Jacob & Co. เป็นแบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาหรูระดับโลกที่มีเรื่องราวน่าสนใจและแรงบันดาลใจอันน่าทึ่ง เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์นี้คือเรื่องราวของเด็กชายวัย 14 ปีที่อพยพมาจากสหภาพโซเวียตพร้อมครอบครัวเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่าในสหรัฐอเมริกา

จุดเริ่มต้นของความฝัน

เจคอบ อราโบ (Jacob Arabo) ผู้ก่อตั้ง Jacob & Co. เริ่มต้นชีวิตในอเมริกาด้วยการเป็นผู้ช่วยในร้านนาฬิกาในช่วงฤดูร้อนแรกที่เขามาถึง ประสบการณ์นี้ได้จุดประกายความหลงใหลในศิลปะการทำนาฬิกาให้กับเขา พ่อของเขาเคยให้นาฬิกาที่แสดงเวลาได้สองเขตเวลาพร้อมแผนที่โลกชุบทองบนหน้าปัดเป็นของขวัญตอนเขาอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างนาฬิกา Five Time Zone ในเวลาต่อมา

ในวัย 16 ปี อราโบได้เข้าทำงานที่โรงงานเครื่องประดับในย่าน Diamond District ของนิวยอร์ก โดยต้องโกหกอายุเพื่อให้ได้งาน แม้จะมีความสามารถในการประกอบเครื่องประดับ แต่เขารู้สึกเบื่อกับการทำตามแบบที่มีอยู่แล้ว จึงเริ่มออกแบบและสร้างชิ้นงานของตัวเองหลังเลิกงาน โดยใช้ห้องนอนเป็นพื้นที่ทำงาน งานออกแบบของเขาเริ่มเป็นที่นิยมและสร้างรายได้มากกว่างานประจำ จนกระทั่งในปี 1986 เมื่ออายุ 21 ปี เขาได้ลาออกและก่อตั้งแบรนด์ Jacob & Co. อย่างเป็นทางการ

การปฏิวัติวงการเครื่องประดับ

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อศิลปินฮิปฮอปชื่อดังอย่าง Notorious B.I.G. ได้พบกับอราโบและประทับใจในงานของเขา จนตั้งฉายาให้ว่า “Jacob the Jeweler” และแนะนำเขาให้รู้จักกับเพื่อนในวงการบันเทิง อราโบถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการออกแบบเครื่องประดับเพชรขนาดใหญ่สำหรับผู้ชาย ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเรื่องแปลกใหม่มาก แต่ปัจจุบันกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วไป

ฐานลูกค้าของเขาเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการเพลงฮิปฮอป รวมถึง Sean “Puffy” Combs, Biz, Jay-Z, Drake, 50 Cent และ Big Sean ต่อมากลุ่มลูกค้าได้ขยายไปสู่คนดังในวงการบันเทิงและกีฬา เช่น Madonna, Rihanna, Pharrell, Elton John, David และ Victoria Beckham, Jennifer Lopez, Salma Hayek, Sofia Vergara, Michael Jordan และ Mariah Carey

การก้าวสู่วงการนาฬิกาหรู

ในปี 2002 Jacob & Co. ได้เปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชันแรกที่ชื่อว่า Five Time Zone เป็นนาฬิกาควอตซ์ที่แสดงเขตเวลาได้ถึง 5 เขต พร้อมสีสันสดใสและขอบหน้าปัดและสายนาฬิกาที่สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ นับเป็นทั้งแฟชั่นสเตทเมนท์และเครื่องมือสำหรับนักเดินทางในเวลาเดียวกัน บุคคลมีชื่อเสียงอย่าง Naomi Campbell, Bono, Angela Bassett และ Derek Jeter ต่างก็สวมใส่นาฬิการุ่นนี้

ต่อมาในปี 2007 อราโบได้ก่อตั้ง Jacob & Co. SA ในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเปิดตัวนาฬิกากลไกซับซ้อนเรือนแรกที่ชื่อ Quenttin ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่มีทูร์บิยองแนวตั้งและสำรองพลังงานได้นานถึง 31 วัน นับเป็นสถิติการสำรองพลังงานที่ยาวนานที่สุดในโลกในเวลานั้น นาฬิการุ่นนี้ได้รับชื่อจากลูกค้าที่มาวางเงินมัดจำ และต่อมาผู้กำกับภาพยนตร์ Quentin Tarantino ก็ได้ซื้อนาฬิการุ่นนี้เช่นกัน

นวัตกรรมที่ท้าทายขีดจำกัด

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นที่สุดของ Jacob & Co. คือคอลเลกชัน Astronomia ที่เปิดตัวในปี 2014 นาฬิกานี้มีกลไกแนวตั้งพร้อมแขนสี่แฉกที่หมุนรอบเฟืองกลางทุก 20 นาที แต่ละแขนติดตั้งองค์ประกอบที่แตกต่างกัน บนแขนหนึ่งคือลูกโลกแม็กนีเซียมเคลือบสี และบนแขนตรงข้ามคือเพชรเจียระไน 288 เหลี่ยมน้ำหนัก 1 กะรัตที่เรียกว่า “Jacob Cut” แทนดวงจันทร์ ขณะที่แขนอีกสองด้านติดตั้งทูร์บิยองสามแกนและหน้าปัดแสดงเวลา อราโบเรียกนาฬิการุ่นนี้ว่า “ปฏิวัติวงการ” และเป็นนาฬิการุ่นที่สำคัญที่สุดของ Jacob & Co.

ในปี 2015 Jacob & Co. ได้เปิดตัวนาฬิกา Billionaire ที่มีราคาสูงถึง 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเรือนและสายทำจากทองขาว 18K ประดับด้วยเพชรน้ำหนักรวม 260 กะรัต แต่ละเม็ดหนัก 3 กะรัต นาฬิกานี้ถูกซื้อโดยนักมวยชื่อดัง Floyd Mayweather ในปี 2018

ปี 2018 Jacob & Co. ได้เปิดตัวนาฬิกา Twin Turbo Furious ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่รวมทูร์บิยองคู่แกนสามทิศทาง นาฬิกาตีบอกเวลาระบบทศนิยม โครโนกราฟแบบกดปุ่มเดียว และเครื่องคำนวณความแตกต่างของเวลาไว้ในเรือนเดียวกัน ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาสวิส

ความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

Jacob & Co. ได้ร่วมมือกับแบรนด์และบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายราย ในปี 2018 บริษัทได้ร่วมงานกับนักฟุตบอลชื่อดัง Lionel Messi เพื่อสร้างนาฬิกา Epic X Chrono รุ่นพิเศษที่ผสมผสานลักษณะเฉพาะของ Messi เช่น สีธงอาร์เจนตินา เลข 10 อันเป็นหมายเลขประจำตัว โลโก้ M ที่ออกแบบพิเศษ และลายเซ็นของเขาบนฝาหลัง

ปี 2019 เป็นปีที่บริษัทร่วมมือกับ Bugatti ผู้ผลิตรถสปอร์ตความเร็วสูง เพื่อพัฒนานาฬิกา Epic X นาฬิกาคอลเลกชันพิเศษ และในปี 2020 ได้เปิดตัวนาฬิกา Bugatti Chiron Tourbillon ที่ออกแบบเพื่อจำลองความรู้สึกของรถสปอร์ตระดับไฮเปอร์คาร์ Bugatti Chiron กลไกภายในมีเครื่องยนต์จำลองที่ทำงานได้จริงเหมือนเครื่องยนต์ W16 ของ Bugatti และตัวเรือนได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของตัวถังรถ Chiron

บริษัทยังได้ร่วมมือกับ Paramount Pictures ในการสร้างนาฬิกา Godfather Musical watch ที่มีกลไกเล่นดนตรี 120 โน้ตแรกของเพลงธีมหลักจากภาพยนตร์ The Godfather พร้อมรายละเอียดศิลปะที่จำลองจากฉากต่างๆ ในภาพยนตร์

นวัตกรรมและความกล้าที่จะแตกต่าง

Jacob & Co. มีชื่อเสียงในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน ในปี 2019 บริษัทได้เปิดตัวนาฬิกา Astronomia Casino ที่มีวงล้อรูเล็ตขนาดจิ๋วที่ทำงานได้จริงอยู่ภายใน และนาฬิกา Mystery Tourbillon ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่มีทูร์บิยองแกนสามทิศทางคู่ที่เชื่อมต่อกันและวางหันหลังชนกันตรงกลางของหน้าปัดที่ประดับด้วยอัญมณี

ในปี 2020 Jacob & Co. สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งด้วยการร่วมมือกับ NBC/Universal สร้างนาฬิกา Opera Scarface Musical ที่มีดนตรีและสัญลักษณ์จากภาพยนตร์ Scarface รวมทั้งยังร่วมมือกับแบรนด์สเก็ตบอร์ด Supreme, นักสู้ UFC Khabib Nurmagomedov และนักสำรวจ Johan Ernst Nilson

ในปี 2021 Jacob & Co. กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูแบรนด์แรกที่ขาย NFT ด้วยเวอร์ชันดิจิทัลของนาฬิกา SF24 Tourbillon ที่ขายได้ในราคา 100,000 เหรียญสหรัฐ และเป็นแบรนด์นาฬิกาหรูแบรนด์แรกที่รับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี

ปรัชญาและวิสัยทัศน์

แรงขับเคลื่อนหลักของ Jacob & Co. คือความคิดสร้างสรรค์ เจคอบ อราโบ มีปรัชญาการทำงานที่ว่า “ผมต้องสร้างสรรค์ ความฝันของผมคือการประดิษฐ์สิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน สำหรับแบรนด์ของเรา มันเกี่ยวกับการทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นความจริง”

Jacob & Co. ยืนหยัดในความเป็นผู้กล้า บุกเบิก นวัตกรรม สร้างสรรค์ และกล้าเสี่ยง บริษัทมีชื่อเสียงในการทำลายกรอบเดิมๆ ในวงการนาฬิกาและเครื่องประดับหรู โดยสร้างกลไกซับซ้อนและการผสมผสานที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการนาฬิกา ในขณะที่ยังคงใช้วิธีการแบบดั้งเดิมเพื่อสร้างนาฬิกาแนวใหม่ที่ไม่เหมือนใคร

คอลเลกชันที่น่าสนใจของ Jacob & Co.

1. Astronomia

Astronomia Solar Zodiac

Source: https://jacobandco.com/timepieces/astronomia-solar-zodiac/rose-gold-planets-zodiac

นาฬิกาไฮเอนด์ที่เป็นเสมือนกาแล็กซี่บนข้อมือ โดดเด่นด้วยกลไกแนวตั้งแบบสามมิติที่ซับซ้อนและทัศนียภาพอันน่าทึ่ง มีหลายเวอร์ชัน เช่น Astronomia Sky ที่แสดงแผนที่ดวงดาว, Astronomia Solar ที่แสดงระบบสุริยะด้วยอัญมณีหลากสี และ Astronomia Casino ที่มีวงล้อรูเล็ตขนาดจิ๋ว

2. Epic X

Epic X Chrono 44mm

Source: https://jacobandco.com/timepieces/epic-x-chrono-44mm/titanium-black-ceramic

นาฬิกาสปอร์ตสไตล์สเกเลตันที่เน้นโครงสร้างสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น มีทั้งรุ่นธรรมดาที่แสดงเวลาและรุ่น Epic X Chrono ที่มีฟังก์ชันจับเวลา นาฬิการุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากและมีรุ่นพิเศษที่ร่วมออกแบบกับ Lionel Messi

3. Twin Turbo

Twin Turbo

Source: https://jacobandco.com/timepieces/twin-turbo

นาฬิกากลไกซับซ้อนระดับสูงที่รวมทูร์บิยองคู่แกนสามทิศทางและฟังก์ชันอื่นๆ เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะรุ่น Twin Turbo Furious ที่มีความซับซ้อนสูงมากและมีรุ่นพิเศษที่ตัวเรือนทำจากแซฟไฟร์คริสตัลใสทั้งหมด

4. Palatial

Palatial Classic

Source: https://jacobandco.com/timepieces/palatial-classic

คอลเลกชันนาฬิกาสไตล์คลาสสิกที่เรียบหรูกว่าคอลเลกชันอื่นๆ มีหลายรุ่น เช่น Palatial Classic Automatic, Palatial Manual Big Date และ Palatial Five Time Zone ที่เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาต่อยอดมาจากนาฬิการุ่นแรกของแบรนด์

การเติบโตและความสำเร็จในปัจจุบัน

ปัจจุบัน Jacob & Co. มีร้านค้าของบริษัทเองในเมืองสำคัญต่างๆ เช่น นิวยอร์ก ไมอามี เจนีวา ดูไบ และกัวลาลัมเปอร์ รวมทั้งเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมกว่า 100 แห่งทั่วโลก

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก Jacob & Co. ยังคงเป็นธุรกิจที่บริหารโดยครอบครัว โดยมีเจคอบ อราโบ เป็นประธานและเบนจามิน อราบอฟ เป็น CEO โดยยังคงยึดมั่นในคุณค่าและความเชื่อที่เจคอบวางไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1986

สรุป

Jacob & Co. คือแบรนด์ที่สร้างตำนานแห่งความสำเร็จจากเด็กอพยพสู่แบรนด์หรูระดับโลก ด้วยวิสัยทัศน์และความกล้าที่จะแตกต่าง อราโบได้สร้างแบรนด์ที่โดดเด่นในวงการนาฬิกาและเครื่องประดับหรู ผลงานของเขาไม่เพียงแต่เป็นเครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังเป็นงานศิลปะและการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่