Credit Default Swap คือ
credit Default Swap (CDS) คือ เป็นเครื่องมือทางการเงินในรูปแบบหนึ่งของตราสารอนุพันธ์ที่ใช้ในการป้องกันหรือเป็นการประกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้หรือของผู้ออกตราสารหนี้ที่มีฐานะเป็นลูกหนี้ของผู้ซื้อ CDS นั้นเอง สรุปได้ว่า CDS คือ การป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ถือตราสารหนี้หรือสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
การทำงานของ CDS
- ผู้เกี่ยวข้องใน CDS
- ผู้ซื้อสัญญา (Protection Buyer): เป็นฝ่ายที่ซื้อประกันความเสี่ยงในการลงทุน โดยจ่ายค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ขายสัญญา CDS
- ผู้ขายสัญญา (Protection Seller): เป็นฝ่ายที่ขายประกันความเสี่ยง โดยรับค่าธรรมเนียมและตกลงจะชดเชยหากเกิดการผิดนัดชำระหนี้
- ผู้ออกตราสารหนี้ (Reference Entity): เป็นหน่วยงานหรือบริษัทที่ออกตราสารหนี้ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของ CDS
- Premium Leg: นี่คือค่าธรรมเนียมที่ผู้ซื้อ CDS จ่ายให้กับผู้ขาย CDS ตลอดระยะเวลาของสัญญา เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำในการซื้อประกันความเสี่ยง
- Protection Leg: ในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ผิดนัดชำระหนี้หรือเกิดเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ในสัญญา CDS ผู้ขาย CDS จะต้องชดเชยเงินให้แก่ผู้ซื้อ CDS ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้
บทบาทและประโยชน์ของ CDS
- การประกันความเสี่ยง: CDS ช่วยให้ผู้ถือหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้สามารถลดหรือประกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้
- ความยืดหยุ่น: CDS ให้ความยืดหยุ่นในการจัดการความเสี่ยง ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อประกันความเสี่ยงในระดับที่พวกเขาต้องการ
- ตลาดทุนที่มีประสิทธิภาพ: CDS ช่วยให้ตลาดทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงของพวกเขาได้
- เครื่องมือการเงินสมัยใหม่: CDS เป็นส่วนหนึ่งของตลาดการเงินสมัยใหม่ ที่ช่วยให้นักลงทุนมีเครื่องมือหลากหลายในการจัดการความเสี่ยง
- รับมือกับความไม่แน่นอน: CDS เป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับมือกับความไม่แน่นอนในตลาดทุน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ตลาดหนี้มีความผันผวน
รูปแบบของ credit default swap
Credit Default Swap (CDS) เป็นตราสารอนุพันธ์ที่ให้ความป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ และมีหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความเสี่ยงที่แตกต่างกันของนักลงทุน รูปแบบของ CDS ที่สำคัญมีดังนี้
- Single-credit CDS: นี่เป็นรูปแบบของ CDS ที่เน้นการประกันความเสี่ยงของหนี้รายการเดียว เช่น ตราสารหนี้ของบริษัทเฉพาะ, ธนาคารเฉพาะ, หรือหน่วยงานรัฐบาลเฉพาะ นักลงทุนสามารถซื้อ Single-credit CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ของเอนทิตีเฉพาะ ซึ่งช่วยให้พวกเขาลดความเสี่ยงในกรณีที่เอนทิตีนั้นผิดนัดชำระหนี้
- Multi-credit CDS: รูปแบบนี้เป็นการประกันความเสี่ยงในลักษณะของพอร์ตสินเชื่อหรือตราสารหนี้หลายรายการ นักลงทุนและผู้ขายสัญญา CDS สามารถตกลงกันเพื่อกำหนดพอร์ตสินเชื่อที่จะรวมไว้ในสัญญา CDS นั่นหมายถึงการรับประกันความเสี่ยงของตราสารหนี้หลายรายการภายใต้สัญญาเดียว
- CDS Index: ตราสารประเภทนี้เป็นดัชนีอ้างอิงซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม CDS และมักมีอายุตั้งแต่ 1-10 ปี ดัชนี CDS มักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวัดและติดตามความเสี่ยงของตลาดตราสารหนี้โดยรวม โดยเฉพาะดัชนี CDS ที่มีอายุ 5 ปี ซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดและมีการซื้อขายบ่อยครั้ง
การใช้งาน CDS ในรูปแบบต่างๆ เหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับปรุงและจัดการพอร์ตการลงทุนของตนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุน ทั้งนี้ CDS ในแต่ละรูปแบบมีลักษณะและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
credit default swap ใช้ทำอะไรได้บ้าง
Credit Default Swap (CDS) เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ประโยชน์ในการจัดการกับความเสี่ยงและการเก็งกำไรในตลาดการเงิน มีสองลักษณะหลักในการใช้งานของ CDS ดังต่อไปนี้
การเก็งกำไร
- Speculator (การเก็งกำไรมูลค่า CDS): นักลงทุนบางกลุ่มใช้ CDS เพื่อการเก็งกำไร โดยพยายามทำนายทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา CDS ซึ่งขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้อง การเก็งกำไรนี้สามารถทำกำไรได้หากนักลงทุนสามารถทำนายความเปลี่ยนแปลงของความเสี่ยงด้านเครดิตได้อย่างถูกต้อง
- Arbitrage (การทำกำไรแบบไม่มีความเสี่ยง): ในกรณีนี้ นักลงทุนจะหาโอกาสในการทำกำไรจากการซื้อและขาย CDS และตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องในตลาดต่างๆ เพื่อหาผลต่างของราคา ซึ่งเป็นช่องว่างของราคาสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตลาดต่างๆ
การป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้
- ธนาคารและสถาบันการเงินบางแห่งใช้ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่ผู้กู้อาจผิดนัดชำระหนี้ โดยการซื้อ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ ธนาคารสามารถลดความเสี่ยงในพอร์ตสินเชื่อของตน
- บริษัทประกัน, กองทุนเพื่อการเกษียณ, และนักลงทุนรายอื่นๆ ที่ถือตราสารหนี้ ใช้ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านเครดิตของตราสารหนี้ที่พวกเขาซื้อมา การซื้อ CDS ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่อาจมีความเสี่ยงสูง
ดังนั้นแล้ว การใช้งาน CDS ในทั้งสองลักษณะนี้สะท้อนถึงความหลากหลายในการใช้งานของตราสารอนุพันธ์นี้ ในขณะที่การเก็งกำไรด้วย CDS สามารถนำไปสู่ผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน การใช้ CDS เพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นการใช้งานที่สำคัญสำหรับสถาบันการเงินและนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ CDS จึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการจัดการความเสี่ยงในตลาดการเงินสมัยใหม่
กรณีศึกษาตัวอย่างนี้เป็นการใช้ CDS
สมมติเรามีบริษัท A ที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อหวังผลตอบแทนที่ดี บริษัท A จึงไปซื้อตราสารหนี้จากบริษัท B ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือในตลาด โดยมูลค่าของการลงทุนนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท และบริษัท B สัญญาจะให้ผลตอบแทนถึง 10% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงและน่าดึงดูด
แต่ในโลกของการลงทุน ทุกการลงทุนมักมีความเสี่ยง และบริษัท A ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพื่อให้การลงทุนของตนเองมั่นคงและลดความเสี่ยงจากการที่บริษัท B อาจจะผิดนัดชำระหนี้ บริษัท A จึงไปหาทางป้องกันความเสี่ยงนี้ด้วยการซื้อ Credit Default Swap (CDS) จากบริษัท C ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการจัดการความเสี่ยง
ข้อตกลงของการซื้อ CDS นี้คือ บริษัท A ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับบริษัท C อัตรา 5% ต่อปีของมูลค่าตราสารหนี้ที่ลงทุน ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าบริษัท B จะยังสามารถจ่ายดอกเบี้ยตามที่สัญญาไว้ บริษัท A ก็ยังต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมนี้ให้กับบริษัท C ตลอดอายุของสัญญา CDS
และถ้าหากเกิดสถานการณ์ที่บริษัท B ไม่สามารถชำระหนี้หรือผิดนัดชำระ บริษัท C จะเข้ามาชดเชยเงินให้กับบริษัท A ตามข้อตกลงในสัญญา CDS ซึ่งสามารถช่วยให้บริษัท A ไม่ต้องสูญเสียเงินทุนที่ลงไป แม้จะได้ผลตอบแทนที่ลดลงเพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้บริษัท C แต่ก็ได้รับการป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนจากการผิดนัดของบริษัท B
ในทางกลับกัน บริษัท C ซึ่งเป็นผู้ขายสัญญา CDS ได้รับค่าธรรมเนียมจากการประกันความเสี่ยงนี้ ซึ่งเป็นรายได้ที่แน่นอนสำหรับบริษัท C ทั้งนี้ บริษัท C ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากบริษัท B ผิดนัดชำระหนี้จริง
ดังนั้น ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นว่า CDS เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัท A สามารถป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัท B ได้ เรียกได้ว่าเป็นการประกันความเสี่ยงที่ช่วยให้ทั้งบริษัท A และ C ได้รับประโยชน์ในทางการเงินและการจัดการความเสี่ยง
สรุป
Credit Default Swap (CDS) เป็นเหมือนการซื้อประกันความเสี่ยงในโลกของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ หรือเราอาจจะมองมันเป็นเหมือนการซื้อประกันรถยนต์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ แต่ในกรณีนี้ เรากำลังซื้อประกันสำหรับการลงทุนของเราเอง
ในการใช้ CDS มีสองฝ่ายหลักๆ คือผู้ซื้อสัญญา CDS และผู้ขายสัญญา CDS สมมติว่าคุณมีตราสารหนี้จากบริษัทหนึ่ง แต่คุณกังวลว่าบริษัทนั้นอาจจะไม่สามารถจ่ายหนี้หรือดอกเบี้ยให้คุณได้ คุณสามารถซื้อ CDS จากบริษัทอื่น เพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้
ในสถานการณ์ที่บริษัทที่คุณถือตราสารหนี้ผิดนัดชำระหนี้ บริษัทที่คุณซื้อ CDS จากนั้น (ผู้ขายสัญญา CDS) จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้คุณ เพื่อครอบคลุมการสูญเสียที่คุณอาจเกิดขึ้น นี่เป็นเหมือนการที่คุณจ่ายเงินค่าประกันรถยนต์ทุกๆ ปี และเมื่อเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะครอบคลุมค่าเสียหายให้คุณ
ทั้งนี้ การซื้อ CDS มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับผู้ขายสัญญา CDS เป็นประจำ (เหมือนการจ่ายเบี้ยประกัน) แต่ในทางกลับกัน คุณก็ได้รับความคุ้มครองจากความเสี่ยงที่ตราสารหนี้ที่คุณถืออาจจะไม่สามารถจ่ายหนี้ได้
สรุปง่ายๆ CDS เป็นเหมือนประกันภัยสำหรับการลงทุนของคุณ ช่วยให้คุณลดความเสี่ยงจากการที่บริษัทที่คุณลงทุนอาจจะไม่สามารถจ่ายหนี้ให้คุณได้ และเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการจัดการความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของคุณนั้นเอง