Source: https://www.wallstreetmojo.com/financial-forecasting/
หลังจากที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับทุกๆอย่างในการวิเคราะห์งบการเงินกันไปแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นการนำงบการเงินมาเพื่อจัดทำประมาณการงบการเงินในอนาคตของหุ้นแต่ละตัว อาจทำได้โดยการการเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินปัจจุบันและในอดีต เพื่อที่จะทำนายแนวโน้มของทั้งความสามารถในการทำกำไร, การชำระหนี้, และการใช้ leverage ในอนาคต
ส่วนการเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันจะช่วยบอกกลยุทธ์ที่บริษัทใช้ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ขายของที่เป็นเทคโนโลยีใหม่มักจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าบริษัทที่ขายของระดับทั่วๆไป และถ้าหากบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำไรโดยการลดต้นทุน เราก็สามารถตรวจสอบได้จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เปลี่ยนแปลงไปว่าบริษัทสามารถทำได้ตามแผนจริงหรือไม่
การประมาณการโดยปกติแล้วเราจะเริ่มจากการคาดการณ์รายได้ที่บริษัทจะทำได้ในงวดถัดๆไปก่อน นักลงทุนอาจใช้วิธีการดูจากภาพใหญ่ลงมาภาพเล็ก (Top-down analysis) โดยการดูอัตราการเติบโตของ GDP จากนั้นก็ลงมาดูอัตราการเติบโตของรายได้ในอุตสาหกรรมเพื่อหาความสัมพันธ์กับ GDP ของทั้งประเทศ จากนั้นก็วิเคราะห์ว่าส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทจะคงที่หรือไม่ ซึ่งถ้าหากคงที่ แปลได้ว่าอัตราการเติบโตของรายได้บริษัทอาจเท่าๆกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมนั่นเอง
ในการประมาณการรายได้อย่างง่าย นักลงทุนสามารถใช้ค่าเฉลี่ยในอดีต หรืออัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตามแนวโน้ม (อัตรากำไรขั้นต้น, EBIT Margin, และอัตรากำไรสุทธิ) มาทำนายรายได้ในอนาคตได้โดยตรง
Source: https://www.wallstreetmojo.com/financial-forecasting/
อย่างไรก็ตามหากเราต้องการประมาณการอย่างละเอียด สามารถทำได้โดยการคาดการณ์แต่ละบรรทัดในงบการเงินด้วยสมมติฐานที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อได้ประมาณการรายได้มาแล้ว อาจคำนวณส่วนอื่นๆของงบการเงินด้วยการคิดเป็นสัดส่วนของรายได้
ตัวอย่างเช่น บริษัทมีรายได้ 100 ล้านบาทในปีแรก คาดว่าในปีที่ 2 รายได้จะโต 10% ตามปกติแล้ว COGS จะคิดเป็น 40% ของรายได้ และ SG&A 20% ของรายได้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% จงประมาณการกำไรสุทธิของปีที่ 2
ในปีที่ 2 บริษัทจะมีรายได้ 100 x (1 + 0.10) = 110 ล้านบาท มี COGS 110 x 0.40 = 44 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 110 – 44 = 66 ล้านบาท มี SG&A 110 x 0.20 = 22 ล้านบาท ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 66 – 22 = 44 ล้านบาท มีภาษีจ่าย 44 x 0.20 = 8.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44 – 8.8 = 35.2 ล้านบาท
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง