รู้หรือไม่ว่า ร้านขายสินค้าชื่อดังในอเมริกาอย่าง Costco ทำไมถึงประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่ลูกค้าต้องจ่ายค่าสมาชิกก่อนเข้าไปซื้อสินค้าเท่านั้น ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เข้าไปซื้อได้ และแค่ค่าสมาชิกเพียงอย่างเดียวปีนึงก็ได้รับเกือบห้าพันล้านเหรียญสหรัฐ คิดดูว่ายังไม่ทันขายของได้ แต่มีรายได้ค่าสมาชิกเข้ามาก่อนแล้ว เขาขายอะไรและมีกลยุทธ์ธุรกิจอย่างไร บทความนี้จะเล่าให้ฟัง

Costco คือใคร?

Costco Wholesale Corporation บริษัทค้าส่งสัญชาติอเมริกัน เริ่มดำเนินการในปี 1983 ที่ซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ปัจจุบันมี 890 สาขา (ณ 1 กันยายน 2024) Costco จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใต้สัญลักษณ์ Nasdaq ว่า COST” และมีสำนักงานใหญ่ในเมืองอิสซาควาห์ รัฐวอชิงตัน

Costco จำหน่ายสินค้าคุณภาพในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าส่งหรือร้านค้าปลีกทั่วไป โดยเน้นขายสินค้าเป็นแพ็คใหญ่ๆ ครั้งละมากๆ หมวดหมู่ของสินค้า ได้แก่ ของชำ ขนมหวาน เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ อุปกรณ์ยานยนต์ ยางรถยนต์ ของเล่น ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์กีฬา เครื่องประดับ นาฬิกา กล้อง หนังสือ เครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้า อุปกรณ์เพื่อสุขภาพและความงาม เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์สำนักงาน เป็นต้น โดย Costco ขึ้นชื่อในด้านการนำแบรนด์ระดับประเทศและระดับภูมิภาคคุณภาพสูงมาจำหน่าย พร้อมรับประกันความพึงพอใจ 100%

นอกจากนี้บริษัทยังเปิดสถานีบริการน้ำมันแบบบริการตนเองในสาขาต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สเปน เม็กซิโก ไต้หวัน และไอซ์แลนด์อีกด้วย โดยมีถึง 719 แห่ง ณ สิ้นปี 2024

และยังมีผลิตภัณฑ์ Kirkland Signature™ ซึ่งเป็นตราสินค้าของ Costco เอง โดยได้รับการออกแบบให้มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ คุกกี้ กาแฟ ของใช้ในบ้าน กระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้า และผงซักฟอก โดยสามารถบริหารต้นทุนและขายในราคาถูก

ถ้าเทียบให้เห็นภาพก็คือ Costco คล้าย Makro บ้านเรานั่นเอง

สมาชิก Costco

ลูกค้าที่เข้ามาซื้อที่ห้างฯนี้ได้ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้

  • Gold star member
  • Business member
  • Executive member

โดยสมาชิกแต่ละระดับก็จะมีความพิเศษแตกต่างกันไป รวมถึงราคาที่สมาชิกจ่ายก็ไม่เท่ากัน เช่นระดับ Executive ประมาณ 130 เหรียญต่อปี จะได้รับสิทธิพิเศษได้แก่ ส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับประกันรถยนต์และบ้าน การพิมพ์เช็ค การปกป้องข้อมูลส่วนตัว การประมวลผลการชำระเงิน การจัดส่งน้ำขวด และได้รับคะแนนสะสม 2% ต่อปี (สูงสุด 1,000 เหรียญ) สำหรับการซื้อสินค้าที่ Costco ที่เข้าเงื่อนไข เป็นต้น สมาชิกระดับ Business ต้องเป็นสมาชิกที่มีธุรกิจของตนเอง ชำระค่าธรรมเนียมรายปี 65 เหรียญ และสามารถซื้อบัตรสมาชิกเพิ่มเติมสำหรับหุ้นส่วนหรือผู้ร่วมงานในธุรกิจได้ ส่วน Gold Star จะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี 65 เหรียญ เป็นต้น

ซึ่งปัจจุบัน Costco มีสมาชิกอยู่เกือบ 137 ล้านคนทั่วโลก

กลยุทธ์ของ Costco

  • เน้นขายสินค้าในราคาถูก แต่ปริมาณที่มาก และมีการหมุนเวียนของสินค้ารวดเร็ว
  • สามารถต่อรอง supplier ให้ได้ดีลที่ดี เช่น hot dog ราคา 1.50 เหรียญ ซึ่งไม่เคยปรับราคามาตั้งแต่ปี 1985 ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้า
  • การคิดค้นและเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนต์ตนเอง (Kirkland Signature™) หลายรายการ รวมไปถึงการลดต้นทุนในบรรจุภัณฑ์ต่างๆของแบรนด์ เพื่อจูงใจผู้บริโภคให้สามารถซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลงและรักษ์โลกไปได้ในตัว
  • ดูแลพนักงานของบริษัทเป็นอย่างดี เพราะพนักงานที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่หมายความว่าสมาชิกหรือลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความสุภาพและความเป็นมิตรทุกครั้งที่มาใช้บริการ
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมหลายราย จึงไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าจำนวนมากจาก Supplier รายใดรายหนึ่ง เป็นการสร้างทางเลือกให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี

ผลประกอบการ

  • ยอดขายสุทธิในปี 2024 อยู่ที่ 249.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน
  • รายได้สุทธิอยู่ที่ 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17%
  • รายได้จากค่าธรรมเนียมสมาชิกเพิ่มขึ้น 5% เป็น 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และฐานสมาชิกของเติบโตขึ้น โดยมีผู้ถือบัตรสมาชิกเกือบ 137 ล้านคน และมีอัตราการต่ออายุสมาชิกอยู่ที่ 92.9% ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และ 90.5% ทั่วโลก

บทสรุป

สมาชิกก็เหมือนดาบสองคมเช่นกัน เมื่อลูกค้าจ่ายเงินค่าสมาชิก ก็ถือเป็นแรงผลักดันให้อยากเข้ามาซื้อหรือเข้ามาใช้สิทธิกันบ้าง แต่ในทางกลับกันถ้าสินค้าไม่น่าสนใจมากพอ โอกาสจะต่อสมาชิกก็คงไม่มีเช่นกัน และเมื่อไม่เป็นสมาชิกก็ยิ่งไม่เข้ามาเดินที่ห้างฯนี้เลย ดังนั้น Costco ต้องมีกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้ามากพอควรที่ทำให้เห็นว่า สินค้าเหล่านั้นมีความคุ้มค่ากับค่าสมาชิกที่เสียไป โดยกลยุทธ์ที่ Costco ใช้ ทั้งเริ่มจากการดูแลพนักงาน การบริหารต้นทุน การสร้างแบรนด์คุณภาพของตนเอง ทั้งหมดก็เพื่อสร้างความภักดีต่อผู้บริโภคหรือ Brand Loyalty เพื่อให้เป็นสมาชิกและมาใช้บริการที่ห้างฯได้อย่างต่อเนื่องยาวนานนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

  • https://investor.costco.com