Option เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความซับซ้อน โดยมูลค่าของ option ถูกกำหนดโดยปัจจัยสำคัญ 6 ประการ ดังนี้

  1. ราคาของสินทรัพย์อ้างอิง (Price of the underlying asset) สำหรับ call option ราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่สูงขึ้นจะทำให้มูลค่าการใช้สิทธิและมูลค่าของ option เพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน ราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่ต่ำลงจะทำให้มูลค่าการใช้สิทธิและมูลค่าของ call option ลดลง โดยทั่วไปแล้ว มูลค่าของ call option จะเพิ่มขึ้นเมื่อมูลค่าของสินทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้น

สำหรับ put option ความสัมพันธ์นี้จะตรงกันข้าม กล่าวคือ การเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะทำให้มูลค่าของ put option ลดลง

  1. ราคาใช้สิทธิ (Exercise price) ราคาใช้สิทธิที่สูงขึ้นจะทำให้มูลค่าของ call option ลดลง ในขณะที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำลงจะทำให้มูลค่าของ call option เพิ่มขึ้น

สำหรับ put option ราคาใช้สิทธิที่สูงขึ้นจะทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาใช้สิทธิที่ต่ำลงจะทำให้มูลค่าลดลง

  1. อัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยง (Risk-free rate) การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงจะทำให้มูลค่าของ call option เพิ่มขึ้น และการลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงจะทำให้มูลค่าของ call option ลดลง

สำหรับ put option การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงจะทำให้มูลค่าลดลง และการลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงจะทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้น

  1. ความผันผวนของสินทรัพย์อ้างอิง (Volatility of the underlying) ความผันผวนเป็นสิ่งที่ทำให้ option มีมูลค่า หากไม่มีความผันผวนในราคาของสินทรัพย์อ้างอิง option จะมีมูลค่าเท่ากับมูลค่าการใช้สิทธิเท่านั้น และไม่มีมูลค่าเชิงเก็งกำไรหรือมูลค่าตามเวลา การเพิ่มขึ้นของความผันผวนในราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะทำให้มูลค่าของทั้ง putและ call option เพิ่มขึ้น ในขณะที่การลดลงของความผันผวนจะทำให้มูลค่าของทั้ง putและ call option ลดลง
  2. ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุ (Time to expiration) เนื่องจากความผันผวนถูกแสดงในหน่วยของเวลา ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุที่ยาวนานขึ้นจะเพิ่มความผันผวนที่คาดหวังและเพิ่มมูลค่าของ call option ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุที่สั้นลงจะลดมูลค่าตามเวลาของ call option ทำให้ ณ วันหมดอายุ มูลค่าของ option จะเท่ากับมูลค่าการใช้สิทธิเท่านั้น

สำหรับ put option ส่วนใหญ่ ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุที่ยาวนานขึ้นจะเพิ่มมูลค่าของ option ด้วยเหตุผลเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับ put option แบบยุโรปที่มีมูลค่าในเงินสูง ระยะเวลาจนถึงวันหมดอายุที่ยาวนานขึ้นอาจทำให้มูลค่าลดลงได้

  1. ต้นทุนและผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ (Costs and benefits of holding the asset) หากมีผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์อ้างอิง (เช่น เงินปันผลหรือดอกเบี้ยจากหลักทรัพย์ หรือผลตอบแทนจากความสะดวกในกรณีของสินค้าโภคภัณฑ์) มูลค่าของ call option จะลดลงและมูลค่าของ put option จะเพิ่มขึ้น เหตุผลสำหรับสิ่งนี้สามารถเข้าใจได้ง่ายที่สุดโดยพิจารณาผลประโยชน์ที่เป็นเงินสด เมื่อหุ้นจ่ายเงินปันผลหรือพันธบัตรจ่ายดอกเบี้ย สิ่งนี้จะลดมูลค่าของสินทรัพย์ การลดลงของมูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงจะทำให้มูลค่าของ call option ลดลงและมูลค่าของ put option เพิ่มขึ้น

ต้นทุนในการเก็บรักษาที่เป็นบวกทำให้การถือครองสินทรัพย์มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เราสามารถมองว่าสิ่งนี้ทำให้ call option มีมูลค่ามากขึ้น เนื่องจากผู้ถือ call option สามารถมีฐานะซื้อในสินทรัพย์โดยไม่ต้องจ่ายต้นทุนในการถือครองจริง ในทางกลับกัน put option จะมีมูลค่าน้อยลงเมื่อต้นทุนในการเก็บรักษาสูงขึ้น

สรุป

การเข้าใจปัจจัยทั้ง 6 ประการนี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการวิเคราะห์และประเมินมูลค่าของ options อย่างมีประสิทธิภาพ นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบเมื่อตัดสินใจซื้อขาย options เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าของ options ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว