที่ทะลุ 2 พันล้านเหรียญฯ และมีกำไร(EBITDA) ประมาณ 1 พันล้านเหรียญฯ
- ส่วนในปี 2021 Garena มีรายได้กว่า 4 พันล้านเหรียญฯ และมีกำไร(EBITDA) กว่า 2 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของ Garena จากความโด่งดังของเกม Free Fire นั่นเอง เรียกได้ว่าธุรกิจสายเกมช่วยทำกำไรให้กับบริษัทในช่วงนี้ก็ว่าได้
- ในปี 2020 Shopee มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกสูงสุดเป็นอันดับ 2 (รองจาก Amazon) โดยมียอดการดาวน์โหลดถึง 139 ล้านครั้ง และในปี 2021 ก็ขึ้นสู่อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดดาวน์โหลดถึง 203 ล้านครั้ง
- แม้ว่า Shopee จะมีรายได้หรือยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นในแต่ละปี แต่ก็เผชิญภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้ง โดยพึ่งเริ่มมีกำไรครั้งแรก (EBITDA) ในไตรมาส 4 ปี 2022 ประมาณ 196.1 ล้านเหรียญฯ (แต่ภาพรวมทั้งปี 2022 ยังขาดทุนอยู่)
ผลประกอบการ Sea Group ในปี 2020-2024
- 2020: รายได้รวม 4,375.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดทุน 1,624.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- 2021: รายได้รวม 9,955.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดทุน 2,043.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- 2022: รายได้รวม 12,449.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดทุน 1,657.77ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- 2023: รายได้รวม 13,063.56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไร 162.68 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- 2024: รายได้รวม 16,819.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไร 447.83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ในปี 2022 Sea ก็ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจเน้นทำกำไรมากขึ้นและลดค่าใช้จ่ายขนานใหญ่ จะเห็นได้จากการประกาศ Lay off พนักงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อผลประกอบการของ Sea ในปี 2023 ที่มีกำไรเป็นครั้งแรก
สาระเพิ่มเติม:
เดือนสิงหาคมปี 2021 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก จัดอันดับให้ Forrest Li เป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และติดโผมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด 500 คนแรกของโลก ทว่าไม่กี่เดือนถัดมา ราคาหุ้นของ Sea ลดลงจากจุดสูงสุดถึง 80% ทำให้ Forrest Li หลุดโผเศรษฐีกลุ่มดังกล่าว
บทสรุป
ในทุกวันนี้ Sea ยังคงเผชิญกับคู่แข่งรายสำคัญอยู่เสมอ ทั้ง Lazada ของ Alibaba ไปจนถึง TikTok Shop ส่วนธุรกิจการเงินดิจิทัลก็มีผู้เล่นหลายราย อีกทั้งเกมออนไลน์ก็มีการแข่งขันกันสูง ก็ต้องดูกันต่อไปว่า Sea จะงัดกลยุทธ์ใหม่ใดออกมาสู้ศึกนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
- https://www.sea.com
- https://www.thairath.co.th/scoop/culture/2735857
- โพสต์ของFB: The People
- https://idcgames.com