Source: https://corporatefinanceinstitute.com/resources/management/sole-proprietorship/

ในการประกอบธุรกิจ เจ้าของกิจการจำเป็นที่จะต้องมีตัวตนในโลกธุรกิจแระเภทใดประเภทหนึ่งจาก 4 ประเภทดังนี้:

กิจการเจ้าของคนเดียว (Sole proprietorship) เป็นธุรกิจที่มีเจ้าของเพียงคนเดียวตามชื่อ ซึ่งตัวกิจการถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตัวเจ้าของ นั่นหมายความว่าเจ้าของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบภาระหนี้สินต่างๆอย่างไม่จำกัด (Unlimited liability) แต่ก็เป็นผู้รับผลกำไรแต่เพียงผู้เดียวเช่นกัน กิจการประเภทนี้จึงมักจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่ เนื่องจากต้องบริหารการเงินให้มั่นคง

ห้างหุ้นส่วน (General partnership) เป็นการขยายขนาดของกิจการมาเป็นการมีเจ้าของร่วม 2 คนขึ้นไป แต่ว่าภาระหนี้สินจะยังคงอยู่ที่ตัวหุ้นส่วนแต่ละคนอยู่ ดังนั้นผลกำไรที่แบ่งให้กับหุ้นส่วนแต่ละคนก็จะถูกนำไปคิดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited partnership) ประกอบไปด้วยหุ้นส่วน 2 ประเภทคือ หุ้นส่วนทั่วไป (General partners) ที่มีภาระหนี้สินไม่จำกัดเหมือนกับในประเภทก่อนหน้า และหุ้นส่วนแบบจำกัด (Limited partners) ซึ่งคำว่าจำกัดในที่นี้หมายความว่ามีภาระหนี้สินที่จำกัด อย่างไรก็ตามหุ้นส่วนประเภทนี้ก็จะได้ส่วนแบ่งผลกำไรเป็นสัดส่วนตามที่ลงทุนไปเช่นกัน ข้อตกลงการจ่ายเงินปันผลจะอยู่ในข้อตกลงของห้างหุ้นส่วน และหุ้นส่วนแบบจำกัดไม่มีอำนาจในการปลดหุ้นส่วนทั่วไป

บริษัทจำกัด (Limited company หรือ Corporation) ถือว่าเป็นนิติบุคคลที่แยกออกมาจากตัวเจ้าของและผู้บริหาร ดังนั้นผู้ถือหุ้นทุกคนจะมีภาระหนี้สินจำกัดตามจำนวนเงินที่ลงทุนไป ไม่มีการจ่ายหนี้สินเพิ่มเติมหากเงินที่ลงทุนไปมีมูลค่าเหลือศูนย์ บริษัทจำกัดจึงมักจะมีขนาดที่ใหญ่ เนื่องจากสามารถระดมเงินทุนทั้งการกู้ยืมหนี้สิน และการเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นโดยการเพิ่มทุนได้ง่ายนั่นเอง

อีกลักษณะเด่นของบริษัทจำกัดก็คือการที่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นจะแยกกับฝ่ายบริหาร ซึ่งบอร์ดบริหารก็จะทำการจัดหาผู้จัดการมาบริหารกิจการต่อไป โดยทั้งบอร์ดบริหารและผู้จัดการจะบริหารกิจการให้เป็นไปในทิศทางที่ผู้ถือหุ้นต้องการ

บริษัทจำกัดสามารถแบ่งได้เป็นทั้งแบบแสวงหาผลกำไร และไม่แสวงหาผลกำไร โดยบริษัทแบบไม่แสวงหาผลกำไรมีเป้าหมายเพื่อการกุศล และผลกำไรที่บริษัททำออกมาได้จะถูกนำไปลงทุนต่อตามภารกิจแทนที่จะปันผลให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทประเภทนี้มักจะไม่ถูกเก็บภาษี

บริษัทมหาชน (Public company) เป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยในบางประเทศบริษัทอาจเรียกว่าเป็นบริษัทมหาชนได้หากมีจำนวนผู้ถือหุ้นที่กำหนดเอาไว้

การที่มี 2 ตัวตนทั้งนิติบุคคลและตัวผู้ถือหุ้น ส่งผลให้เกิดการคิดภาษีซ้ำซ้อน 2 ครั้ง (Double taxtion) โดยมีการคิดภาษีนิติบุคคลก่อนหนึ่งครั้ง แล้วก็คิดเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกต่อหนึ่ง ในประเทศไทยมรการ “เครดิตภาษี” เพื่อลดการคิดภาษีซ้ำซ้อนนี้ โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับภาษีนิติบุคคลคืน และนำเงินปันผลที่ได้ไปคำนวณรวมกับรายได้ของแต่ละบุคคลตามปกติ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง