Source: CFA Institute
ผู้ซื้อขายหุ้นในตลาดจะเป็นผู้กำหนดราคา Bid และ Ask (Offer) โดยราคา Bid คือราคาที่เสนอซื้อหุ้นจากเรา ส่วน Ask คือราคาเสนอขายหุ้นให้กับเรา ส่วนต่างระหว่างสองราคานี้เรียกว่า Bid-ask spread ซึ่งวิธีจำง่ายๆว่าเราต้องขายที่ราคาใด ดูแค่ว่าเราจะเป็นผู้ที่เสียเปรียบเสมอ โดยราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask ดังนั้นเราต้องขายที่ราคา Bid และซื้อในราคา Ask นั่นเอง
การเรียงลำดับราคา Bid จะเรียงจากราคาที่รับซื้อสูงที่สุดขึ้นก่อน ส่วนราคา Ask จะเป็นราคาเสนอขายที่ต่ำที่สุด โดยยิ่งหลักทรัพย์มีสภาพคล่องสูง จะยิ่งมี Bid-ask spread ที่แคบลงเรื่อยๆ เราเรียกคนที่ตั้งราคา Bid และ Ask ว่าเป็นผู้ทำตลาด (Market makers) ส่วนผู้ที่เทรดตามราคา Bid และ Ask ซึ่งจะสามารถซื้อขายได้ทันที เรียกว่าเป็นผู้ตามตลาด (Market takers)
เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ นักลงทุนจำเป็นต้องส่งคำสั่งที่ระบุจำนวนและราคาหลักทรัพย์ รวมถึงระบุว่าเป็นคำสั่งซื้อหรือขาย โดยคำสั่งซื้อจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆดังนี้
1. Execution Instructions
Source: CFA Institute
เป็นการระบุวิธีการเทรด โดยคำสั่งซื้อขายอย่างง่ายจะเป็นคำสั่งที่ระบุราคาเทรดเป็นราคาตลาด หรือราคาลิมิต ซึ่งราคาตลาด (Market orders) จะเป็นการซื้อขายที่ราคาที่ดีที่สุด ณ เวลาที่ส่งคำสั่งทันที มีข้อดีตรงที่สามารถเทรดสำเร็จได้ทันที อย่างไรก็ตามราคาที่เทรดได้จะมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
เพื่อเป็นการป้องกันการเทรดที่ได้ราคาไม่แน่นอน จำเป็นต้องคำสั่งซื้อขายที่ระบุราคาลิมิต (Limit orders) เอาไว้ ซึ่งหากเป็นคำสั่งซื้อ ราคาที่ซื้อได้สำเร็จจะไม่เกินราคาลิมิตที่ตั้งไว้ (ถ้าราคา Ask ในตลาดต่ำกว่าราคาลิมิตก็จะได้เป็นราคาตลาดไปเลย) ในทางกลับกันราคาที่ขายได้สำเร็จก็จะไม่ต่ำกว่าลิมิตที่ตั้งเอาไว้
วิธีการส่งคำสั่งแบบอื่นๆประกอบด้วย (1) All-or-nothing orders เป็นคำสั่งซื้อขายที่จำเป็นต้องสำเร็จพร้อมกันทั้งคำสั่ง ไม่งั้นก็จะไม่ทำการซื้อขาย (2) Hidden orders เป็นการซ่อนขนาดของคำสั่งซื้อไม่ให้คนอื่นเห็น โดยจะมีเพียงตัว Broker เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้
2. Validity Instructions
Source: CFA Institute
เป็นการระบุเวลาที่ต้องการเทรดหลักทรัพย์ โดยคำสั่งส่วนใหญ่จะเป็น Day orders หรือก็คือคำสั่งที่จะหมดอายุในวันที่ส่งคำสั่งหากไม่เกิดการซื้อขายขึ้น และยังมีการระบุเวลาแบบอื่นๆดังนี้:
– Good-til-cancel orders เป็นคำสั่งที่จะอยู่ไปตลอดหากไม่ทำการยกเลิก
– Immediate-or-cancel orders เป็นคำสั่งที่จะถูกยกเลิกทันทีหากไม่เกิดการซื้อขายขึ้นขณะส่งคำสั่ง
– Good-on-close orders เป็นคำสั่งที่จะส่งเมื่อตลาดกำลังปิด (ระบุราคาลิมิต)
– Market-on-close orders เป็นคำสั่งที่จะส่งเมื่อตลาดกำลังปิด (ราคาตลาด)
– Good-on-open orders เป็นคำสั่งที่จะส่งเมื่อตลาดกำลังเปิด
– Stop-sell orders เป็นคำสั่งที่จะขายเมื่อราคาปรับตัวลงตามที่กำหนด
– Stop-buy orders เป็นคำสั่งที่จะซื้อเมื่อราคาปรับตัวขึ้นตามที่กำหนด
3. Clearing Instructions
เป็นการระบุว่าใครจะเป็นผู้จัดการเคลียร์และดำเนินคำสั่ง ซึ่งคำสั่งของนักลงทุนทั่วไปจะดำเนินการโดย Broker แต่ว่าหากเป็นนักลงทุนสถาบัน คำสั่งอาจถูกดำเนินการโดย Custodian หรือ Broker อื่นๆที่ให้บริการนักลงทุนรายใหญ่ สำหรับคำสั่งขายจะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อหลักทรัพย์สามารถโอนถ่ายไปยังผู้ซื้อได้ในกรณี Long sale และหลักทรัพย์สามารถนำมาให้ยืมสำหรับขายก่อนได้ในกรณี Short sale
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 1) บทนำ
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 2) Positions and Leverage
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 3) Order Execution
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 4) Primary and Secondary Market
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 5) Quote-Driven, Order-Driven, and Brokered Markets
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 6) ลักษณะของระบบการเงินที่ดี