Source: https://www.wallstreetmojo.com/financial-system/
ระบบการเงินเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน, ตลาดเงิน, หรือตลาดหลักทรัพย์ ต่างเกิดมาเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้:
Source: https://www.wallstreetmojo.com/financial-system/
– เพื่อให้แต่ละบุคคลและนิติบุคคลสามารถฝากเงิน, กู้เงิน, ระดมทุน, บริหารความเสี่ยง, และแลกเปลี่ยนซื้อขายสินทรัพย์ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และสินทรัพย์ในอนาคต (Futures)
– สามารถระบุอัตราผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) ที่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนปริมาณที่ต้องการฝากเงินและความต้องการในการกู้เงิน
– เพื่อจัดสรรเงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ชนิดของสินทรัพย์
สินทรัพย์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ประกอบด้วยสินทรัพย์ทางการเงิน (Financial assets) และสินทรัพย์แท้จริง (Real assets)
Financial assets ประกอบด้วย:
- หุ้น (Equity) เป็นหลักทรัพย์ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของบริษัทต่างๆ แบ่งได้เป็น หุ้นสามัญ (Common stock), หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred stock), และใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant)
- ตราสารหนี้ (Debt หรือ Fixed income securities) เป็นหลักทรัพย์ที่ออกมาสำหรับการขายให้กับผู้ปล่อยกู้เพื่อขอกู้เงิน แบ่งได้เป็นหุ้นกู้, พันธบัตรรัฐบาล, และตราสารพาณิชย์ (Commercial paper)
- อนุพันธ์ (Derivative contracts) เป็นการทำสัญญากันระหว่าง 2 ฝ่ายเพื่อให้เกิดธุรกรรมต่างๆในอนาคต เช่น การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์กับเงินสด แบ่งได้เป็น Futures, Forwarchs, Options, Swaps, และสัญญาประกันภัย
- เงินตรา (Currencies) ถูกผลิตโดยธนาคารกลางของรัฐบาลแต่ละประเทศ เป็นเงินสกุลต่างๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ, บาทไทย, หรือยูโร
Real assets คือสินทรัพย์ที่มีตัวตนต่างๆ ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ (Real estate), อุปกรณ์และเครื่องจักร (Equipment and machinery) ซึ่งมักจะใช้สำหรับกระบวนการผลิต ส่วน Real assets อีกชนิดคือสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) เป็นสินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายทั้งในตลาดราคาปัจจุบัน (Spot), Forward, และ Futures โดยหลักทรัพย์ 2 ชนิดหลังสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารความเสี่ยงได้ ตัวอย่างเช่น หากเจ้าของฟาร์มข้าวโพดคาดการณ์ว่าราคาข้าวโพดจะปรับตัวลง เจ้าของฟาร์มสามารถขาย Short ข้าวโพดเอาไว้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่เสียกำไรมากเท่ากับการปลูกข้าวโพดขายอย่างเดียว
ตัวกลางทางการเงิน
ตัวกลางทางการเงิน (Financial intermediaries) เป็นบุคคลที่อยู่ตรงกลางระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย มีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์, เงินทุน, และความเสี่ยง ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ หลักๆแบ่งตัวกลางทางการเงินได้ดังนี้:
- Brokers มีหน้าที่ช่วยลูกค้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยการหาอีกฝ่ายที่ต้องการทำธุรกรรมร่วมกัน
- Securitizers นำตราสารหนี้ต่างๆมารวมกันแล้วออกเป็นหลักทรัพย์ชนิดใหม่ โดยมีการแบ่งเป็น Tranches เพื่อแยกระดับความเสี่ยงต่างๆออกจากกัน
- Depository institutions ประกอบด้วยธนาคาร และ Credit unions มีหน้าที่รับฝากเงินโดยจ่ายผลตอบแทนให้ในรูปดอกเบี้ย และนำเงินฝากไปปล่อยกู้เพื่อเก็บดอกเบี้ยจากผู้ขอกู้อีกต่อหนึ่ง
- Insurance companies บริษัทประกันมีหน้าที่เก็บเบี้ยประกันจากลูกค้าเพื่อแลกกับการลดความเสี่ยงในสิ่งที่ประกันคุ้มครอง
- Clearing house มีหน้าที่โอนเงินและสินทรัพย์ไปยังผู้ซื้อขายแต่ละฝ่าย และรับประกันความเรียบร้อยของการดำเนินการตามสัญญา จึงเรียกได้ว่าเป็นตัวกลางที่มาช่วยลดความเสี่ยงระหว่างฝ่ายต่างๆให้ทำตามข้อผูกมัดให้สมบูรณ์
- Custodians มีหน้าที่จัดเก็บหลักทรัพย์ให้กับลูกค้า และป้องกันจากการฉ้อโกงต่างๆที่มีผลกระทบต่อ Brokers หรือผู้จัดการการลงทุน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 1) บทนำ
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 2) Positions and Leverage
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 3) Order Execution
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 4) Primary and Secondary Market
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 5) Quote-Driven, Order-Driven, and Brokered Markets
- หลักการวิเคราะห์บริษัท: Financial System (Part 6) ลักษณะของระบบการเงินที่ดี